ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ (archive) > AIS 5G ตอกย้ำภารกิจ “เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย” เปิดแผนสนับสนุน “Phuket Sandbox”

AIS 5G ตอกย้ำภารกิจ “เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย” เปิดแผนสนับสนุน “Phuket Sandbox”

29 มิถุนายน 2021


ข่าวประชาสัมพันธ์

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS

AIS 5G ตอกย้ำภารกิจ “เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย” เปิดแผนสนับสนุน “Phuket Sandbox”จัดเต็มเทคโนโลยีดิจิทัลเสริมแกร่ง Smart City ครบทุกด้าน พร้อมผนึก ททท. จัดบริการสื่อสารอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สนับสนุนการภารกิจเปิดประเทศเต็มที่

29 มิถุนายน 2564 : หลังจากที่รัฐบาลและ ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้อนุมัติหลักการ การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของจังหวัดภูเก็ต หรือ Phuket Sandbox ตามข้อเสนอของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งจะมีการดำเนินการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นั้น ทาง AIS ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมพร้อมในการสนับสนุนแผนการทำงานดังกล่าวกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเต็มกำลัง ภายใต้ภารกิจ เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทย ในการทำให้ “Phuket Sandbox” เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยฟันเฟืองของเทคโนโลยีดิจิทัล อันประกอบด้วย เครือข่าย, บริการดิจิทัล และบุคลากรที่พร้อมให้บริการสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยประกาศความร่วมมือกับ ททท.เพื่อขับเคลื่อนภารกิจนี้อย่างเต็มที่

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ททท. มีความพยายามที่จะผลักดันให้ “การท่องเที่ยว” เป็นเครื่องมือที่รักษาเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อน Phuket Sandbox เพื่อเปิดรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้นไป โดยคาดหวังว่า ภายสิ้นปี 2564 นี้จะเกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ไม่น้อยกว่า 4 ล้านคน และสร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 8.5 แสนล้านบาท โดยหนึ่งในความสำเร็จของการเป็นเจ้าบ้านที่ดีของคนไทยที่ตั้งใจต้อนรับการเดินทางกลับมาของนักท่องเที่ยว คือการที่ AIS 5G ได้ให้การสนับสนุนภารกิจของชาติในการให้บริการระบบสื่อสาร โครงข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลและการบริการสุดพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยี่ยมเยือนประเทศไทย ตามมาตรการ Phuket Sandbox ททท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่ดีนี้จะสามารถขยายพื้นที่บริการไปยังแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ สมุย พะงัน เกาะเต่า บุรีรัมย์ ชลบุรี เชียงใหม่ หัวหิน-ชะอำ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 นี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว (High-season) ของประเทศไทย

ผู้ว่าฯ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้พลิกฟื้นกลับมาประกอบกิจการภายในสิ้นปีนี้ โดยจะส่งผลให้การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมามีเสถียรภาพดังเช่นที่เคยเป็นมา โดยจะใช้ “การท่องเที่ยว” นี้ให้เป็น “เครื่องมือที่ดี” และยังคงสร้างความมั่งคั่งให้แก่ประเทศไทยด้วยการถือสัดส่วนตัวเลข GDP ได้ไม่น้อยกว่า 17% ดังเช่นที่ผ่านมา

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 อีกครั้ง ทำให้เราเห็นพลังและความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ ล่าสุดจากการที่ภาครัฐได้เริ่มแผนการเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการนำร่องของจังหวัดภูเก็ต ที่นับเป็นอีกหนึ่ง Destination เป้าหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่สร้างเม็ดเงินให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นมหาศาลในแต่ละปี ผ่านโครงการ Phuket Sandbox ในวันที่ 1 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อฟื้นฟูและประคองเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดย AIS เองได้เข้าร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งในช่วงตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในช่วงแรกๆจนถึงภารกิจเสริมความแข็งแกร่งของ Phuket Sandbox ใน 3 ส่วน ประกอบด้วย

  • Communication เตรียมระบบสื่อสารให้แก่นักท่องเที่ยว ได้เที่ยวอย่างปลอดภัย โดย ร่วมกับ ททท. และหน่วยงานที่อยู่ในกลุ่มบริการ การท่องเที่ยวภูเก็ต ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสายการบินต่างๆ ในการสนับสนุนซิมการ์ดฟรีให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมเปิดให้ใช้ฟรีแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม เพื่ออำนวยความสะดวก และดูแล ติดตาม ความปลอดภัย ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ
  • Digital Infrastructure นำโครงข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับอุตสาหกรรมบริการการท่องเที่ยวต่างๆ โดย ร่วมกับ DEPA, Tech Start Up, ท่าเรืออ่าวปอ , ผู้ประกอบการเรือยอชต์ ให้บริการกักตัววิถีใหม่บนเรือยอชต์ “Digital Yacht Quarantine” ผ่านเครือข่าย NB-IoT และสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ที่เป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาติดตามข้อมูลสุขภาพของนักท่องเที่ยว ตลอดระยะเวลาการกักตัว ซึ่งได้ผลตอบรับจากผู้ประกอบการธุรกิจเรือยอชต์ได้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาใช้บริการแล้วโดยไม่พบการติดเชื้อเลย รวมถึงการนำเครือข่าย 5G,4G, Free Wifi เข้าไปเสริมขีดความสามารถของภาคสาธารณสุขภูเก็ต ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม และจุดฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
  • Customer/Tourist Service สร้างความมั่นใจและมอบความพิเศษให้แก่นักท่องเที่ยว โดยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการ โดยบุคลากรด่านหน้าของ AIS Shop ที่ได้รับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 แล้ว ทั้งที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต และภายในห้างสรรพสินค้า พร้อมจัดเตรียมสถานที่ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุด อย่างสอดคล้องไปกับมาตรการของภาครัฐและมาตรฐานอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (SHA) ทั้งนี้รวมไปถึงการมอบสิทธิพิเศษจากร้านค้าท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท้องถิ่นอีกด้วย

“การทำงานอย่างหนักของ AIS แสดงให้เห็นได้ถึงความต่อเนื่อง และการให้ความสำคัญกับภาคการท่องเที่ยวซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ตัวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง เรายังคงมีความเชื่อเสมอว่าการทำงานอย่างสอดประสานจะช่วยให้เราสามารถนำพาประเทศผ่านพ้นสถานการณ์ความท้าทายนี้ไปได้ แน่นอนว่า Phuket Sandbox เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือทั้งภาคประชาชน ผู้ประกอบการ เอกชน และภาครัฐ ที่มีเป้าหมายในการฟื้นฟูประเทศ รวมถึงปลุกจังหวัดภูเก็ตให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง” นายสมชัย กล่าว

เกี่ยวกับโครงการ AIS 5G เชื่อมต่อช่วยเหลือเพื่อคนไทย

AIS ส่งต่อความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้น 3 ด้าน คือ 1. สนับสนุนเครือข่ายสื่อสาร 5G, 4G,Free WIFI หนุนการทำงานของภาคสาธารณสุข ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนาม ทั่วประเทศ ล่าสุดจำนวน 88 แห่ง 23,560 เตียง พร้อมจุดฉีดวัคซีนอีก 94 จุด ใน กทม.และต่างจังหวัด รวมถึง เสริมเครือข่ายในบริเวณโรงพยาบาลทั่วประเทศ 2. สนับสนุนบริการดิจิทัล อาทิ แอพพลิเคชั่น อสม.ออนไลน์ ให้แก่กลุ่ม อสม.ช่วยในการทำรายงานและคัดกรอง, หุ่นยนต์คัดกรอง ROC-Robot For Care, เทคโนโลยี 5G AI CT Scan ปอด, เทเลเมดิซีน-ระบบโทรเวชกรรม , ระบบ CLOUD Contact Center สายด่วน, ระบบ NB IoT Tracking และ แพลตฟอร์มวัคซีน 3. สนับสนุนอุปกรณ์สื่อสาร-ไอที พร้อมซิมและค่าบริการ แก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริม สนับสนุนภารกิจต้านภัยโควิดของประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้อย่างดีที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2564)