ThaiPublica > ประเด็นร้อน > COVID-19 พลิกโลก > สธ. เร่งฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสพ.ย. นี้ ประสานท้องถิ่น-เอกชนชวนที่เหลืออีก 10 ล้านคน

สธ. เร่งฉีดวัคซีนครบ 100 ล้านโดสพ.ย. นี้ ประสานท้องถิ่น-เอกชนชวนที่เหลืออีก 10 ล้านคน

12 พฤศจิกายน 2021


นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

12 พฤศจิกายน 2564 กระทรวงสาธารณสุข เผย ฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วกว่า 84 ล้านโดส คาดเหลืออีกประมาณ 10 ล้านคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ตั้งเป้าเพิ่มอัตราการฉีดให้ครบ 100 ล้านโดส ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เร็วกว่าแผนเดิม 1 เดือน เพื่อรับเทศกาลปีใหม่และเดินทางจำนวนมาก

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในระดับต่ำกว่าวันละ 1 หมื่นรายต่อเนื่องมา 2-3 สัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีบางทวีปเริ่มกลับมาพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราป่วยและเสียชีวิตเริ่มลดลงภายหลังมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากกว่า 7,300 ล้านโดสทั่วโลก

ส่วนประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนแล้วประมาณ 84 ล้านโดส มีผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็มจำนวน 45 ล้านคน หรือร้อยละ 62 ของประชากร ซึ่งมีทั้งคนไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทย และคาดว่ายังเหลือผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนอีกประมาณ 10 ล้านคน

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าหมายฉีดวัคซีนให้รวดเร็วขึ้น โดยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส หรือประมาณ 50 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 ของประชากรในทุกจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว จากเดิมที่กำหนดไว้ภายในปี 2564 หรือเร็วกว่าแผนเดิม 1 เดือน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับสังคม เนื่องจากเดือนธันวาคมจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และมีผู้คนเดินทางจำนวนมาก รวมถึงชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาประเทศไทยมากขึ้นหลายเท่า

นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำชับทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าของสถานประกอบการ บริษัทเอกชนและภาคประชาสังคม ให้ร่วมมือกันชักชวนและนำผู้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มาฉีดวัคซีนในสถานพยาบาลหรือจุดที่กำหนดโดยเร็ว

ทั้งนี้ สูตรการฉีดวัคซีนในเดือนพฤศจิกายนนี้ สามารถเริ่มเข็มแรกเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และนัดฉีดเข็ม 2 เป็นไฟเซอร์ ห่างกัน 4 สัปดาห์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วและปลอดภัย ส่วนในเด็กอายุ 12-17 ปี ยังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็มตามเดิม

โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่ม 608 (กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี และอยู่ใน 8 โรคกลุ่มเสี่ยง) ซึ่งจำนวนมากเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่เสียชีวิต โดยประมาณร้อยละ 70 ยังไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้น กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 7 กลุ่มโรคเสี่ยง และหญิงตั้งครรภ์ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 เพื่อให้มีความปลอดภัย ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต โดยทุกภาคส่วน