ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “แอสตร้าฯ ของสยามไบโอไซเอนซ์ลอตแรก 1.8 ล้านโดส สธ. เริ่มฉีด 7 มิ.ย. ” และ “ตรวจสอบการตายพิธีกรบีบีซีเกี่ยววัคซีนแอสตร้าฯ หรือไม่”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “แอสตร้าฯ ของสยามไบโอไซเอนซ์ลอตแรก 1.8 ล้านโดส สธ. เริ่มฉีด 7 มิ.ย. ” และ “ตรวจสอบการตายพิธีกรบีบีซีเกี่ยววัคซีนแอสตร้าฯ หรือไม่”

5 มิถุนายน 2021


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 28 พ.ค. – 4 มิ.ย. 2564

  • แอสตร้าฯ ของสยามไบโอไซเอนซ์ลอตแรก 1.8 ล้านโดส สธ. มั่นใจฉีดตามแผน 7 มิ.ย.
  • ไม่ได้คุยกันก่อน? ศบค. ชะลอมติ กทม. ยังไม่คลายล็อกสถานบริการ 5 ประเภท
  • เบรก อปท. ซื้อวัคซีนเองชี้ต้องทำผ่านรัฐ
  • วัควีนคนไทยใกล้สำเร็จ เริ่มทดลองในคน มิ.ย. นี้
  • เตรียมตรวจสอบการตายพิธีกรบีบีซีว่าเกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าฯ หรือไม่

  • แอสตร้าฯของสยามไบโอไซเอนซ์ลอตแรก 1.8 ล้านโดสเริ่มฉีด 7 มิ.ย.

    วันที่ 2 มิ.ย. 2564 บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ได้เริ่มทยอยส่งวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ให้กับทางไทยแล้ว โดยลอตแรกนี้มีจำนวน 1.8 ล้านโดส (ฉีดได้ 9 แสนคน) จากที่สั่งซื้อไว้ทั้งหมด 61 ล้านโดส ทั้งนี้ ลอตแรกนี้เป็นวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอฯ และยังมีการนำบางส่วนมาจากเกาหลีด้วย สอดคล้องกับที่ไม่ได้มีการจำกัดในการสั่งซื้อว่าต้องเป็นวัคซีนที่ผลิตในไทยเท่านั้น

    ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนฉีดวัคซีน เพราะทาง สธ. ทำได้ตามแผนทั้งซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า

    ไม่ได้คุยกัน ศบค. ชะลอมติ กทม. ยังไม่คลายล็อกสถานบริการ 5 ประเภท

    นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มาภาพ: https://www.thaigov.go.th/gallery/contents/details/7113

    เป็นอีกครั้งหนึ่งที่การสื่อสารนโยบายจากทางหน่วยงานต่างๆ ภาครัฐเป็นไม่ตรงกันจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และคราวนี้คือถึงขั้นบางคนต้องเดือดร้อน โดยเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 31 พ.ค. 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้มีมติผ่อนคลายมาตรการให้สถานบริการ 5 ประเภทเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2563 เป็นต้นไป ได้แก่ พิพิธภัณฑ์, ร้านสัก, สถานเสริมความงาม, นวด/สปา และสวนสาธารณ

    แต่แล้ว เพียงช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ก็ประกาศว่าให้ใช้ประกาศฉบับเดิมไปก่อนอีก 14 วัน ซึ่งหมายความว่า ที่ กทม. ประกาศไว้ก่อนหน้านั้นว่าจะผ่อนคลายมาตรการ มีอันต้องยกเลิกไป งานนี้เดือดร้อนผู้ประกอบการต่างๆ ที่เตรียมตัวจะเปิดให้บริการในวันรุ่งขึ้น รวมถึงเหล่าลูกจ้างที่ก่อนหน้านี้อาจมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาเพราะสถานที่ทำงานปิดบริการตามมาตรการควบคุม และกำลังเดินทางกลับมาทันทีที่ กทม. มีประกาศว่าจะผ่อนคลายมาตรการ

    เบรก อปท. ซื้อวัคซีนเอง ชี้ ต้องทำผ่านรัฐ

    พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา
    รมว.มหาดไทย
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (https://goo.gl/UMLz8t)

    จากกรณีที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะนำวัคซีนซิโนฟาร์มเข้ามาจำหน่ายเป็นวัคซีนทางเลือกตัวแรกของไทยจำนวน 1 ล้านโดส ได้มาพร้อมข่าวที่ว่ามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ติดต่อไปทางสถาบัน เพื่อใช้งบท้องถิ่นมาจัดซื้อวัคซีนจากจำนวนที่นำเข้านี้ เพื่อไปฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ของตนเอง

    ทว่า ตามการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว การนำเข้าวัคซีนในระยะแรกจะต้องดำเนินการโดยรัฐเท่านั้น อปท. และภาคเอกชนจะยังจัดซื้อเองไม่ได้ ทำให้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาเบรกเรื่องดังกล่าว โดยย้ำถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินข้างต้น พร้อมทั้งระบุว่า อปท. แต่ละแห่งมีงบประมาณไม่เท่ากัน ย่อมทำให้ซื้อวัคซีนได้จำนวนไม่เท่ากันไปด้วย อันจะนำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งทำให้ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่ามีกฎระเบียบของกระทรวงมหาดไทยที่จะทำให้การซื้อวัคซีนของ อปท. นั้นเป็นการใช้งบประมาณผิดประเภท อันจะทำให้มีปัญหากับทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ดังนั้น ถ้า อปท. จะซื้อเอง ก็ต้องติดต่อกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ทางกระทรวงอนุญาตให้การใช้งบประมาณซื้อวัควีนไม่เป็นการใช้งบประมาณผิดประเภท

    เรื่องนี้ ทาง สตง. ชี้แจงว่าเข้าใจถึงความจำเป็นเร่งด่วน แต่ตอนนี้อำนาจในการจัดการตามกฎหมายอยู่ที่ ศบค. ทั้งหมด ดังนั้น หากทาง ศบค. มีโนยบายลงมาว่าให้ อปท. จัดซื้อวัคซีนเองได้ นอกจากทาง สตง. จะไม่ติดแล้ว ยังจะช่วยให้คำแนะนำในการใช้งบประมาณอย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย

    เรื่องนี้ สอดคล้องกับสิ่งที่ พล.อ. อนุพงษ์ ชี้แจงอีกครั้งในสภาเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2564 กล่าวคือ หาก อปท. ประสงค์จะจัดซื้อวัคซีน ก็ต้องประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น ศบค. และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ให้ ศบค. แจ้งไปที่ อปท. ว่าซื้อได้ แต่ต้องอยู่ใต้แผนของ ศบค. ซึ่งหมายคววามว่า หาก อปท. ประสงค์จะจัดซื้อก็ไม่สามารถทำด้วยตัวเองโดยตรงได้ ต้องติดต่อผ่านรัฐเท่านั้น

    วัควีนคนไทยใกล้สำเร็จ เริ่มทดลองในคน มิ.ย. นี้

    ที่มาภาพ: https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/41456

    วันที่ 31 พ.ค. 2564 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ในโพสต์เฟซบุ๊กกวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล ระบุถึงความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ฝีมือคนไทย หรือ ChulaCov19 ที่พัฒนาขึ้นโดย ศ. นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกับ Pfizer และ Moderna และเป็นวัคซีนที่ต่อยอดขึ้นมาเพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกา (B.1.351) และ สายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) รวมถึงยังอาจพัฒนาให้รับมือกับสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) ได้อีกด้วย

    นางสาวไตรศุลีระบุว่า ChulaCov19 กำลังจะเริ่มทดลองประสิทธิภาพในมนุษย์ระยะแรกกับอาสาสมัคร 100 คนในเดือน มิ.ย. นี้ โดยจะใช้ผลการทดสอบเทียบกับตัวอย่างเลือดจากผู้ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในต่างประเทศ และแอสตร้าเซนเนก้าจากประเทศไทย หากผลการทดสอบพบว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีน ChulaCov19 เทียบเท่าหรือดีกว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์และแอสตร้าเซนเนก้า ก็น่าที่จะขออนุมัติเป็นการพิเศษเพื่อให้วัคซีนถูกนำมาใช้ในประเทศโดยเร่งด่วนได้

    วัคซีน ChulaCov19 ใกล้ความจริง เทียบชั้น Pfizer-Moderna เริ่มทดลองกับมนุษย์ มิ.ย.นี้

    วารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลก…

    Posted by กวาง ไตรศุลี ไตรสรณกุล on Sunday, May 30, 2021

    เตรียมตรวจสอบการตายพิธีกรบีบีซีว่าเกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าฯ หรือไม่

    ลิซา ชอว์ พิธีกรของบีบีซี หลังจากได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก เธอมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงอยู่หนึ่งสัปดาห์ และ 2-3 วันต่อมาก็ป่วยหนักด้วยอาการลิ่มเลือดอุดตันและเลือดออกในศีรษะ ที่ทำให้ต้องรักษาอาการอยู่หลายวัน ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 21 พ.ค. 2564

    ใบมรณบัตรของเธอมีการยืนยันว่า มีการพิจาณาถึง “อาการแทรกซ้อนจากการรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า” ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิต เพราะการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ

    อนึ่ง เท่าที่ทางบีบีซีทราบคือ พิธีกรท่านนี้ไม่มีปัญหาสุขภาพอื่นใดอยู่

    สำนักงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (MHRA) ของสหราชอาณาจักร ได้แสดงความเสียใจกับกรณีดังกล่าว และระบุว่าทาง MHRA ได้ประเมินรายงานการตรวจสอบการเสียชีวิตอย่างเต็มที่ รวมถึงการประเมินรายละเอียดการชันสูตรศพหลังเสียชีวิตถ้ามี เช่นเดียวกับปฏิกิริยาต้องสงสัยที่รุนแรงต่างๆ และ “ขณะนี้กำลังตรวจสอบการเกิดลิ่มเลือดอุดตันร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดน้อยอย่างละเอียด”

    อย่างไรก็ดี MHRA ระบุว่า การเกิดกรณีดังกล่าวยังคง “ต่ำมาก”