ThaiPublica > เกาะกระแส > ใครคือกลุ่มมหาเศรษฐีการเมือง ที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลรัสเซีย (Oligarchs) ที่ตะวันตกคว่ำบาตร

ใครคือกลุ่มมหาเศรษฐีการเมือง ที่มีอิทธิพลต่อรัฐบาลรัสเซีย (Oligarchs) ที่ตะวันตกคว่ำบาตร

6 มีนาคม 2022


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

มหาเศรษฐี Alisher Usmanov(ขวา) เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีวาลาดิเมียร์ ปูติน (ซ้าย) ที่มาภาพ : wikimedia.org/wikipedia/commons

รัฐบาลสหรัฐฯประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อการบุกยูเครนของรัสเซีย โดยการคว่ำบาตรพวกมหาเศรษฐีการเมืองของรัสเซีย หรือพวกที่ถูกเรียก Oligarch มาตรการแซงชั่นของสหรัฐฯ จะระงับการเข้าถึงการบริการการเงินของสหรัฐฯ ทรัพย์สินในสหรัฐฯของพวก Oligarchs จะถูกห้ามการใช้ประโยชน์ ถ่ายโอน หรือขาย รวมทั้งห้ามไม่ให้พวก Oligarchs กว่า 50 คน และครอบครัวเดินทางมายังสหรัฐฯ

การคว่ำบาตรทางการเงินครั้งนี้ มีเป้าหมายที่กลุ่มมหาเศรษฐีชั้นนำของรัสเซีย 8 คน และครอบครัว เช่น มหาเศรษฐี Alisher Usmanov เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีวาลาดิเมียร์ ปูติน เรือยอร์ชของ Usmanov มีมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ ที่กำลังเข้ารับการปรับปรุงภายในอยู่ที่ท่าเรือเมืองฮัมบูร์ก แต่ถูกทางการเยอรมันสั่งงับการปรับปรุงไปก่อน รายชื่อคนที่ถูกคว่ำบาตรยังรวมถึง Dmitry Peskov โฆษกของรัฐบาลปูติน

เรือยอร์ชของ Alisher Usamov ที่มาภาพ : wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/9f/Dilbar-Barcelona_2017.jpg

สหรัฐฯได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อตามล่าหาทรัพย์สินของพวก Oligarchs เช่น เรือยอร์ช เครื่องบินส่วนตัว หรือบ้านพักหรูหรา

การใช้มาตรการคว่ำบาตรกับพวก Oligarchs สหรัฐฯต้องการให้ปูตินรับรู้ถึงแรงงกดดัน และผลกระทบจากการคว่ำบาตรเหล่านี้

ขณะเดียวกัน ตำรวจการเงินของอิตาลีก็เข้ายึดบ้านพักและเรือยอร์ชมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ ของพวก Oligarchs รัสเซีย

ตำรวจอิตาลียึดเรือยอทช์หนึ่งลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งเจ้าของ คือ Alexei Mordashov มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ภาพโดย Antonio Calanni/AP ที่มาภาพ : https://www.theguardian.com/world/2022/mar/06/mps-seeking-fast-track-freeze-on-oligarchs-assets-before-formal-sanctions

ต้นกำเนิดของพวก Oligarchs ในรัสเซีย

หนังสือชื่อ Russia’s Capitalist Revolution ของผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจรัสเซีย Anders Aslund อธิบายถึงต้นกำเนิดของพวก Oligarchs ในรัสเซียว่า หลังจากการล่มสลายของระบบคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย ในปี 1995 เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ พวกนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ ที่รู้จักกันในเวลานั้นว่า Oligarchs ได้เข้ามามีบทบาทแทนพวกผู้จัดการรัฐวิสาหกิจดั้งเดิม

พวกผู้จัดการเหล่านี้ ทำงานในสมัยที่เศรษฐกิจรัสเซีย มาจากการวางแผนของรัฐ เมื่อสภาพที่เศรษฐกิจเปลี่ยนเป็นแบบกลไกตลาด พวกผู้จัดการรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ ไม่รู้ว่าจะบริหารงานวิสาหกิจอย่างไร ไม่มีความรู้เรื่องการเงิน หรือการตลาด รู้อย่างเดียวคือการลดต้นทุน

แต่พวก Oligarchs เป็นผลผลิตของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ จากระบบคอมมิวนิสต์สู่ทุนนิยม ความสามารถพิเศษของพวกนี้คือเรื่องการเงิน ที่สามารถหากำไรได้จากธุรกรรมต่างๆ และหาวิธีสร้างความมั่งคั่งใหม่ตลอดเวลา รู้จักหาเงินจากตลาดหุ้น และจากทรัพย์สินของรัฐ มากกว่าจากการผลิต

ที่มาภาพ : https://cup.columbia.edu/book/a/9780881324099

พวก Oligarchs ซื้อปราสาทเก่าในกรุงมอสโก นำมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่กว่าสมัยพระเจ้าซาร์ ภายในไม่กี่ปี พวก Oligarchs เปลี่ยนบรรยากาศที่ทึมๆของมอสโก ให้กลายเป็นเมืองที่มีสีสรรค์ของแหล่งคาสิโนและชีวิตกลางคืน

Russia’s Capitalist Revolution บอกว่า พวก Oligarchs คือบรรดาสิ่งต่างๆ ที่อดีตสหภาพโซเวียตไม่มี พวกนี้ทำธุรกิจแบบรวดเร็ว มีนวัตกรรมใหม่ๆ แสวงหาโอกาสสร้างความมั่งคั่ง การทำธุรกิจแบบไม่มีข้อจำกัดใดๆ ไม่สนใจเรื่องข้อห้ามของกฎหมาย ในปี 1994 คนรัสเซียเรียกพวก Oligarchs ว่า พวกมหาเศรษฐี เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ ที่มีเส้นสายกับประธานาธิบดี

พวก Oligarchs รุ่นแรกๆในรัสเซีย เป็นนายธนาคาร ทั้งหมดอยู่ในเมืองหลวง เพราะมอสโกเป็นศูนย์กลางการเงิน อาศัยเส้นสายการเมือง ทำให้ธนาคารของพวก oligarchs ได้สินเชื่อถูกจากธนาคารกลางรัสเซีย Oligarchs คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ไว้ในหนังสือว่า

“นักธุรกิจในรัสเซียมี 3 แบบ พวกแรกคือฆาตรกร อีกพวกหนึ่งคือขโมยจากนักธุรกิจเอกชนด้วยกัน และพวกนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์อย่างเรา ที่ทำธุรกิจอย่างเดียวคือขโมยจากรัฐ”

โอกาสทองจากการแปรรูป

หลังการพังทลายของสหภาพโซเวียต ทำให้เกิดการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ โดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ 25,000 แห่งให้เป็นของเอกชน โดยเฉพาะด้านพลังงานและสถาบันการเงิน เนื่องจากรัฐบาลในเวลานั้น ประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณ ในปี 1995 รัฐบาลประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน จึงประกาศนโยบายแปรรูป “เงินกู้เพื่อหุ้น” (loans-for-shares)

นโยบายดังกล่าว ทำให้หุ้นของรัฐวิสาหกิจชั้นนำด้านการผลิตพลังงาน เช่น Yukos, Gazprom, Lukoil ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากการชำระเงินคืนเงินกู้ไม่เป็นไปตามกำหนดเวลา นโยบายเงินกู้เพื่อหุ้นนี้ จึงเท่ากับเป็นการขายรัฐวิสาหกิจชั้นดีในราคาถูก ให้แก่ธนาคารพาณิชย์เอกชน ที่พวก Oligarchs เป็นเจ้าของ เช่น Menatep Bank ของ Mikhail Khodorkovsky เข้าถือครองหุ้น 86% ของ Yukos บริษัทที่ผลิตพลังงานถึง 20% ของทั้งหมดในรัสเซีย ในราคาแค่ 309 ล้านดอลลาร์

หนังสือ Russia’s Capitalist Revolution กล่าวว่า การแปรรูปแบบ “เงินกู้เพื่อหุ้น” มีความหมายสำคัญ เพราะเป็นจุดสิ้นสุดยุคผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ มาสู่การเริ่มต้นยุคของพวก Oligarch เป็นการเอารัฐวิสาหกิจของรัสเซีย ที่เคยอยู่ในมือของผู้จัดการ มาสู่ผู้ประกอบการเพียงหยิบมือเดียว เป็นการเอาทรัพย์สินของรัฐมาแสวงหาการสนับสนุนทางการเมือง ทำให้พวก Oligarchs หันมาให้การสนับสนุนแก่ผู้นำรัสเซีย

พวก Oligarchs มักถูกวิจารณ์ว่า ไม่มีความรู้ด้านอุตสาหกรรมการผลิต แต่พวกนี้ก็ใช้เงินซื้อทักษะที่จำเป็นในด้านต่างๆ เช่น บริษัทตรวจสอบบัญชีชั้นนำของโลก มาปรับปรุงระบบการเงิน จ้างบริษัทน้ำมันของอเมริกา เช่น Halliburton มาปรับปรุงการเจาะสำรวจน้ำมันที่ล้าสมัยของรัสเซีย และจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกมาปรับปปรุงโครงสร้างองค์กร

ทำไมขนทรัพย์สินไว้นอกประเทศ

ที่มาภาพ : https://www.amazon.com/Russias-Crony-Capitalism-Economy-Kleptocracy/

หนังสืออีกเล่มหนึ่งของ Anders Aslund ชื่อ Russia’s Crony Capitalism (2019) บอกว่า คนที่ศึกษาเกี่ยวกับรัสเซียสมัยใหม่ เลี่ยงไม่ได้ที่จะตกตะลึงในเรื่องความมั่งคั่งที่กระจุกตัวของรัสเซีย แม้คนรัสเซียที่เป็นเจ้าของความมั่งคั่ง จะไม่นิยมแสดงความมั่งคั่งของตัวเองออกมาอย่างเปิดเผย และมีชีวิตอยู่อย่างซ่อนเร้น

แต่นักเคลื่อนไหวในรัสเซีย ก็ทำการศึกษาความมั่งคั่งในหมู่พรรคพวกของปูติน และระบุว่าวิธีการสร้างความมั่งคั่งของคนพวกนี้ มาจากการได้อภิสิทธิ์ในการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ การเล่นหุ้น ซื้อบริษัทแล้วนำมาขายต่อมีกำไร (asset stripping) และการได้สิทธิพิเศษทางการค้า เมื่อระบอบการเมืองรัสเซียเป็นแบบอำนาจนิยมมากขึ้น ก็เกิดวิธีสร้างความมั่งคั่งอีกรูปแบหนึ่ง คือคนวงในรัฐบาลการเรียกผลประโยชน์จากพวกมั่งคั่ง

Anders Aslund บอกว่า คนรัสเซียที่มั่งคั่งทุกคน โอนทรัพย์ที่มีสภาพคล่องออกไปไว้ในต่างประเทศ เหตุผลที่เงินทุนไหลออกจากรัสเซียมีหลายอย่าง ในทศวรรษ 1990 ธนาคารของรัสเซียไม่มั่นคง จึงต้องนำทรัพย์สินเงินทองไปเก็บไว้กับธนาคารในต่างประเทศ กฎหมายภาษีปี 2000 ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์ได้ ทำให้คนรวยนำเงินไปฝากในต่างประเทศ แต่นับจากปี 2006 เงินไหลออกเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย แต่สมัยของปูติน มีการเข้มงวดมากขึ้นกับเงินที่ไหลออก

เหตุผลสำคัญที่เงินไหลออกจากรัสเซีย เพราะเงินที่อยู่ในรัสเซียไม่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ภาษีสามารถยึดทรัพย์สินได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ นักธุรกิจรัสเซียเมื่อเกษียณแล้ว ส่วนใหญ่จะย้ายออกไปอยู่ต่างประเทศ เพราะค่าครองชีพในรัสเซียแพง มีปัญหาจราจร และอากาศหนาวมาก พวกนักธุรกิจรุ่นใหม่ของรัสเซีย จึงเรียกร้องการปฏิรูปทางกระบวนการศาล เพื่อให้สิทธิทางกฎหมายในทรัพย์สินมั่นคงมากขึ้น ส่วนพวก oligarch รุ่นเก่าหมดความสำคัญไปแล้ว

แต่พวกมีอำนาจได้ประโยชน์จากกฎหมายทรัพย์สินที่อ่อนแอ เพราะทำให้ตัวเองสามารถหาสินทรัพย์ในรัสเซียได้ในราคาถูก จากการเข้าครอบครองธุรกิจ กระบวนการยุติธรรมทางศาลที่เข้มแข็ง จึงเป็นอุปสรรคต่อการสั่งสมความมั่งคั่งของคนมีอำนาจ เพราะเหตุนี้ คนที่เป็นผู้นำจึงต้องการทั้งความั่งคั่งกับอำนาจการเมือง ส่วนความร่ำรวยของตัวเอง ก็จะโอนไปต่างประเทศ เพื่ออาศัยประโยชน์การคุ้มครองจากกฎหมายทรัพย์สินของสหรัฐฯกับอังกฤษ

จากรัสเซียพร้อมกับเงินสด

ส่วนบทความของ theguardian.com เรื่องลอนดอนกลายเป็นที่แหล่งอาศัยของพรรคพวกที่มั่งคั่งของปูตินว่า เป็นเวลาหลายปีหรืออาจหลายสิบปีมาแล้ว อสังหาริมทรัย์ระดับหรูหราในลอนดอน กลายเป็นแหล่งลงทุนของพวก oligarchs จากรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน Transparency International UK เคยกล่าวว่า เงินที่มาลงทุน เป็นความมั่งคั่งที่น่าระแวงสงสัย แต่เรื่องนี้ก็ชัดเจนขึ้น เมื่ออังกฤษค่ำบาตรคนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน และมีความเกี่ยวข้องกับผู้นำรัสเซียที่บุกยูเครน

พวก oligarchs จากรัสเซียและจากอดีตยุโรปตะวันออก มักจะซื้อที่พักอาศัยอยู่ในเขต Knightsbridge, Kensington และ Highgate บ้านพักของ Roman Abramovich เจ้าของสโมสรฟุตบอล Chelsea ตั้งอยู่ที่ Kensington Palace Garden ถนนสายแพงที่สุดของลอนดอน มีทั้งหมด 15 ห้อง มูลค่า 150 ล้านปอนด์

Roman Abramovich เจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี ที่มาภาพ : https://www.theguardian.com/world/2022/mar/06/mps-seeking-fast-track-freeze-on-oligarchs-assets-before-formal-sanctions[Photograph: Mark Pain/Alamy]
บ้านพักของ Roman Abramovich เจ้าของสโมสรฟุตบอล Chelsea ที่มาภาพ : homesoftherich.net

Dominic Raab รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษให้สัมภาษณ์ว่า ที่พักอาศัยของคนชั้นนำรัสเซีย อาจจะมอบให้กับผู้อพยพชาวยูเครน

หนังสือ Russia’s Crony Capitalism สรุปว่า ทรัพย์สินส่วนตัวของคนรัสเซียที่อยู่ในต่างประเทศ อาจมีมูลค่าถึง 800 พันล้านดอลลาร์ วัตถุประสงค์ของเจ้าของทรัพย์สินคือความปลอดภัย เพราะประเทศที่ขาดหลักนิติธรรมอย่างรัสเซียหรือบางประเทศ ไม่มีสิ่งนี้ คนรัสเซียที่ถือครองทรัพย์สินนี้ แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือพวกที่มั่งคั่งก่อนยุคปูติน และพวกที่ได้ประโยชน์จากการช่วยเหลือของปูติน

การใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กลุ่ม EU และอังกฤษ ต่อพวก oligarchs รัสเซีย แสดงให้เห็นว่า ตะวันตกเริ่มมองแล้วว่า ความมั่งคั่งมหาศาลของรัสเซียในประเทศตะวันตก กลายเป็นภัยที่คุกคามความมั่งคงอย่างหนึ่ง

เอกสารประกอบ
Russia’s Capitalist Revolution, Anders Aslund, Peterson Institute for International Economics, 2007.
Russia’s Crony Capitalism, Anders Aslund, Yale University Press, 2019.
How London became the place to be for Putin’s oligarchs, theguradian.com, 6 MAR 2022.