ThaiPublica > เกาะกระแส > ธนาคารยูโอบี ก้าวสู่ “Remote Work” ให้พนักงานทำงานจากที่ไหนก็ได้

ธนาคารยูโอบี ก้าวสู่ “Remote Work” ให้พนักงานทำงานจากที่ไหนก็ได้

20 ธันวาคม 2021


ศศิวิมล อารยวัฒนาพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ปรับรูปแบบการทำงาน ให้พนักงานทำงานจากที่ไหนก็ได้ นโยบาย Remote Work ช่วยพนักงานปรับสมดุลสู่วิถีการทำงานยุคใหม่

กรุงเทพฯ, 20 ธันวาคม 2564 – ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เดินหน้าปรับรูปแบบการทำงานสู่วิถีการทำงานยุคใหม่ โดยออกนโยบาย Remote Work ให้พนักงานกว่า 2,000 คน ทำงานจากที่ใดก็ได้สูงสุด 2 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้พนักงานรักษาสมดุลที่ดีระหว่างการทำงานและสุขภาวะจิต ซึ่งจะมีผลตั้งแต่มกราคม 2565 เป็นต้นไป

นางสาวศศิวิมล อารยวัฒนาพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรัพยากรบุคคล ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบีให้ความสำคัญต่อการดูแลซึ่งกันและกัน เรามุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ช่วยให้พนักงานสามารถบาลานซ์เรื่องงานกับชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกัน เราเชื่อว่าเมื่อคนมีความสุขย่อมสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพและยิ่งมีส่วนร่วมต่อองค์กรมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่เรานำรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดมาใช้ คือการผสมผสานระหว่างการทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Remote Work) และการทำงานที่สำนักงาน เพราะเราเชื่อว่าการทำงานแบบ Remote Work อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์จะช่วยให้พนักงานยังคงความรู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและต่อองค์กร ในขณะเดียวกันก็สามารถบริหารจัดการงานของตนเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นิยามของคำว่าสถานที่ทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลายๆ องค์กรเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบที่ทำงานจากเดิม เป็นแบบที่เปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวและสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น เราจึงเดินหน้าปรับรูปแบบการทำงานสู่วิถีการทำงานยุคใหม่ เพื่อให้เพื่อนพนักงานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือจากที่บ้านก็ตาม”

นโยบายการทำงานแบบ Remote Work นี้ตอบรับความคาดหวังทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนไป รายงาน UOB ASEAN Consumer Sentiment Study ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา พบว่า ในประเทศไทยพนักงานมากกว่าร้อยละ 80 ต้องการให้องค์กรปรับรูปแบบการทำงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้นหลังเกิดโรคระบาด (รายงาน UOB ASEAN Consumer Sentiment Study ที่จัดทำโดย UOB และ Blackbox ในเดือนสิงหาคม 2564 จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 3,466 คนที่มีอายุระหว่าง 18-65 ปีจาก 5 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ผู้ตอบแบบสำรวจ 612 คนจากไทย และ 2,854 คนจากสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม)

นอกจากนโยบายการทำงานแบบ Remote Work นี้ ธนาคารยูโอบีให้ความยืดหยุ่นและอิสระแก่พนักงาน ด้วยแผนทางเลือก Flexi-2 ซึ่งอนุญาตให้พนักงานทุกคนสามารถลางานได้ 2 ชั่วโมงต่อเดือน ระหว่างวันทำงานเพื่อไปจัดการกับเรื่องส่วนตัวได้ นอกจากนี้ พนักงานยังสามารถเลือกเวลาเริ่มทำงานระหว่าง 07:30 น. ถึง 10:00 น.(ยกเว้นพนักงานในบางตำแหน่ง)เพื่อให้อิสระในการจัดการตารางการทำงานของตนเองอีกด้วย

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ จากัด ประเทศไทย (กลุ่มธนาคารยูโอบี) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 152 สาขาและเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 410 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 มกราคม 2564) ยูโอบีเป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานมากกว่า 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ กลุ่มธนาคารยูโอบี มีสินค้าและบริการด้านการเงิน โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจในการให้บริการ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA โดยฟิทช์ เรทติ้งส์

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA โดยฟิทช์ เรทติ้งส์

กลุ่มธนาคารยูโอบี ให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเน้นที่ศิลปะ เยาวชนและการศึกษา กลุ่มธนาคารยูโอบีได้จัดเวทีประกวดศิลปะที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ซึ่งได้ขยายมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงบทบาทของกลุ่มธนาคารยูโอบีในการสนับสนุนวงการศิลปะ สมาคมศิลปะประจำชาติแห่งประเทศสิงคโปร์ได้ยกย่องกลุ่มธนาคารยูโอบีให้เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะทรงเกียรติ 10 ปีติดต่อกัน ในปี 2557 กลุ่มธนาคารยูโอบียังได้สนับสนุนให้พนักงานทั่วภูมิภาคร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงกิจกรรม UOB Heartbeat Run ซึ่งจัดในประเทศจีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย