ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจคัดกรองโควิด-19 สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเครื่องบินขาเข้าจากต่างประเทศ ในวันอาทิตย์นี้ซึ่งจะส่งผลให้หนึ่งในข้อจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้มานานที่สุดในช่วงการระบาดใหญ่สิ้นสุดลง
ฝ่ายบริหารของไบเดนคาดว่าจะประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ(Centers for Disease Control and Prevention:CDC) จะยกเลิกข้อบังคับที่กำหนดให้ผู้เดินทางต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 และมีผลเป็นลบก่อนเดินทางเข้าสหรัฐฯ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ
การยกเลิกข้อกำหนดนี้จะมีผลเวลา 00:01 น. ในวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐฯ
CDC ได้ยกเลิกข้อห้ามที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเคยให้ความเห็นมาเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากพิจารณาแล้วว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป “บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และข้อมูล” เจ้าหน้าที่ระดับสูงกล่าว
CDC จะประเมินผลการตัดสินอีกครั้งใน 90 วัน ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนระบุ
“หากมีความจำเป็นต้องกลับไปใช้ข้อกำหนดให้ตรวจหาเชื้อก่อนออกเดินทาง รวมไปถึงผลจากสายพันธุ์ใหม่ที่เกี่ยวข้อง CDC จะดำเนินการในทันที” เจ้าหน้าที่กล่าว
เจ้าหน้าที่รายเดิมกล่าวว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดนวางแผนที่จะทำงานร่วมกับสายการบินเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่น แต่น่าจะเป็นการดำเนินการที่น่ายินดีสำหรับคนส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรม
ในแถลงการณ์ที่ส่งถึงสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น CDC กล่าวว่า “ขณะนี้การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้เข้าสู่เฟสใหม่ เนื่องจากมีการได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างแพร่หลาย ความพร้อมของการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และอัตราการฉีดวัคซีนที่สูง ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนในระดับประชากรในสหรัฐอเมริกา แต่ละมาตรการเหล่านี้มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงและการเสียชีวิตทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา”
กฎนี้เริ่มใช้โดยฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในต้นปี 2564 และต่อมาได้กระชับเข้มงวดขึ้นโดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งหลังสุดใช้กับผู้ที่เดินทางขาเข้า รวมทั้งพลเมืองสหรัฐฯ ที่ต้องแสดงหลักฐานการตรวจโควิดที่แสดงผลลบ 1 วันก่อนขึ้นเครื่องเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปยังสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาที่จุดผ่านแดนทางบกได้รับการยกเว้น
สายการบินและบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมการเดินทางได้ผลักดันหลายครั้งให้ฝ่ายบริหารยกเลิกข้อกำหนด โดยอ้างว่ากระทบต่อความต้องการการเดินทางระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการระบาดใหญ่
โรเบิร์ต ไอซอม ซีอีโอของอเมริกัน แอร์ไลน์ กล่าวในวงเสวนาภาคธูรกิจการบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาได้พบกับนักการเมืองในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกำหนดในการตรวจคัดกรอง ซึ่งเป็นกฎที่เขาชี้ว่า “ไร้สาระ” และกล่าวว่า “เราหงุดหงิดมาก”
ประเทศอื่นๆ รวมทั้งสหราชอาณาจักร ได้ยกเลิกข้อกำหนดการตรวจโควิดสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไปแล้ว
“ฝ่ายบริหารของไบเดนควรได้รับคำชมสำหรับการดำเนินการนี้ เพราะเป็นการเปิดรับผู้มาเยือนจากทั่วโลกอีกครั้งและเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสหรัฐ” นายโรเจอร์ ดาว ประธานสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์ “การเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจและคนงานทั่วประเทศที่ดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูภาคธุรกิจที่มีคุณค่านี้จากความสูญเสีย”
นายไมค์ ลิปทัก รองประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสมาคมเทคโนโลยีการท่องเที่ยว กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเดินทางและการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่
นายนิก คาลิโอ ซีอีโอของ Airlines for America กลุ่มล็อบบี้ยิสต์ของสายการบินรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ กล่าวว่า อุตสาหกรรมนี้ “ตั้งตารอที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารต่อไปเพื่อจัดลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนที่เดินทาง และเพื่อให้แน่ใจว่านโยบายการเดินทางทางอากาศได้รับคำแนะนำบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์”
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวขัดแย้งกับทั้งฝ่ายบริหารของประธานาธฺบดีไบเดน และอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ตลอดระยะการแพร่ระบาด ในเรื่องกฎเกณฑ์ที่มุ่งคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงการห้ามผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้าสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มงวด ซึ่งได้ยกเลิกในเดือนพฤศจิกายน โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังคงต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนบินเข้าสหรัฐฯ
ในเดือนเมษายน ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์แต่งตั้ง ได้ยกเลิกกฎอีกข้อหนึ่งที่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโควิด-19 นั่นคือ การประกาศจากรัฐบาลกลางของไบเดนที่กำหนดให้นักเดินทางสวมหน้ากากบนเครื่องบินและการขนส่งสาธารณะในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าว
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
