ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “รุ้งติดโควิด พบผู้ต้องขังติดโควิดกว่า 2,000 ราย ยัน–รับมือได้” และ “สมาคมผู้สื่อข่าว ตปท. กังวลไทยจับนักข่าวเมียนมา หวั่นส่งกลับประเทศ”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “รุ้งติดโควิด พบผู้ต้องขังติดโควิดกว่า 2,000 ราย ยัน–รับมือได้” และ “สมาคมผู้สื่อข่าว ตปท. กังวลไทยจับนักข่าวเมียนมา หวั่นส่งกลับประเทศ”

16 พฤษภาคม 2021


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 8-14 พ.ค. 2564

  • รุ้งติดโควิด ราชทัณฑ์เผยพบผู้ต้องขังติดโควิดกว่า 2,000 ราย ยืนยัน–รับมือได้
  • ศาลให้ประกัน “เพนกวิน-แอมมี่” เลื่อนไต่สวนไมค์ ล่าสุดติดโควิด
  • วางแผนวัคซีน เล็งเปิดวอล์กอิน — “ไม่มีประวัติการรักษา-อาชีพกลุ่มเสี่ยง”
  • นายกสมาคม รพ.เอกชน แนะ “อย่ารอฉีดวัคซีนของเอกชน”
  • สมาคมผู้สื่อขาว ตปท. กังวลไทยจับนักข่าวเมียนมา หวั่นส่งกลับประเทศ

  • รุ้งติดโควิด เผยพบผู้ต้องขังติดโควิดกว่า 2,000 ราย ยัน–รับมือได้

    หลังจากเป็นอิสระได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2564 ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร ก็ได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก Panusaya Sithijirawattanakul วันที่ 12 พ.ค. 2564 เรื่องทราบผลว่าตัวเองติดโควิด-19 ในวันที่ 11 พ.ค. 2564

    ปนัสยาได้กล่าวขอโทษทุกคนที่มาเจอเธอแล้วต้องมาเจอกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ เพราะตัวเองไม่คิดว่าจะติดเชื้อ เนื่องจากเคยตรวจไปเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 แล้วไม่พบเชื้อ อีกทั้งวันที่ 6 พ.ค. 2564 ที่ออกจากเรือนจำก็ได้ขอให้ทางโรงพยาบาลตรวจหาเชื้อให้ แต่ทางโรงพยาบาลไม่ได้ตรวจให้เนื่องจากไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงและไม่มีอาการใดๆ ปนัสยาเพิ่งมีอาการในช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ค. 2564 จึงไปตรวจและพบว่าติดเชื้อ

    อนึ่ง ปนัสยาเล่าด้วยว่า วันที่ 5 พ.ย. 2564 ซึ่งเป็นวันก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ได้ทราบว่ามีผู้ติดเชื้ออยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางแล้วมากกว่า 50 คน ทำให้เธอคาดว่าคาดว่า ณ เวลาที่เธอได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อแล้วนั้น ทั้งในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำอื่นคงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาล

    ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน เมธาวี สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “เม” พี่สาวของปนัสยา ก็เปิดเผยว่าตนเองติดโควิด-19 ด้วย โดยคาดว่าติดจากปนัสยา

    หลังจากที่ปนัสยาออกมาเปิดเผยเรื่องการติดเชื้อของตัวเอง ต่อมา เวลา 15.50 น. ของวันเดียวกัน เฟซบุ๊กแฟนเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ก็ได้โพสต์ประกาศชี้แจง กรณีสื่อตั้งข้อสงสัยว่าเกิดการแพร่ระบอดของโควิด-19 ได้อย่างไร และมีการปกปิดไทม์ไลน์การรักษาผู้ติดเชื้อหรือไม่

    ทางกรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า เรือนจำและทัณฑสถานมีการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และมีการนำผู้ต้องขังออกไปภายนอกอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าไปได้

    แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อในทัณฑสถานหญิงกลางจำนวน 1,040 ราย ส่วนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมี 1,795 ราย ซึ่งจากข้อมูลนี้หมายความว่า เฉพาะเรือนจำในส่วนกลางนี้ มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,835 ราย

    อย่างไรก็ดี ทางราชทััณฑ์ยืนยันว่าสามารถควบคุมดูแลได้ โดยยกตัวอย่างกรณีของเรือนจำนราธิวาส ที่สามารถดูแลรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อจนหาย และไม่ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้ออีก

    อนึ่ง วันที่ 14 พ.ค. 2564 เฟซบุ๊กแฟนเพจ iLaw เปิดเผยว่า มีการพบเอกสารราชทัณฑ์ของเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2564 ระบุข้อมูลจากวันที่ 29 เม.ย. 2564 ว่ามีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ติดเชื้อ 77 คนผู้ต้องขัง 575 คนในเรือนจำ 19 แห่ง

    อ่านเพิ่มเติม
    เฟซบุ๊กแฟนเพจ Panusaya Sithijirawattanakul 12 เม.ย. 2564
    เว็บไซต์มติชนออนไลน์ — ‘เม พี่สาวรุ้ง’ ติดโควิด-19 คาดติดจากน้องสาว เตรียมแจ้งไทม์ไลน์ละเอียด
    เฟซบุ๊กแฟนเพจ ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ — “ราชทัณฑ์ ตรวจหาเชื้อโควิดในผู้ต้องขัง เชิงรุกแบบ 100% พบติดเชื้อกว่า 2,000 ราย เหตุจากนักโทษเข้าใหม่ ยันรับมือไหวยกตัวอย่างกรณีเรือนจำนราธิวาส”
    เฟซบุ๊กแฟนเพจ iLaw — พบเอกสารราชทัณฑ์ตั้งแต่ 29 เมษา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ติดเชื้อ 77 คนผู้ต้องขัง 575 คนในเรือนจำ 19 แห่ง

    ศาลให้ประกัน “เพนกวิน-แอมมี่” เลื่อนไต่สวนไมค์ ล่าสุดติดโควิด

    ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก พริษฐ์ ชีวารักษ์ (เพนกวิน)

    วันที่ 11 พ.ค. 2564 ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ และ “แอมมี่” ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ โดยทั้งคู่แถลงรับเงื่อนไขการประดันตัวแบบเดียวกับที่แกนนำและแนวร่วม “กลุ่มราษฎร” คนอื่นๆ เคยรับและได้ปล่อยตัวไปชั่วคราวไปก่อนหน้านี้ เช่น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา (ไผ่ ดาวดิน) และสมยศ พฤกษาเกษมสุข

    เงื่อนไขดังกล่าวคือ

    1. จะไม่กระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
    2. ไม่เดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน
    3. จะเดินทางมาศาลทุกครั้งตามนัดหมาย

    ทนายความจำเลยได้สอบถามพริษฐ์ว่าจะยอมรับเงื่อนไขไม่เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองด้วยหรือไม่ หลังจากหารือกับทนายความ และศาลระบุว่าการชุมนุมเรียกร้องตามสิทธิภายใต้รัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้อยู่แล้ว พริษฐ์จึงแถลงยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ชุมนุมอย่างสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ และจะเข้าร่วมเฉพาะกิจกรรมที่สงบสันติ จะไม่ไปเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง

    นอกจากนี้ อัยการโจทก์ยังได้ถามค้านพริษฐ์เกี่ยวกับเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวว่า รวมถึงการกระทำใดๆ ในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ที่พริษฐ์เป็นผู้ดูแลด้วยหรือไม่ ซึ่งพริษฐ์ตอบว่า ไม่เคยใช้สื่อออนไลน์สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ

    ต่อมา พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนายพริษฐ์ และนายไชยอมรแล้วเห็นว่า “ถือได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดีเปลี่ยนแปลงไป” จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกันคดี 2 แสนบาทสำหรับนายพริษฐ์ และตีราคาประกัน 2 คดี รวม 2.5 แสนบาทสำหรับนายไชยอมร พร้อมกำหนดเงื่อนไขไว้ว่า

    1. ห้ามกระทำการใดในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหาตามฟ้องอันเป็นที่เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมใดที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายภายในบ้านเมือง
    2. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล
    3. ให้มาตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด

    อนึ่ง ในส่วนของภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ ระยอง” ศาลแจ้งเลื่อนนัดการไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนายภาณุพงศ์ออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าศาลได้รับแจ้งจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่พบเชื้อ ทว่าเป็นการตรวจตั้งแต่ 6 พ.ค. ซึ่งมีระยะห่างจากวันปัจจุบันมากเกินไป อีกทั้งจำเลยคลุกคลีกับผู้ติดเชื้อ เป็นอันตรายต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นควรให้เลื่อนไปรอฟังผลการตรวจโควิดรอบใหม่ก่อน หากศาลได้รับแจ้งผลจากทางเรือนจำเมื่อใด จึงจะกำหนดนัดไต่สวนคำร้องของจำเลยต่อไป

    อย่างไรก็ดี วันที่ 13 พ.ค. 2564 มีการยืนยันจากทางกรมราชทัณฑ์ว่าภาณุพงศ์ติดเชื้อโควิด

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — ราษฎร: ศาลให้ประกันตัว เพนกวิน-แอมมี่ เลื่อนไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวไมค์
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — โควิด-19: ราชทัณฑ์ยืนยัน “ไมค์ ภาณุพงศ์” ติดโควิด คาด “รุ้ง ปนัสยา” ติดเชื้อหลังปล่อยตัว

    วางแผนวัคซีน เล็งเปิดวอล์กอิน — “ไม่มีประวัติการรักษา-อาชีพกลุ่มเสี่ยง”

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติปรับแผนการปูพรมฉีดวัคซีน เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนเข็มแรกเป็นจำนวนมากที่สุด โดยนอกจากการนัดรับวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหรือไลน์หมอพร้อมแล้ว ยังจะเปิดให้มีการ “วอล์กอิน” ตามจุดบริการต่างๆ ด้วย

    ทั้งนี้ ในส่วนของการวอล์กอินหรือการเข้ารับวัคซีนโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านั้น เป็นความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี หรือประสบปัญหาในการจอง โดยจะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น กลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่ โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ที่จัดให้เป็นจุดวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่ง มีระบบระบายอากาศ และรองรับคนจำนวนมากได้เพื่อลดความแออัด เช่น สถานีกลางบางซื่อ จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์บางกะปิ

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ — บอร์ดวัคซีน รื้อระบบ งัดสูตร 30:50:20 เร่งฉีด ไฟเขียวให้ ‘วอล์คอิน’ ได้

    นายกสมาคม รพ.เอกชน แนะ “อย่ารอฉีดวัคซีนของเอกชน”

    วันที่ 14 พ.ค. 2564 นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช รองนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน กล่าวว่า การซื้อวัคซีนของ ‘โมเดอร์นา’ นั้น โรงพยาบาลเอกชนสามารถดีลตรงกับทางบริษัทผู้นำเข้า คือ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ได้เลย แต่ตอนนี้ทางบริษัทยังไม่มีวัคซีนส่งให้

    ด้าน นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ ประธานโรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวว่า ขณะนี้ รพ.หลายแห่งอยู่ระหว่างการสำรวจ และรวบรวมจำนวนวัคซีน เพื่อให้กับทาง องค์การเภสัชกรรม (อภ.)เป็นผู้สั่งซื้อให้ ซึ่งโรงพยาบาลแต่ละแห่งมีความต้องการประมาณ 10,000-1,000,000 โดส โดยเบื้องต้นจะมีวัคซีนเข้ามาให้ประมาณเดือน ต.ค. 2564 ดังนั้น ในช่วงนี้จึงฝากไปยังประชาชนทุกคนว่า อย่ารอวัคซีนของเอกชนเท่านั้น วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาให้นั้นถือเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี หากได้รับสิทธิขอให้ไปฉีดทันที เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

    นอกจากนี้ เมื่อฉีดครบสองเข็มแล้ว เข็มต่อๆ ไปจะฉีดของยี่ห้ออะไรก็ได้ เช่นเดียวกบัวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องฉีดกระตุ้นทุกปี

    อ่านเพิ่มเติม
    เฟซบุ๊กแฟนเพจ WorkpointTODAY — รองนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน แนะประชาชนอย่ารอวัคซีนโควิด-19 ของเอกชนเท่านั้น

    สมาคมผู้สื่อขาว ตปท. กังวลไทยจับนักข่าวเมียนมา หวั่นส่งกลับประเทศ

    วันที่ 11 พ.ค. 2564 สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) ออกแถลงการณ์แสดง “ความกังวลใจอย่างยิ่ง” ต่อกรณีการจับกุมผู้สื่อข่าว 3 คนจากสำนักข่าว DVB พร้อมด้วยผู้ติดตามอีก 2 คน

    “สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 ราย ได้รับการปล่อยตัว และได้รับสิทธิ์ในการพักพิงชั่วคราวในประเทศไทยโดยปลอดภัย ทางการไทยต้องไม่ผลักดันผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 รายกลับประเทศเมียนมาโดยเด็ดขาด เพราะบุคคลทั้ง 5 จะถูกทางการเมียนมาจับกุมตัวและดำเนินคดีอย่างแน่นอน”

    ความกังวลดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้สื่อข่าวชาวเมียนมาและผู้ติดตามรวม 5 คน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอสันทราย จับกุมที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.สันทราย เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2564 และถูกนำตัวขึ้นศาลแขวงจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 11 พ.ค. 2564

    พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงข้อกังวลของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศต่อการดำเนินคดีและการผลักดันผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรว่า

    “สำหรับการผลักดันผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรนั้น โดยปกติจะดำเนินการภายหลังจากเมื่อกระบวนการพิจารณาของศาลเสร็จสิ้นโดยเป็นขั้นตอนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องพิจารณาและประเมินจากหลาย ๆ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาผลักดันออกนอกราชอาณาจักรตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาในประเด็นเรื่องการผลักดันออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด”

    อ่านเพิ่มเติม
    เว็บไซต์บีบีซีไทย — รัฐประหารเมียนมา: สมาคมผู้สื่อข่าว ตปท. เรียกร้องทางการไทยอย่าส่งนักข่าวเมียนมากลับประเทศ