ThaiPublica > เกาะกระแส > ผลสำรวจทักษะ ‘ภาษาอังกฤษ’ ของคนไทย สวนทางกับชั่วโมงเรียน และรั้งท้ายขบวน

ผลสำรวจทักษะ ‘ภาษาอังกฤษ’ ของคนไทย สวนทางกับชั่วโมงเรียน และรั้งท้ายขบวน

3 เมษายน 2023


ผลสำรวจทักษะ ‘ภาษาอังกฤษ’ ของคนไทย สวนทางกับชั่วโมงเรียน และรั้งท้ายขบวน แนะปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เน้นให้เห็นความสำคัญการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ ‘สื่อสาร’ มากกว่าเป็นวิชาที่ต้องสอบให้ผ่าน

รศ.ดร.สุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)

‘ภาษาอังกฤษ’ กลายเป็นภาษากลาง (Lingua Franca) ในการเชื่อมต่อคนเข้ากับ ‘โลก’ อีกทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปิดประตูแห่งโอกาสอย่างไร้พรมแดน ประเทศไทยเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษ และบรรจุหลักสูตรด้านภาษาเข้าไปในการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับอุดมศึกษา แต่ทว่าผลสัมฤทธิ์ทางทักษะด้านภาษาอังกฤษของคนไทย กลับยังถูกตั้งคำถามมาโดยตลอด

ที่น่าสนใจก็คือ ‘ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ’ ของคนไทยกลับสวนทางกับชั่วโมงเรียนในหลักสูตร โดยข้อมูลผลการจัดอันดับทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษโดย EF (Education First) โรงเรียนสอนภาษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ในปี 2022 ไทยมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษอยู่อันดับที่ 97 จาก 111 ประเทศทั่วโลก โดยเป็นรองประเทศกัมพูชา และเมียนมาร์ แม้เปรียบเทียบกับปีก่อนๆ และอีกหลายการสำรวจ ไทยก็มักอยู่ในอันดับท้ายๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีทักษะระดับต่ำมาก (Very low) เสมอ

จากจุดนี้อาจสะท้อนได้ว่า ที่ผ่านมาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของไทยเราอาจไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริง การมุ่งเน้นไปที่ไวยากรณ์-โครงสร้างประโยคอาจยังไม่ถูกที่ถูกทางเท่าที่ควร

รศ.ดร.สุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ให้ความเห็นว่า เพื่อเสริมทักษะและสร้างความเข้มแข็งด้านภาษาของคนไทย จำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้เกิดการเรียนรู้ด้วย ‘ตัวเอง’ ในรูปแบบ ‘นอกห้องเรียน’ มากขึ้น
ตลอดจนต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ โดยเน้นให้เห็นความสำคัญของการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ ‘สื่อสาร’ มากกว่าเป็นวิชาที่ต้องสอบให้ผ่าน

“ภาษาเป็นเครื่องมือไว้ใช้เพื่อการสื่อสาร ฉะนั้นถ้าสื่อความหมายกันรู้เรื่อง ก็ไม่มีอะไรผิด-อะไรถูก” รศ.ดร.สุพงศ์ กล่าว

แม้ว่าทุกวันนี้จะมีการเกิดขึ้นของหลักสูตรภาษาอังกฤษ หลักสูตรนานาชาติ ตลอดจนสถาบันกวดวิชาด้านภาษาที่เติบโตขึ้นจำนวนมาก หากแต่ ‘สถานะทางเศรษฐกิจ’ ของแต่ละบุคคล-ครัวเรือน กลับเป็นกำแพงที่กั้นขวางโอกาสนั้นเอาไว้

“เพื่อคลี่คลายข้อจำกัด สถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงขับเคลื่อนการบริการวิชาการสู่สังคม โดยมีบริการอบรมให้ความรู้ผ่านการสัมมนาออนไลน์ เกี่ยวกับการทำวิจัยในการเรียนการสอน การใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ฯลฯ ไปจนถึงการเผยแพร่สื่อความรู้ต่างๆ ในแพลตฟอร์มที่เข้าถึงง่าย เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป อีกทั้งยังมีหลักสูตรที่มีมาตรฐานอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งมีการพัฒนาอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของยุคสมัย เปิดให้คนไทยทุกคนที่มีความต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษเข้าถึงได้ โดยมีให้เลือกทั้งรูปแบบที่เสียค่าใช้จ่ายและ ไม่เสียค่าใช้จ่าย”

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสอบ TU-GET สำหรับวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทุกทักษะ ทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับข้อสอบที่ใช้ในการวัดระดับทั่วโลกอย่าง โทอิค (TOEIC) โทเฟิล (TOEFL) ไอเอลส์ (IELTS) และตามกรอบ CEFR (Common European Framework of Reference)

ในส่วนของการสร้างความยั่งยืน เมื่อช่วงปลายปี 2565 สถาบันภาษา มธ. ยังได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และโรงเรียนบางแห่งใน จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพมนานคร (กทม.) และยกระดับไปสู่โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพในการใช้ภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียน ผ่านโปรแกรม Reading Progress ที่มีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยประมวลผลพัฒนาการการใช้ภาษาอังกฤษ

“ผลลัพธ์ของการวิจัยจะช่วยตอบโจทย์ว่าอะไรคือเงื่อนไข และปัจจัยที่จะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเด็กไทย ซึ่งจะนำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อออกแบบอนาคตประเทศไทยต่อไป”

รศ.ดร.สุพงศ์ เชื่อมั่นว่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะช่วยสนับสนุนศักยภาพทางภาษา และทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ในเป้าหมายที่ 4 การสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วย