คลังปลื้ม ปชช. เข้าร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 กว่า 15,000 คน เฉพาะแบงก์ออมสินมีลูกหนี้ขอปรับโครงสร้างหนี้กว่า 1,000 ราย ยื่นขอสินเชื่อเติมเงินทุน-เพิ่มสภาพคล่องกว่า 800 ราย มอบ ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่นในวันที่ 18-20 พ.ย. นี้
ปิดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตลอด 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลกันเข้ามาติดต่อขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ และสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (GPA) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 18 แห่ง ที่ระดมผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขผ่อนปรน รวมทั้งการให้คำปรึกทางการเงินมาออกบูธกันที่ฮอล 5 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดย ดร.อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1” ว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของรัฐบาลที่เริ่มวางแผนงานกันมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และ SMEs ในระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ณ ฮอล 5 อิมแพค เมืองทองธานี เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่กำลังจะถูกดำเนินคดีหรือถูกบังคับหลักประกัน หลังจากกระทรวงยุติธรรมระดมหน่วยงานในสังกัดเข้าไปแก้ปัญหาคดีความให้กับลูกหนี้เสร็จเรียบร้อย
ปรากฏว่ายังเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาอีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียแล้วแต่ยังไม่ถูกดำเนินคดี กับกลุ่มลูกหนี้ปกติที่ขาดส่งหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ไหว กำลังจะกลายเป็น NPLs ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ร่วมกันจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ ต่อจากกระทรวงยุติธรรม ซึ่งตามแผนงานกำหนดให้มีการจัดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ สัญจรไปตามภูมิภาคต่างๆ รวม 5 ครั้ง
“จากการพูดคุยกับประชาชนที่มาร่วมงาน ส่วนใหญ่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สิน บางคนอึดอัด ไม่มีเงินผ่อนบ้าน และไม่รู้จะไปปรึกษาใคร หลังจากรับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่ารัฐบาลจัดงานนี้ขึ้นมา ก็มีลูกหนี้จำนวนมากหลั่งไหลกันเข้ามาขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับแบงก์รัฐ อย่างเช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) มีลูกหนี้หลายรายได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และลดค่างวดลง เหลือแค่เดือนละ 1,000 บาท เป็นเวลา 10 งวด ขณะเดียวกันก็มีลูกหนี้ NPLs บางราย นำเงินก้อนมาปิดบัญชีเงินกู้กับ ธอส. ซึ่งธนาคารก็ลดดอกเบี้ยให้ทั้งหมด ถือเป็นการให้กัน แบบสุดๆ ดังนั้น ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาหนี้สินให้มาใช้สิทธิประโยชน์ของท่านในงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่นในวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565” ดร.อาคม กล่าว
ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะเจ้าภาพหลักในการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ ครั้งที่ 1” ว่า ตลอดระยะเวลา 3 วัน มีประชาชนหลั่งไหลเข้าร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ฯ กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้เดิมของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่ประสงค์เจรจาขอแก้ไขหนี้ที่ได้รับผลกระทบมาจากวิกฤติโควิด-19 กับที่ต้องการสินเชื่อเพื่อเพิ่มเติมทุน และเพิ่มสภาพคล่องในการดำรงชีพหรือประกอบธุรกิจ นอกนั้นเป็นผู้มาขอปรึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาหนี้สิน ออมเงิน และมองหาโอกาสสร้างอาชีพสร้างรายได้ รวมแล้วมีประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือตลอดช่วงงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ จำนวนไม่ต่ำกว่า 15,000 ราย
“ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารออมสินมีลูกหนี้ที่เข้าร่วมเจรจาแก้ไขหนี้กับธนาคารเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 ราย และเป็นผู้มายื่นขอสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษเพื่อเติมเงินทุนหรือเพิ่มสภาพคล่องจำนวนกว่า 800 ราย โดยตลอดงานทั้ง 3 วัน มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมที่บูธธนาคารออมสินมากกว่า 5,000 ราย” นายวิทัยกล่าว
นายวิทัยกล่าวต่อว่า จากผลสำเร็จของการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ : มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน ครั้งที่ 1” ทางกระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ (GFA) เตรียมเดินหน้าจัดงานครั้งต่อไปใน 4 ภูมิภาค โดยมีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับหน้าที่เจ้าภาพจัดงานครั้งที่ 2 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ในระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2565, ครั้งที่ 3 กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2565 ที่จังหวัดเชียงใหม่, ครั้งที่ 4 กำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ที่จังหวัดชลบุรี และครั้งสุดท้ายจัดที่จังหวัดสงขลา ในระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2566 จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สามารถลงทะเบียน เพื่อเข้ารับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้ ตามกำหนดการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจรแต่ละภูมิภาคได้ที่ ln15.gsb.or.th