ThaiPublica > เกาะกระแส > Top 5 บริษัทเทคโนโลยีของโลก รายได้เทียบ GDP ของ 4 ประเทศ

Top 5 บริษัทเทคโนโลยีของโลก รายได้เทียบ GDP ของ 4 ประเทศ

4 พฤษภาคม 2022


ในปี 2021 5 บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แอปเปิล ไมโครซอฟต์ เมตาแพลตฟอร์ม แอมะซอน อัลฟาเบททำรายได้รวมกันทะลุ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สูงกว่า GDP ของบางประเทศเช่น เม็กซิโก สเปน และอินโดนีเซีย และเทียบเท่าบราซิล

เว็บไซต์ visualcapitalistเจาะลึกวธีการทำเงินของทั้ง 5 บริษัท จากรายงาน 10-Kของแต่ละบริษัทในปี 2021 ที่ส่งโดยตรงไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทำเงินนับพันล้านได้อย่างไร?

ในปี 2021 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 5 แห่ง ทั้ง แอปเปิล แอมะซอน อัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล เมตา(เฟซบุ๊ก) และไมโครซอฟต์ทำรายได้รวมกัน 1.4 ล้านล้านเหรียญ

แหล่งที่มาของรายได้นี้มาจากอะไร Visualcapitalist เจาะลึกถึงวิธีหลักๆ ที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้สร้างรายได้ และดูว่ารายรับเพิ่มขึ้นมากเพียงใดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

โดยปกติมี 2 วิธีหลักที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทำรายได้ คือ

วิธีแรก ขายสินค้าให้ลูกค้า หรือวิธีที่สอง ขายลูกค้าหรือผู้ใช้บริการเป็นผลิตภัณฑ์ให้กับผู้โฆษณา

แอปเปิล ไมโครซอฟต์ และแอมะซอน จัดอยู่ในกลุ่มแรก เช่นเดียวกับธุรกิจแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ บริษัทเหล่านี้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ (หรือดิจิทัล) แก่ลูกค้าเพื่อแลกกับเงิน รายได้ของแอปเปิลมากกว่าครึ่งมาจากการขายไอโฟน ขณะที่บริการ Azure cloud สร้างรายได้เกือบ 1 ใน 3 ของไมโครซอฟต์ทั้งหมด และร้านค้าออนไลน์ของแอมะซอนคิดเป็นเกือบ 50% ของรายได้ของบริษัท

ในทางกลับกันเมตาและอัลฟาเบท ทำต่างกันเล็กน้อย แทนที่จะขายผลิตภัณฑ์จริง ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสองนี้ทำเงินได้มากที่สุด โดยการขายความสนใจของผู้ชม รายได้ของเมตาเกือบ 98% มาจากโฆษณาบนเฟซบุ๊กและ 81% ของรายได้ของกูเกิลมาจากการโฆษณาบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกูเกิล


อย่างไรก็ตาม แม้จะมีวิธีการสร้างยอดขายที่แตกต่างกัน แต่บริษัทเหล่านี้ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ รายได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

การระบาดของไวรัสเร่งการเติบโต

ท่ามกลางการว่างงานที่เพิ่มขึ้นและความวุ่นวายที่เกิดจากการระบาดใหญ่ 5 ยักษ์ใหญ่ยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในปี 2019 (ก่อนเกิดโรคระบาด) รายได้รวมของเทคโนโลยีรายใหญ่เพิ่มขึ้น 12% แต่ในปีต่อมาตั้งแต่การเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ทั่วโลกและความท้าทายทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงมีรายรับรวมได้ถึง 19%

บริษัทเหล่านี้เติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและความโกลาหลทั่วโลกได้ เพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลต่อความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

ตัวอย่าง การล็อกดาวน์ทำให้คนหันมาซื้อของออนไลน์ ยอดขายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซขยายตัว ความต้องการคอมพิวเตอร์แล้ปทอป และบริการคลาวด์สาธารณะเติบโต เพราะไม่สามารถเข้าไปทำงานในที่ทำงานได้ และบริษัทส่วนใหญ่ให้ทำงานแบบทางไกล

การเติบโตยั่งยืนหรือไม่?

ทุกวันนี้ หลายประเทศได้ผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด-19 และโลกก็ค่อยๆ กลับสู่สภาวะปกติอย่างช้าๆ

แต่ไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะหยุดเติบโต อันที่จริง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากโรคระบาด ทั้งในด้านการทำงานและพฤติกรรมการช็อปปิ้ง มีแนวโน้มที่จะยังต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าความต้องการต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะยังคงมีต่อเนื่อง

2 ใน 3 ของพนักงานจากการสำรวจทั่วโลกมองว่า บริษัทของพวกเขาน่าจะทำให้การทำงานทางไกลเป็นทางเลือกที่ถาวร และยอดขายอีคอมเมิร์ซทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยแตะระดับ 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2025