ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯไม่เลื่อนจัดปีใหม่ แต่ต้องทำตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด-มติ ครม.เคาะคนละครึ่ง เฟส 4 เริ่ม มี.ค.ปี’65

นายกฯไม่เลื่อนจัดปีใหม่ แต่ต้องทำตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด-มติ ครม.เคาะคนละครึ่ง เฟส 4 เริ่ม มี.ค.ปี’65

21 ธันวาคม 2021


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/

นายกฯ มอบ “วิษณุ” ดูภาพรวมร่าง กม.ปราบยาเสพติด-ยันไม่เลื่อนจัดปีใหม่ ย้ำต้องปฏิบัติตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด-ยกโพลโต้ “เสรีพิศุทธ์” ชี้ ปชช.พอใจผลงานรัฐบาล-มติ ครม.เคาะ “ช้อปมีมีคืน-คนละครึ่ง” เฟส 4 เริ่ม มี.ค.-เม.ย.ปีหน้า-ระงับเดินทางเข้าไทยชั่วคราว สกัดโอไมครอน-เด้ง “ธัญญา” พ้นจากตำแหน่ง ตั้ง “รัชฎา” นั่งอธิบดีกรมอุทยานฯแทน

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชนแทน

มอบ “วิษณุ” ดูภาพรวมร่าง กม.ปราบยาเสพติด

ดร.ธนกร กล่าวถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีว่า พลเอกประยุทธ์ได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดและปราบปรามการลักลอบการนำเข้า-ออกสินค้าเข้า โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เนื่องจากสินค้าดังกล่าวไม่ได้มีการควบคุมคุณภาพสินค้า

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมการออกกฎหมาย และมอบหมายให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ติดตามเรื่องการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด โดยบูรณาการการทำงานกับทุกหน่วยงาน

ยันไม่เลื่อนจัดปีใหม่ ย้ำต้องปฏิบิติตามมาตรการ สธ.อย่างเคร่งครัด

จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ดร.ธนกร กล่าวถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้ว่า รัฐบาลเร่งหารือให้มีการศึกษารายละเอียด และรับฟังข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้นประเทศไทยต้องรักษามาตรฐานการตรวจหาเชื้อ ทั้งวิธี RT-PCR และ ATK เพื่อให้แนวทางที่ออกมาเกิดผลกระทบน้อยที่สุด

คำถามว่า WHO ต้องการให้ประเทศไทยเลื่อน หรือ ยกเลิกกิจกรรมในช่วงปีใหม่ จะส่งผลต่อการพิจารณาการจัดกิจกรรมของไทยหรือไม่ ดร.ธนกร ชี้แจงว่า “ยังไม่มีอะไรต้องปรับแก้ในช่วงนี้ ระบบสาธารณสุขของเราที่ยังรองรับได้อยู่ ขอขอบคุณความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกกิจกรรมในการปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting และ DMHTTA”

“ผู้จัดงานต้องมีความรับผิดชอบมาตรการ Covid Free Setting การฉีดวัคซีนครบสองเข็ม และจำนวนผู้ร่วมงานต้องเป็นไปตามที่กำหนด เข้าได้เท่าไรต้องเป็นไปตามที่อนุญาตและรับผิดชอบตามกฎหมาย” ดร.ธนกรกล่าว

นอกจากนี้ ในปี 2564 เป็นปีแรกที่มีการเชิญศิลปินระดับโลกอย่าง ‘แบมแบม GOT7’ มาช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวปีใหม่ ซึ่งดร.ธนกรกล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ศิลปินไทยในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของคนไทยด้วย”

แก้ กม.ห้ามใช้สารกระตุ้นนักกีฬา

ถามว่า นักกีฬาไทยถูกห้ามใช้เพลงชาติ และธงชาติไทยเมื่อได้รับรางวัล รัฐบาลแก้กฎหมายสารกระตุ้นให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล หรือ WADA อย่างไร ดร.ธนกรตอบว่า “กำลังดำเนินการแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด และได้มีการหารือกับ WADA อย่างต่อเนื่อง”

แจ้งปมปิด “หัวลำโพง” อยู่ระหว่างรับฟังความเห็น ปชช.

ดร.ธนกรตอบประเด็นกาารปิดขบวนรถไฟหัวลำโพงว่า นายกรัฐมนตรีชี้แจง “กำลังอยู่ในขั้นตอนที่กระทรวงคมนาคมกำลังพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ และรับฟังความเห็นจากประชาชนอย่างทั่วถึงว่าจะตัดสินใจดำเนินการต่ออย่างไร”

อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นการพัฒนาที่ดิน 120 ไร่บริเวณหัวลำโพงว่านายกรัฐมนตรีได้รับรายงานถึงประเด็นนี้อย่างไร ดร.ธนกรตอบว่า “นายกฯ ทราบเป็นหลักการกว้างๆ ว่าจะต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน อีกประเด็นที่ต้องพิจารณา คือ การจัดหารายได้ของการรถไฟ เพื่อลดอัตราการขาดทุนในการบริการประชาชน ซึ่งยังไม่สามารถขึ้นราคาค่าโดยสารได้”

ยกโพลโต้ “เสรีพิศุทธ์” ชี้ ปชช.พอใจผลงานรัฐบาล

ดร.ธนกร กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องลาออก ไม่ต้องรอถึงเดือนสิงหาคม 2565 ว่า สำนักวิจัยซูเปอร์โพลได้ทำการสำรวจแล้ว พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังพอใจการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด หรือ เห็นว่าการเลือกตั้งสมัยหน้ามีแนวโน้มที่จะใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งจะทำให้พรรคเล็กอยู่ลำบาก จึงต้องรีบออกมาดิสเครดิตท่านนายกฯ เพื่อไม่ให้ชื่อตัวเองหายไปจากหน้าสื่อ และมาตรการของรัฐบาลทั้งหมดเป็นการแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนำเงินภาษีของประชาชนกลับมาช่วยเหลือประชานอย่างแท้จริง

“ที่บอกว่าประชาชนเขาเบื่อ อยากให้ออก เขาเหม็นหน้านั้น ผมไม่แน่ใจว่าประชาชนเบื่อท่านนายก ฯหรือว่าเบื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กันแน่ ประชาชนเขาคงเอือมที่ต้องนั่งฟังการอภิปรายในสภา ฯ ที่แต่ละครั้งพูดซ้ำ วนแต่เรื่องเดิม ๆ แต่ใช้เวลาอภิปรายเป็นชั่วโมง ๆ โดยไม่ได้สาระอะไร ผมเชื่อว่าของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนอยากได้นั้น น่าจะเป็นฝ่ายค้านที่รู้จักทำหน้าที่ของตัวเองในการตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกรัฐสภา ไม่ใช่เล่นการเมืองบนท้องถนนมากกว่า เพราะประชาชนเขาเริ่มเอือมแล้ว” ดร.ธนกร กล่าว

มติ ครม.มีดังนี้

ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกฯ และ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกฯ (ซ้าย-ขวา)
ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th/

จัด 6 มาตรการของขวัญปีใหม่ กระตุ้น ศก.

ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบ มาตรการของขวัญปีใหม่ 2565 รวม 6 มาตรการ และร่างกฎหมาย รวม 9 ฉบับ ส่งความสุขให้คนไทย กระตุ้นเศรษฐกิจส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 แบ่งเป็น มาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เหมาะสม รวม 6 มาตรการ และร่างกฎหมาย รวม 9 ฉบับ ได้แก่ ร่าง พ.ร.ฎ. รวม 1 ฉบับ ร่างกฎกระทรวง รวม 4 ฉบับ และร่างประกาศ มท. รวม 4 ฉบับ ดังนี้

    1. เห็นชอบมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตขายสุรา ยาสูบและไพ่ ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 60 และร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการอนุญาตว่าด้วยภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในภาพรวม รวมถึง ยอดขายสุรา ยาสูบ และไพ่ เป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่แล้วแต่กรณี ให้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตขายรายเดิม ซึ่งได้รับผลกระทบที่ประสงค์จะขอใบอนุญาตขายต่อเนื่อง ในปีถัดไป เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2565
    2. เห็นชอบมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับ เครื่องบินไอพ่น และร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เพื่อเป็นการลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น ที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานในประเทศ โดยกำหนดอัตราภาษีตามปริมาณ 0.20 บาทต่อลิตร (เป็นมาตรการต่อเนื่องโดยกฎกระทรวงเดิม (ฉบับที่ 14) จะสิ้นผลใช้บังคับวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หากไม่ปรับลด จะมีอัตราภาษีตามปริมาณ 4.726 บาทต่อลิตร)
    3. เห็นชอบมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 2565 และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. …) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และสนับสนุน ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และผู้ประกอบกิจการ การผลิตสินค้าท้องถิ่น (OTOP) โดยให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือ คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือ ค่าบริการเท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ สำหรับการซื้อสินค้าหรือการรับบริการในราชอาณาจักร ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565 หลักเกณฑ์ที่ใช้ได้เช่น ค่าสินค้า ค่าบริการ รวมถึงค่าสินค้า OTOP เป็นต้น
    4. เห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับ ที่อยู่อาศัย และร่างประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน และร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดรวม 2 ฉบับ เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการ มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ต้องการมีที่อยู่ อาศัยเป็นของตนเอง และผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น ที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ในราคาซื้อขายและราคา ประเมินทุนทรัพย์ไม่เกินมูลค่า 3 ล้านบาท สาระสำคัญ เป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์(จากเดิม ร้อยละ 2) และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ในคราวเดียวกัน (จากเดิมร้อยละ 1) เหลือร้อยละ 0.01
    5. เห็นชอบมาตรการทางภาษีอากรและค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุง โครงสร้างหนี้และร่าง พ.ร.ฎ. ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้น รัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ… ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ . . (พ .ศ. …) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ร่างประกาศ มท. เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน และร่างประกาศ มท. เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดรวม 2 ฉบับ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของ COVID – 19 อย่างต่อเนื่อง มาตรการภาษีมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

    1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้ นิติบุคคลให้แก่ลูกหนี้ของเจ้าหนี้อื่น
    2. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ลูกหนี้ของเจ้าหนี้อื่น สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้อื่น
    3. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน
    4. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้ นิติบุคคล ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ให้แก่ ลูกหนี้ของบริษัทที่มิใช่สถาบันการเงินโดยร่างประกาศ มท. รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญ เป็นการลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุด ทั้งหมดในอาคารชุดซึ่งจดทะเบียนอาคารชุดตามกฎหมาย ว่าด้วยอาคารชุด และของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ลูกหนี้ ของสถาบันการเงินและลูกหนี้ของเจ้าหนี้ที่เป็นบริษัท ที่มิใช่สถาบันการเงินนำมาจำนองเป็นหลักประกันหนี้ ในอัตราร้อยละ 0.01

สำหรับกรณีการปรับปรุงโครงสร้าง หนี้โดยให้มีผลตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

    6.รับทราบมาตรการโครงการของขวัญปีใหม่ปี 65 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่องลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่อง และเป็นทุนหมุนเวียน การคืนเงินให้แก่ลูกหนี้เงินกู้ ที่มีประวัติการชำระดี รางวัลพิเศษสำหรับลูกค้าสลากออมสิน การยกเว้นค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญาและค่าประเมิน หลักประกัน ส่วนลดค่าบริการและค่างวดสำหรับการค้า ประกันสินเชื่อ เป็นต้น

แจง ‘ของขวัญปีใหม่’ รายกระทรวง

ดร.ธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบ โครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 ให้แก่ประชาชน จาก 7 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรมสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มีรายละเอียดดังนี้

กลาโหม ตั้งจุดฉีดวัคซีน-บริการ ปชช.ช่วงปีใหม่

ดร.ธนกร กล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ดำเนินโครงการ “เติมความสุขให้คนไทย ตามแนวทางชีวิตวิถีใหม่ จากใจทหาร” โดย กิจกรรมจะดำเนินการในห้วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 (วันที่ 29 ธ.ค.-2564 ถึง 4 ม.ค. 2565) อาทิ จัดเตรียมกำลังเตรียมพร้อมจัดตั้งจุดบริการช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล จำหน่ายสินค้าอุปโภค และบริโภคราคาถูก และ เปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ในเขตทหารทั่วประเทศ (ไม่คิดค่าบริการ) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ดำเนินการตลอดห้วง พ.ศ.2565 อาทิ จัดตั้งจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกัน โรคโควิด-19 , การจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ และเปิดพื้นที่ภายในหน่วยทหารเป็นตลาดนัดสินค้า ราคาถูกช่วยเหลือประชาชน

พพ.ตรึงราคาพลังงานทุกชนิด

ดร.ธนกร กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน ดำเนินการลดและตรึงราคาพลังงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ลดค่าใช้จ่าย และลดต้นทุน ค่าครองชีพของประชาชน ได้แก่ ตรึงราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร (1 ธ.ค.2564 – 31 มี.ค. 2565) ตรึงราคาน้ำมันทุกชนิด โดย บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (5 ธ.ค.2564 – 4 ม.ค. 2565) คงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติ(NGV) ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม (16 พ.ย. 2564- 15 ก.พ. 2565) ขยายความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่กลุ่มร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหารที่เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยตามบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 100 บาทต่อคนต่อเดือน (1 ม.ค.-31 ม.ค. 2565) และ ขยายระยะเวลาการ คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยกำหนดราคาขายปลีกอยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565 นอกจากนี้ยังทำการแจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 และสินค้าชุมชน ได้แก่ แจกคูปองส่วนลดสำหรับซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 สิทธิละ 500 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ และ แจกคูปองส่วนลดร้อยละ 50 สำหรับซื้อสินค้าชุมชน มูลค่าส่วนลดไม่เกิน 300 บาท จำนวน 28,000 สิทธิ และ แจกคูปองส่วนลดสำหรับที่พักที่เขื่อน กฟผ. สิทธิละ 2 ห้อง จำนวน 15,000 สิทธิ

สถานธนานุบาลลดดอกเบี้ย ช่วยฐานราก

ดร.ธนกร กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการภายใต้แนวคิด “130 ปี มหาดไทย ส่งสุข คลายทุกข์ให้ประชาชนรับปีใหม่ 2565” รวม 12 โครงการ อาทิ สถานธนานุบาลทั่วไทย พร้อมใจลดอัตราดอกเบี้ย โดยสถานธนานุบาล ของอปท. 253 แห่ง ลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เฉพาะหน้าในด้านค่าใช้จ่าย การติดมิเตอร์ใหม่ ลดราคา การประปาฯ จัดให้โดยในเดือน มกราคม-กุมภาพพันธ์ 2565 กปน. ลดค่าติดตั้งประปาใหม่สูงสุดร้อยละ 20 สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ประเภทที่พักอาศัย (R1) ในพื้นที่ให้บริการของกปน.และกปภ. ลดค่าติดตั้งประปาใหม่ร้อยละ 10 สำหรับผู้ใช้น้ำรายใหม่ ประเภทที่อยู่อาศัยที่ติดตั้งมาตรวัดน้ำขนาด 1/2 นิ้วในพื้นที่ให้บริการของ กปภ. 234 สาขาทั่วประเทศ “DOPA Citizen Service” บริการวิถี..ใหม่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว โดยจัดทำและพัฒนา แพลตฟอร์มที่รวบรวมการให้บริการประชาชนแบบออนไลน์ทั้งหมด และ มหาดไทยสูบส่งน้ำ ส่งสุขคลายทุกข์ คลายแล้ง โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1-18 ให้การสนับสนุน เครื่องจักรกลสาธารณภัย

วัฒนธรรม จัดสวดมนต์ข้ามปี

ดร.ธนกร กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมจัดทำโครงการ “ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” เช่น กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีใหม่ และกิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์

อุตสาหกรรม หนุน SMEs เข้าถึงแหล่งทุน

ดร.ธนกร กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม  อำนวยความสะดวกและลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ค่าธรรมเนียม การจดทะเบียนเครื่องจักร และค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน นอกจากนี้ยังเสริมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ เช่น ดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่เป็นนิติบุคคลและเป็นกลุ่มธุรกิจเป้าหมายให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น และดำเนินโครงการ สินเชื่อพิเศษดีพร้อมเปย์ (DIProm Pay) สำหรับ SMEs ทุกสาขาอุตสาหกรรมที่ผ่านการเข้าร่วม โครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในช่วงปีงบฯ 64-65 ยกระดับผู้ประกอบการ เช่น ให้คำปรึกษาแนะนำและออกแบบบรรจุภัณฑ์ ฉลาก สติกเกอร์ พร้อมทั้งจัดทำต้นแบบให้ผู้ประกอบการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูแลเกษตรกรและประชาชน เช่น จัดหาเครื่องสางใบอ้อยเพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ยืมใช้ในการตัดอ้อยสด จำนวน 288 เครื่อง และจัดมหกรรมของขวัญปีใหม่เพื่อประชาชน 60 ร้านค้า ระหว่างวันที่ 23-24 ธันวาคม 2564 ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี

จัดทำแคตตาล็อก รวม “e-Service” อำนวยความสะดวก ปชช.

ดร.ธนกร กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ รวบรวมงานบริการของรัฐที่เป็น e-Service ให้แก่ประชาชน ในหัวข้อ “e-Service ภาครัฐฉับไว ส่งความสุขทั่วไทย เพื่อคนไทยทุกคน” รวม 325 งานบริการ โดยจัดทำแค็ตตาล็อกที่ประชาชนสามารถสแกน QR Code หรือ กดลิงก์เพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์ ได้ทันที

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เร่งรัดการดำเนินงานกลั่นกรองภาพผลการอ่านภาพถ่าย ทางอากาศเพื่อประกอบการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ เป็นการเร่งรัดดำนินการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ จำนวน 239 ระวาง ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศของคณะทำงานกลั่นกรองผลการอ่านภาพถ่ายทางอากาศ ให้แล้วเสร็จ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน จำนวน 5,696 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 30 กันยายน 2565 และ การจัดที่ดินทำกิน ให้ชุมชนเร่งดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 400,000 ไร่ จัดคนลงพื้นที่ที่เห็นชอบแล้วจำนวน 10,000 รายและส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับประชาชน ที่ได้รับการจัดที่ดิน จำนวน 9,500 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 – 30 กันยายน 2565

เกษตร เปิดตลาดขายสินค้าเกษตรผ่านออนไลน์

นอกจากนี้ยังมีขวัญปีใหม่จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้เปิดสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้ประชาชนเข้าชมฟรี หรือ ลดค่าบริการในช่วงเทศกาล คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 56,666 คน เช่น เปิดศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดสถานที่ศูนย์วิจัยการเกษตรให้เที่ยวชมจำนวน 12 แห่งเป็นต้น  และเปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยวเข้าชมช่วงเทศกาลและแจกพันธุ์ไม้ คาดว่าจะมีประชาชนและเกษตรกรได้รับประโยชน์จำนวน 116,450 คน ตัวอย่างจุดบริการ เช่น ศูนย์วิจัยข้าว 3 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 39 แห่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม เสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ มีเกษตรกรและประชาชนได้รับประโยชน์จำนวน 1,445,969 คน โดยจัดหาสินค้าดีมีคุณภาพเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกรผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ เช่น www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เป็นต้น ระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2564 – มกราคม 2565

พม.จัดอบรมอาชีพใหม่ หลังโควิดฯ

ส่วนของขวัญปีใหม่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายละเอียด ดังนี้

    1.กิจกรรม การสร้างอาชีพใหม่หลังโควิด เช่น พี่สอนน้องคล่องธุรกิจ พิชิตฝัน, ปัญญาภิวัฒน์ สานฝันสู่อาชีพ, “Stronger(Teen) Mom”, การประกอบอาชีพเป็นเชฟ และการประกอบอาชีพช่างต่างๆ, การขายของออนไลน์, สร้างคนพิการนักออกแบบ  และสร้างอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น
    2.กิจกรรม “Big Smile เพื่อรอยยิ้ม”  ได้แก่ “Sharing for bigger smile แบ่งปันเพื่อรอยยิ้มของเด็ก”, Little Big Smile รอยยิ้มในครอบครัวอบอุ่น
    3.ระบบรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย แจ้งปัญหาสังคมและขอรับบริการ (E – Service) ผ่านช่องทาง เว็บไซต์ศูนย์ช่วยเหลือสังคม,Line OA พม. เป็นต้น

แรงงาน ลดเงินสมทบผู้ประกันตน ม.40 เหลือ 60%

ของขวัญปีใหม่ของกระทรงแรงงาน รายละเอียด ดังนี้

1. ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีรายละเอียดดังนี้ ทางเลือกที่ 1 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 42 บาทต่อเดือน จากเดิม 70 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 60 บาทต่อเดือน จากเดิม 100 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 3 ลดอัตราเงินสมทบเหลือ 180 บาทต่อเดือน จากเดิม 300 บาทต่อเดือน ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับทั้ง 3 ทางเลือก ยังคงเดิม ทั้งนี้ จากการลดอัตราเงินสมทบดังกล่าวมีผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับประโยชน์กว่า 10.57 ล้านคน เกิดหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 1,408 ล้านบาท

2. เพิ่มอัตราเงินสงเคราะห์จากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างสูงสุด 100 เท่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างหรือค้างจ่ายเงินเดือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้ 1.กรณีค่าชดเชย แบ่งเป็น (1)อัตราค่าชดเชยจากเดิม 30 เท่า เพิ่มเป็น 60 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 120 วัน แต่ไม่ครบ 3 ปี (2)อัตราค่าชดเชยจากเดิม 50 เท่า เพิ่มเป็น 80 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 3 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี (3)อัตราค่าชดเชยจากเดิม 70 เท่า เพิ่มเป็น 100 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป 2.กรณีเงินอื่นนอกจากค่าชดเชย อัตราเดิม 60 เท่า เพิ่มเป็น 100 เท่า ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

3. ฟรีดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน สำหรับการกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อดูแลความเป็นอยู่ของแรงงานนอกระบบในกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านทั่วประเทศกว่า 6,000 คน โดยกรมการจัดหางานจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือค่าธรรมเนียมเหลือร้อยละ 0 ต่อปี ในงวดที่ 1 – 12 โดยไม่ปลอดเงินต้น และงวดที่ 13 เป็นต้นไป จนสิ้นสุดสัญญาคิดอัตราร้อยละ 3 ต่อปี สำหรับวงเงินกู้ยืม ผู้รับงานไปทำที่บ้านรายบุคคลกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท รายกลุ่มกู้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท ผู้สนใจสามารถยื่นกู้ได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพฯ และสำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึง 31 สิงหาคม 2565 และทำสัญญากู้ยืมเงินภายใน 30 กันยายน 2565

สำนักนายกฯ เปิดสายด่วน 1111 รับเรื่องร้องทกข์

ส่วนของขวัญปีใหม่ประจำปี 2565 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ มอบบริการพิเศษเพิ่มความสุขและรอยยิ้มให้ประชาชนในการรับแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส เรื่องร้องทุกข์ทั่วไป ผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล 1111, www.1111.go.th และ Application PSC 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ กรมประชาสัมพันธ์ มอบบริการข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  พร้อมทั้งข่าวสารเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ ของส่วนราชการ ทางสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย และมอบความสุขแก่ประชาชนผ่านรายการพิเศษ เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับผู้ประกอบการออนไลน์ ลดค่าครองชีพของประชาชน โดยจะมอบคูปองส่วนลดในการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ให้แก่ประชาชนในวันที่ 1-31 มกราคม 2565

ไฟเขียว‘ช้อปดีมีคืน’ เริ่ม 1 ม.ค.ปีหน้า

ดร.ธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบมาตรการช้อปดีมีคืน ปี 65 และร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ถึงวันที่ 15 ก.พ. 2565 เพื่อสนับสนุน ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และผู้ประกอบกิจการ การผลิตสินค้าท้องถิ่น (OTOP) โดยกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือ คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

โดยหลักเกณฑ์ที่ใช้ได้เช่น ค่าสินค้า ค่าบริการ รวมถึงค่าสินค้า OTOP แต่ไม่รวม ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ ค่ายาสูบ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับ เติมยานพาหนะ ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารและค่าบริการ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อ มูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และมัคคุเทศก์ ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการ สัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว

“คาดว่าจะได้ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น มูลค่าประมาณ 42,000 ล้านบาท ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) เพิ่มขึ้น ประมาณร้อยละ 0.12 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ทั่วไปเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มขึ้นอีกด้วย” ดร.ธนกร กล่าว

ลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองอสังหาฯเหลือ 0.01% ถึงสิ้นปี’65

นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย โดยผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ต้องการมีที่อยู่ อาศัยเป็นของตนเอง และผู้ขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น ที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ ในราคาซื้อขายและราคา ประเมินทุนทรัพย์ไม่เกินมูลค่า 3 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

ทั้งนี้ ครม. เห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย รวม 2 ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดิม ร้อยละ 2 และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ในคราวเดียวกัน จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ดังนี้ อาคารที่อยู่อาศัย ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคาร หรือ ห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท

แก้กฎหมาย กยศ.ปรับให้ทุนสาขาขาดแคลนแทนกู้ยืม

ดร.ธนกร กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยกำหนดให้คณะกรรมการ กยศ. อาจให้ทุนการศึกษาแทนการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ ในกรณีในสาขาวิชาขาดแคลนหรือสาขาวิชาที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ กยศ. ตลอดจนแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และการชำระเงินคืน กยศ. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ (สคก.) จะขยายโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้แก่นักเรียน/นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีความคล่องตัวยิ่งขึ้น รวมทั้งยังจะมีกลไกให้ผู้กู้ยืมสามารถชำนะเงินคืนกองทุนได้มากขึ้น

การแก้ไขเพิ่มเติมพรบ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 เพิ่มนิยาม “นักเรียน/นักศึกษาและสถานศึกษา รองรับการศึกษาในรูปแบบที่แตกต่าง รวมทั้งเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ให้ คณะกรรมการ กยศ. อาจให้ “ทุนการศึกษาแทนการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติคณะกรรมการกยศ. เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจให้คณะอนุกรรมการ ฯ กำหนดลักษณะของนักเรียนหรือนักศึกษา รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการชำระเงินคืน กยศ. โดยวิธีการผ่อนชำระและระยะเวลาการผ่อนชำระเงินคืนกองทุนให้ยืดหยุ่นขึ้น ผู้กู้ยืมเงินมีสิทธิเลือกชำระเงินกู้ยืมคืนทั้งจำนวนหรือผ่อนชำระได้ รวมทั้งให้คณะกรรมการ กยศ. สามารถกำหนดมาตรการจูงใจเพื่อให้ผู้กู้ยืมเงินไม่ผิดนัดชำระหนี้หรือชำระหนี้ครบถ้วนรวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ วิธืการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้เงินกู้ยืมและการชำระเงินคืนกองทุน เช่น ผู้กู้ยืมสามารภกู้ยืมเงินโคยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

เคาะ “คนละครึ่ง” เฟส 4 คาดเริ่ม มี.ค.-เม.ย.ปีหน้า

ดร.ธนกร ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบโครงการ คนละครึ่งระยะที่ 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยคาดการณ์ว่าจะเริ่มโครงการ ในเดือนมีนาคม 2565 ถึง เมษายน 2565 เป็นระยะเวลา 2 เดือน 

ทั้งนี้ โครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 3 กำลังจะสิ้นสุดโครงการลงในสิ้นเดือน ธันวาคม 2564 นี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีงบประมาณเหลือจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ราว 10,000 ล้านบาท มีผู้ลงทะเบียนประมาณ 28 ล้านคน แต่มีผู้ไม่ได้สิทธิหรือใช้วงเงินครบตามกำหนด จึงทำให้มีเงินเหลือจากโครงการทำให้สามารถนำมาดำเนินต่อในระยะที่ 4 ได้

“คาดว่า โครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 4 จะเริ่ม ต้นในเดือนมีนาคม ถึง เมษายน 2565 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากโครงการนี้ได้รับการตอบค่อนข้างดี และเห็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรม รัฐบาลจึงเดินหน้าเพื่อทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นต่อไป” ดร.ธนกรกล่าว

ระงับเดินทางเข้าไทยชั่วคราว สกัดโอไมครอน

นอกจากนี้ ดร.ธนกร กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติเห็นชอบมาตรการเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม – 4 มกราคม 2565 ดังนี้

  1. ปรับมาตรการ สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยระงับการลงทะเบียนชั่วคราวประเภท Test and Go และ Sandbox ยกเว้น ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565
  2. ปรับมาตรการตรวจหาเชื้อเป็น RT- PCR 2 คร้ัง และต้องมีการกำกับติดตามอาการ / การอยู่ในพื้นที่นำร่องการท่องเท่ียว รวมท้ังการติดตามการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ให้ได้ 100%
  3. ปรับมาตรการสำหรับคนในประเทศไทย โดยให้ประชาสัมพันธ์คนไทยที่จะเดินทางต่างประเทศ ให้พิจารณา ชะลอ ยกเลิกการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะประเทศทาง ยุโรป อเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง พร้อมให้มีการตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และประชาสัมพันธ์ให้มีการใช้ ATK ด้วยตัวเองเป็นระยะๆ หรือเมื่อมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  4. ส่งเสริมให้มีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมทั้งจุดฉีดวัคซีนในสถานีขนส่ง ท่าเรือ หรือท่าอากาศยาน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวให้ความมั่นใจ สำหรับผู้ที่ได้ลงทะเบียน ประมาณ 200,000 คน ในระบบ Test and Go ยังสามารถทยอยเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทางของแต่ละท่าน แต่จะมีมาตรการติดตามที่เข้มขึ้น เช่น การตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือ วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7 โดยในการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 รัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวมีผลวันนี้ คือ 21 ธันวาคม -4 มกราคม 2565 หลังจากนี้ ศบค. จะมีการติดตามสถานการณ์ระหว่างนี้ อย่างใกล้ชิด เพี่อจะนำปรับมาตรการ หลัง 4 มกราคม 2565 อีกครั้ง โดยยึดความมั่นคงด้านสุขภาพของพี่น้องคนไทย และผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศ

  • ศบค. ระงับการเดินทางเข้าไทยแบบ Test & Go ชั่วคราว
  • สั่งซื้อ “ไฟเซอร์-แอสตร้าฯ” 90 ล้านโดส เยียวยาสถานบันเทิง

    ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าครม.มีมติเห็นชอบการใช้เงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กรอบวงเงินรวม 35,967 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการหลัก ดังนี้

      1 โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประจำปี 2565 รวม 90 ล้านโดส กรอบวงเงิน 35,060 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1)วัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 30 ล้านโดส 2)วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) จำนวน 60 ล้านโดส
      2 โครงการเยียวยาผู้ประกันตน ในกิจการสถานบันเทิงและผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ กรอบวงเงิน 607.15 ล้านบาท ดำเนินการโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสำนักงานประกันสังคม จะเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในอัตรารายละ 5,000 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายโครงการทั้งสิ้น 121,431 คน แบ่งเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 จำนวน 10,762 คน และผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 จำนวน 110,669 คน รวมวงเงิน 607 ล้านบาท
      3 โครงการ Thailand Festival Experience กรอบวงเงิน 300 ล้านบาท ดำเนินการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 200,000 คนต่อครั้ง และสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการไม่น้อยกว่า 2,347 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่

      1. โครงการ Amazing Sports & Extreme Month กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท โครงการนี้เป็นการจัดแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ รวม 10 ครั้ง อาทิ การแข่งขันจักรยานทางไกล การแข่งขัน Surf Skate Surf Kite Surfboard and Extreme Sports การแข่งขันไตรกีฬา การแข่งขันวิ่ง City Run และเทศกาลว่าวนานาชาติ โดยจะจัดกิจกรรมในพื้นที่ 10 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่เชียงใหม่ เชียงราย ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา อุดรธานี ชลบุรีสงขลา และเพชรบุรี ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการจ้างงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไม่น้อยกว่า 6.2 แสนอัตรา และเกิดกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคบริการกว่า 550 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 5.65 หมื่นคน (ชาวต่างชาติ 6,500 คน และชาวไทย 50,000 คน)
      2. โครงการ Dazzling of the Andaman กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 10,000 ราย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีรูปแบบกิจกรรม คือ 1)จัดกิจกรรมถ่ายทอดวัฒนธรรมเมืองภูเก็ตผ่านแสงสีและสื่อผสม 2)จัดเทศกาลประดับไฟ ณ แหลมพรหมเทพ 3)จัดกิจกรรมแสดงผลงานทางศิลปะของศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่และพังงา และ 4)การจัดแสดงพลุ ณ แหลมพรหมเทพ ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการกว่า 1,300 ล้านบาท
      3. โครงการ Music Festival & Rhythm in Memory กรอบวงเงิน 100 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 10,000 คน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีรูปแบบกิจกรรมคือ 1)จัดมหกรรมดนตรีที่รับชมบนเรือสำราญ 2)จัดแสดงดนตรี Beach Music Festival ภูเก็ต (หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และเกาะนาคา) 3)การออกร้านของผู้ประกอบการ Start Up SME และวิสาหกิจชุมชน ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ คือ 1)เกิดการกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการกว่า 497 ล้านบาท คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 8,500 คน และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30,000 คนต่อครั้ง

    ยกเว้นค่าทางด่วน “บูรพาวิถี – กาญจนาภิเษก” ช่วงปีใหม่

    นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.รับทราบการยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี ทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถีและทางเชื่อมต่อทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) กับทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษกาญจนาภิเษก(บางพลี-สุขสวัสดิ์) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลา 00.01 นาฬิกา ถึงวันที่ 3 มกราคม 2565 เวลา 24.00 นาฬิกา

    ไฟเขียวจ่ายบำเหน็จอดีตพนักงานรฟท. 15 เท่า

    นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของ รฟท.ในอัตรา 15 เท่าของเงินสงเคราะห์รายเดือน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งเดิมกำหนดไว้ไม่เกิน 200,000 บาท ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 โดยจะใช้เงินของรฟท.ได้แก่ รายได้การโดยสาร รายได้การขนส่งสินค้า รายได้จากการบริหารทรัพย์สินฯ และรายได้อื่นๆที่หมุนเวียนเข้ามาในแต่ละเดือน  ซึ่งได้ประมาณการวงเงินที่จะใช้ตามวิธีการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพรวม 1,774.99 ล้านบาท

    ขณะเดียวกันครม.ยังได้เห็นชอบการแก้ไขข้อบังคับการรถไฟแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 4.9 กองทุนผู้ปฏิบัติงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อรองรับการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่อดีตผู้ปฏิบัติงานของรฟท. เพื่อให้สอดคล้องกับกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพพ.ศ.2562 เพื่อเป็นการช่วยให้อดีตผู้ปฏิบัติงานของรฟท.สามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น

    เห็นชอบแผนพัฒนาระบบขนส่งใน EEC

    นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบผลการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) และมอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกพิจารณาผลักดันแผนแม่บทฯ

    นางสาวไตรศุลี กล่าวต่อว่า คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ยังมีมติเห็นชอบหลักการของโครงการศึกษาการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางรถไฟร่วมกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Motorways-Railways Masterplan : MR-Map) และเห็นชอบร่างโครงข่ายแผนแม่บท MR-Map ซึ่งการจัดทำแผนแม่บท MR-Map มีระยะทางรวม 6,530 กิโลเมตร ประกอบด้วย เส้นทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับเส้นทางระบบราง 4,470 กิโลเมตร เส้นทางเฉพาะทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง 1,710 กิโลเมตร และเส้นทางเฉพาะระบบราง 350 กิโลเมตร

    ขณะเดียวกันคจร.ได้เห็นชอบหลักการการจัดทำระบบ Feeder เพื่อรองรับการเปิดใช้งานรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเห็นชอบแนวเส้นทางให้บริการระบบ Feeder เข้าสู่สถานีรถไฟรังสิตจำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย (1) เส้นทางสถานีรถไฟฟ้ารังสิต-ธัญบุรีคลอง 7 และ (2) เส้นทางสถานีรถไฟฟ้ารังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) และ (3) เส้นทางสถานีรถไฟฟ้ารังสิต-แยกกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ

    เพิ่มเที่ยวบินไทย-บังกลาเทศ เป็น 28 เที่ยวต่อสัปดาห์

    นางสาวไตรศุลี  กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของฝ่ายไทย พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจลับระหว่างไทยและบังกลาเทศต่อไป ซึ่งเป็นการปรับปรุงข้อกำหนดทางการบินและสิทธิการบินระหว่างทั้งสองประเทศ ภายใต้ความตกลงว่าด้วยบริการเดินอากาศระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลบังกลาเทศ โดยมีสาระสำคัญคือการกำหนดความถี่ในการบิน 21 เที่ยวต่อสัปดาห์ ปรับเป็น 28 เที่ยวต่อสัปดาห์ จุดในประเทศเมียนมาที่สายการบินของไทยสามารถใช้สิทธิรับขนการจราจรเสรีภาพที่ 5 เดิมกำหนดไว้จุดเดียวที่ย่างกุ้ง โดยการปรับปรุงครั้งนี้เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการวางแผนเส้นทางบิน และการทำการตลาดของสายการบินที่กำหนด

    เห็นชอบ MOU ความเป็นกลางทางคาร์บอน “อีอีซี-โอซากา”

    นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(สกพอ.) กับ เทศบาลนครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น

    เป้าหมายของแผนดังกล่าวคือ การพัฒนาความเป็นกลางทางคาร์บอนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยจะผลักดันให้เกิดการยกระดับความร่วมมือระหว่างกัน เช่น แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องมาตรฐานและระบบเพื่อสนับสนุนการพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นกลางทางคาร์บอนในพื้นที่อีอีซี, จัดทำและร่วมกันผลักดันให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน และแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงโครงการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการหารือในด้านนโยบายระหว่างผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองฝ่ายปีละ 1 ครั้ง เพื่อขับเคลื่อนนโยบายประเทศไทย 4.0 ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นกลางทางคาร์บอน  มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงนามถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

    เด้ง “ธัญญา” พ้นจากตำแหน่ง ตั้ง “รัชฎา” นั่งอธิบดีกรมอุทยานฯแทน

    นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติการแต่งตั้งข้าราชการและผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่าง ๆมีรายละเอียด ดังนี้

    1. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม)

    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 3 ราย เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ดังนี้

    1. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
    2. นายเฉลิมชัย ปาปะทา รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
    3. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป

    2. การให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ

    คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ นายโสภณ เมฆธน กรรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่อีกหนึ่งวาระ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2564

    3. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการผังเมืองแทนตำแหน่งที่ว่าง

    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้ง นางสาวศิริวรรณ ศิลาพัชรนันท์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสังคมศาสตร์) ในคณะกรรมการผังเมือง แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว

    4. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จำนวน 6 คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2564 ดังนี้

    1. นายธวัช ผลความดี
    2. นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล
    3. นายอดิศัย อยู่อินทร์
    4. นายเกรียงไกร รักษ์กุลชน
    5. นายหทัย อู่ไทย
    6. นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

    5. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ

    คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ดังนี้

    1. นายชโยดม สรรพศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การคลัง การบริหารหนี้สาธารณะ และการงบประมาณ
    2. นางสาวนุชนาถ มั่งคั่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน การคลัง การบริหารหนี้สาธารณะ และการงบประมาณ
    3. นางสวนีย เสตเสถียร ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

    อ่านมติ ครม. ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2564เพิ่มเติม

    ป้ายคำ :