ผลประชุม 2 พรรค เพื่อไทย- ชาติไทยพัฒนา ฝ่ายหลังย้ำจุดยืนเทิดทูนสถาบัน ไม่เอาพรรคแก้ม.112 และมีทัศนคติเชิงลบต่อสถาบันพระกษัตริย์ หากมีแนวทางพรรคการเมืองใดเป็นทางเดียวกัน ก็พร้อมสนับสนุน ขณะที่พรรคเพื่อไทย ย้ำการหารือพรรคการเมืองไม่ใช่การเชิญมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล เป็นเพียงขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลก่อนเสนอให้ 8 พรรคพิจารณาร่วมกัน
วันที่ 23 ก.ค.2566 เป็นวันที่สองของการหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติและทางออกของประเทศร่วมกันที่พรรคเพื่อไทยได้เชิญพรรคการเมืองอื่นๆเข้าร่วมหารือเพื่อหาทางออกในการจัดตั้งรัฐบาลตามภารกิจของ 8 พรรคร่วม
โดยวันนี้ เวลา 14.00 น. ได้ร่วมหารือกับ พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค นายอนุชา สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม รองหัวหน้าพรรค และนายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม เป็นตัวแทนพรรคเข้าร่วม
ขณะที่ตัวแทนพรรคเพื่อไทย มีนพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมหารือ ซึ่งหลังใช้เวลาในการหารือไม่นานทั้งสองพรรคได้ร่วมกันแถลงผลการหารือ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้รับมอบภารกิจจากพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและได้เสนอผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา และได้ส่งมอบภารกิจนี้ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการภารกิจนี้ภายใต้มติ 8 พรรคร่วมที่ให้พรรคเพื่อไทยแสวงหา เสียงสนับสนุนในรัฐสภา โดยแบ่งเป็น 2 แนวทางคือ
แนวทางที่ 1 ให้ไปพูดคุยกับ สว. เพื่อหาคะแนนเสียงเพิ่ม และขณะนี้พรรคเพื่อไทยก็มีคณะทำงานเพื่อหารือกับ สว.แล้ว
แนวทางที่ 2 ให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมืองอื่นๆในสภาผู้แทนราษฎร โดยแนวทางนี้พรรคเพื่อไทยเห็นว่าสำคัญ และทำในนามของพรรคการเมืองจึงเชิญพรรคการเมืองต่างๆที่มีอยู่ในสภาฯ มาพบปะพูดคุย เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆได้แสดงความคิดความเห็นว่าจะสามารถสนับสนุนได้อย่างไรบ้าง
“วันนี้เราได้เชิญพรรคชาติไทยพัฒนามาร่วมหารือ ผมเน้นย้ำครับว่า ไม่ใช่การเชิญมาเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่หารือเพื่อหาแนวทางว่าจะสามารถสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดของการหารือคือกระบวนการทำงานตามมติ 8 พรรคร่วม “ นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้านนายวราวุธ กล่าวว่า การพูดคุยกันวันนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาที่พูดไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง คือ การทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเทิดทูนสถาบันอันเป็นที่รักของพี่น้องประชาชนคนไทย
“ดังนั้นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่เราพูดถึงคือ การไม่แตะต้อง ไม่แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมไปถึงแนวทางทัศนคติต่อสถาบันที่สำคัญยิ่งของประเทศไทย หากแนวทางของพรรคการเมืองใดมีแนวคิดเช่นเดียวกับพรรคชาติไทยพัฒนา คือ ไม่แตะต้องมาตรา 112 ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก และมีแนวทางทัศนคติในเชิงบวก เคารพเทิดทูนสถาบันก็จะสามารถพูดคุยและทำงานร่วมกันได้ แต่ถ้าพรรคการเมืองใดมีแนวทางที่แตกต่างไปจากนี้หรือคิดเห็นไม่ตรงกัน เราก็จะแยกย้ายกันทำงาน”
อย่างไรก็ตาม นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยซึ่งมีแนวทางคล้ายกับพรรคชาติไทยพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องสถาบันและมาตรา 112 หากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็ยินดีที่จะสนับสนุน แต่การทำงานของพรรคเพื่อไทยจะต้องไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีแนวคิดแตกแยกออกไปออกจากจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา และหากมีพรรคการเมืองใดที่มีแนวคิดแตกแยกออกไปก็ต้องแยกย้ายกันทำงานไม่ได้ทำงานร่วมกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากลดเพดาน มาตรา 112 ลงจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า มีทั้งเรื่องของการแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคชาตไทยพัฒนาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และยังรวมไปถึง พรรคการเมืองที่มีทัศนคติต่อ สถาบันกษัตริย์ หากพรรคการเมืองที่มีทัศคติทางบวกกับ สถาบันกษัตริย์ และมีแนวคิดในการทำงานเดียวกันก็สามารถร่วมมือกันได้ และพร้อมสนับสนุน