อรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี
การเติบโตอย่างมากของกรุงเทพมหานครตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นดินคอยซับน้ำเวลาที่ฝนตก ได้เปลี่ยนเป็นถนน รถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม บ้านที่อยู่ศัย ฯลฯ ทำให้ความสามารถในการซับน้ำน้อยลงอย่างมาก
อย่างที่ทราบกันดีว่ากายภาพของกรุงเทพฯ นั้นเป็นแอ่งกระทะ น้ำไม่สามารถไหลตามธรรมชาติได้ จำเป็นต้องอาศัยเครื่องสูบน้ำลำเรียงน้ำออกสู่อ่าวไทยทางแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันขีดความสามารถในการระบายน้ำฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยารวม 1,081.30 ลบ.ม./วินาที แบ่งเป็น
ด้วยประสิทธิภาพการระบายน้ำในขณะนี้นั้นสามารถรองรับปริมาณฝนตกสะสมได้ไม่เกิน 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง แต่ด้วยสภาพการเกิดฝนในปัจจุบันนั้น จะเห็นว่าเหตุจากสภาวะโลกร้อนทำให้การเกิดฝนในหลาย ๆ ครั้งมีปริมาณฝนตกค่อยข้างสูง และหลายครั้งที่สูงเกินกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง เกินกว่าที่ระบบระบายน้ำของกรุงเทพฯ จะรับได้ เป็นที่มาให้กรุงเทพฯ ต้องจัดหาบึงน้ำมาทำเป็นแก้มลิงเพื่อหน่วงน้ำ รอการระบายออก
จากผลการศึกษาพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ต้องการแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมประมาณ 13 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ขณะนี้สามารถจัดหาได้เพียง 7.39 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องการเพิ่มเติมอีก 5.91 ล้านลูกบาศก์เมตร

แต่ด้วยกายภาพเมืองที่เปลี่ยนไปมาก การจะหาพื้นที่มาทำแก้มลิงนั้นทำได้ค่อยข้างยาก กรุงเทพมหานครได้มีการปรับการใช้ผังเมืองใหม่และประกาศในราชกิจจานุเษกษาเป็น พ.ร.บ.ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2556

-
1. วงเวียนบางเขน
2. ตลาดสุทธิพร
3. กรุงเทพกีฑา
4. สวนป่ารัชวิภา

ขณะที่เกมการแข่งขันเพื่อชิงเก้าอี้ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ยังคงเข้มข้น แต่ต้องไม่เป็นการเมืองที่เห็นประชาชนเป็นคนโง่ ถ้าจะให้ประชาชนเชื่อว่าเป็นคนเก่ง เป็นคนทำคนแรกและทำที่แรกของประเทศไทย #วัดเล่งเน่ยยี่แก้มลิงใต้ดินไม่ใช่ที่แรก
ดังนั้นการให้ข้อมูลต้องครบถ้วน ไม่บิดเบือน สังคมจะได้ไม่บิดเบี้ยว