“บิ๊กรอย-บิ๊กโจ๊ก” ขอหมายศาลอาญาลุยตรวจค้น 14 แพลตฟอร์ม รวม 33 จุด ใน 12 จังหวัด แก้ปัญหาขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พบปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยส่วนหนึ่งมีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านระบบแพลตฟอร์มของตนเองทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก มีการแทรกแซงกลไกราคาจนทำให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนที่ต้องการซื้อสลากมาเป็นระยะเวลานาน
กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าที่กำหนด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และช่วยจัดการกับปัญหาดังกล่าว อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการตามนโยบายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้การขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยให้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จังหวัดตราด ดำเนินการสืบสวน ตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมในการเสนอขาย หรือ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในรูปแบบต่างๆ
ต่อมาสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี แจ้งว่ามีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวน 14 แพลตฟอร์ม ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายว่ามีการเสนอขายสลากกว่าเกินราคาที่กำหนด และมีการปิดบังบาร์โค้ดของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำหน่าย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่กองสลากฯ เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลอาญา ทั้งบ้านพักของผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ โกดังเก็บสลากงวดเก่าและงวดใหม่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในจุดที่เกี่ยวข้องกับบริษัททั้ง 14 แพลตฟอร์ม รวมทั้งสิ้น 33 จุดใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี นครนายก ชลบุรี ยโสธร หนองบัวลำภู นครปฐม ชุมพร และนครศรีธรรมราช โดยการเข้าตรวจค้นทั้ง 33 จุดดังกล่าวในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการเก็บรักษาไว้ตามจุดต่างๆ ของทั้ง 14 แพลตฟอร์มว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ อยู่ในโควตาการจัดสรรให้กับผู้ค้ารายย่อยโดยถูกต้องหรือไม่ สลากที่มีการจำหน่ายในแพลตฟอร์มต่างๆ ตรงกับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีอยู่หรือไม่ และมีการเสนอขายสลากเกินราคาหรือไม่ โดยปฏิบัติการครั้งนี้มีการตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า “การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการที่จะแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อลดปัญหาที่ประชาชนประสบกับการขายสลากเกินราคา โดยได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายขายสลากเกินราคา ซึ่งในวันนี้ได้มีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทั้ง 33 จุด หากพบว่าผู้จัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรายใดมีพฤติการณ์ในการจำหน่ายสลากเกินราคา หรือ จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยที่ไม่มีสลากจริงรองรับ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด”