ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือ Gross Domestic Product (GDP) เป็นตัวชี้วัด สภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ที่มาจากมูลค่าสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ผลิตในประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา ทั้งรายไตรมาส รายปี หาก GDP เพิ่มขึ้นก็เป็นสัญญานว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นและมีผลดีต่อแรงงาน และภาคธุรกิจ และในทางกลับกัน GDP ที่ลดลง ก็บ่งบอกว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงและสร้างผลกระทบทางลบต่อแรงงานและภาคธุรกิจ
เว็บไซต์ visualcapitalist วิเคราะห์เศรษฐกิจโลกมูลค่า 94 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2564 โดยแยกเป็นรายประเทศ ซึ่งพบว่า
มี 4 ประเทศ คือ สหรัฐฯอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี มี GDP รวมกันคิดเป็นกว่าครึ่งของ GDP โลก จากการวัดเป็นตัวเงิน(nominal terms)
เฉพาะ GDP สหรัฐฯก็สูงกว่า GDP ของ 170 ประเทศรวมกัน
GDP ของสหรัฐฯ มีมูลค่า 22.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมการเงิน การประกันภัย และอสังหาริมทรัพย์ (4.7 ล้านล้านดอลลาร์) ช่วยเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศได้มากที่สุด รองลงมาคือบริการระดับมืออาชีพและธุรกิจ (2.7 ล้านล้านดอลลาร์) และภาครัฐ(2.6 ล้านล้านดอลลาร์)
เศรษฐกิจของจีนใหญ่เป็นอันดับที่สองโดยมีมูลค่า GDP เกือบ 17 ล้านล้านดอลลาร์ และยังคงเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก เมื่อประเมินจากผลผลิตที่มีการผลิตเหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ และหุ่นยนต์อย่างกว้างขวาง
เยอรมนีมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จากการส่งออกยานยนต์ประมาณ 20% ของโลก ในปี 2562 การค้าโดยรวมคิดเป็นเกือบ 90% ของ GDP ของประเทศ
สำหรับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุด 10 อันดับแรกได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร อินเดีย ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา เกาหลีใต้
ส่วนประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุด 10 รายแรก ส่วนใหญ่เป็นประเทศหมู่เกาะ โดยตูวาลู ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะฮาวายและออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุดในโลกด้วยมูลค่า 70 ล้านดอลลาร์ ภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของประเทศคือ สิทธิประมงในเขตน่านน้ำ นอกจากนี้ยังมีรายได้จาก .tv ซึ่งเป็นโดเมนอินเทอร์เน็ตระดับบนสุดตามรหัสประเทศ (ccTLD) โดยในปี 2554 ถึง 2562 มีรายได้ 5 ล้านดอลลลาร์ต่อปีซึ่งเทียบเท่ากับประมาณ 7% ของ GDP ของประเทศ จากบริษัทต่างๆ รวมถึง Twitch ที่ Amazon เป็นเจ้าของเพื่อให้อนุญาตชื่อโดเมน Twitch.tv
ประเทศในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทั้ง คีรีบาส นาอูรู ปาเลา มีรายได้จากการท่องเที่ยว
ส่วนประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็วที่สุดในโลก 10 อันดับแรกได้แก่ ลิเบีย ในภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งขยายตัวถึง 123% เป็นผลจากอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่ผลิตต่อวันสูงถึง 1.2ล้านบาร์เรล
ในยุโรป ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็วสุด โดยคาดว่า GDP ที่แท้จริง(Real GDP)จะขยายตัว 13% จากแรงหนุนบรรษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้ง Facebook, TikTok, Google, Apple และ Pfizer ที่มีสำนักงานใหญ่ในยุโรปในไอร์แลนด์ ซึ่งมีอัตราภาษีนิติบุคคล 12.5% หรือประมาณครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยทั่วโลก แต่อัตรานี้จะมีการปรับเปลี่ยนในเร็วๆนี้ เนื่องจากไอร์แลนด์ได้เข้าร่วมข้อตกลงอัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% ของ OECD ที่ได้ข้อสรุปในเดือนตุลาคม 2564
GDP ทั่วโลกที่มีมูลค่า 94 ล้านล้านดอลลาร์ อาจจะดูมหาศาลสำหรับเราในปัจจุบัน แต่ตัวเลขนี้อาจจะน้อยไปในอนาคต
ในปี 1970 เศรษฐกิจโลกมีมูลค่า GDP เพียง 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่าปัจจุบันถึง 30 เท่า
ในอีก 30 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าอีกครั้ง ภายในปี 2050 GDP โลกอาจมีมูลค่ารวมเกือบ 180 ล้านล้านดอลลาร์