ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ (archive) > AIS 5G เชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสาร 23 จุดบริการฉีดวัคซีน กทม.และต่างจังหวัด

AIS 5G เชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสาร 23 จุดบริการฉีดวัคซีน กทม.และต่างจังหวัด

8 พฤษภาคม 2021


ข่าวประชาสัมพันธ์

AIS 5G เชื่อมต่อเครือข่ายสื่อสาร 23 จุดบริการฉีดวัคซีน ในเขต กทม.และต่างจังหวัด หนุนภารกิจสร้างภูมิคุ้มกันระดับประเทศเต็มที่ เพื่อคนไทย

8 พฤษภาคม 2564: หนึ่งในแผนการรับมือการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ของภาคสาธารณสุขคือการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งจะทยอยเริ่มในเร็วๆ นี้นั้น นอกเหนือจากจุดบริการฉีดวัคซีนภายในโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว ภาคเอกชนยังได้ร่วมจับมือในภารกิจนี้อย่างเต็มที่ อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมถึงองค์กรต่างๆ ที่ได้จัดจุดบริการฉีดวัคซีนทั้งนอก และในโรงพยาบาลเพื่อให้มีสถานที่พร้อมให้บริการประชาชน แบ่งเบาภาระภาคสาธารณสุข อีกด้วยกันหลายแห่ง

โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่สำคัญยิ่งในภารกิจดังกล่าว คือ เครือข่ายสื่อสาร ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงตรวจสอบฐานข้อมูล พร้อมด้วยการจัดเก็บทะเบียนประวัติการฉีดวัคซีนของประชาชนของทีมแพทย์และภาคสาธารณสุขให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงให้ประชาชนที่มาเข้ารับการฉีดวัคซีนได้สื่อสารระหว่างรอรับวัคซีน ดังนั้นที่ผ่านมา AIS5G จึงได้เข้าร่วมในภารกิจนี้กับองค์กรต่างๆ เพื่อให้พร้อมต่อการดูแลประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์

นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS กล่าวว่า “เราได้เริ่มเข้าไปทำงาน ประสานกับหลากหลายองค์กรที่เปิดเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในช่วงที่ผ่านมา เพื่อตอบโจทย์ขั้นตอนการสื่อสาร ส่งต่อข้อมูลการฉีดวัคซีนที่จำเป็นต้องลงรายละเอียด เก็บประวัติการฉีดเข็มที่ 1 และ 2 อย่างรัดกุมของคณะแพทย์ พยาบาล ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ขั้นตอน การลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต คัดกรอง ซักประวัติ การสังเกตอาการหลังฉีด ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องมีการบันทึกข้อมูลอย่างชัดเจนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถติดตามและเก็บประวัติผู้รับวัคซีนเข้าสู่ฐานข้อมูลของประเทศได้อย่างถูกต้อง รวมไปถึงการขยายเครือข่ายในบริเวณโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ เพราะ เครือข่ายสื่อสาร ถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่จะช่วยให้ภารกิจสำคัญยิ่งนี้ของบุคลากรทางการแพทย์ลุล่วงตามเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน ซึ่งทีมงานวิศวกร และพนักงาน AIS ทุกคน ถือเป็นหน้าที่สำคัญสูงสุดที่จะส่งต่อคุณภาพเครือข่ายที่ดีที่สุดในภารกิจนี้ด้วยเช่นกัน เพราะ “วัคซีน” คือคำตอบที่จะทำให้เราก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันได้”

นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ AIS

โดย 23 จุดบริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ที่ AIS ได้เข้าไปติดตั้งเครือข่ายในช่วงเริ่มต้น ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต, ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน, สามย่านมิตรทาวน์, เอเชียทีคเดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, บิ๊กซี บางบอน, สถานีบริการน้ำมัน ปตท. พระราม 2 (ขาออก), จุดฉีควัคซีน โรงพยาบาลสนาม จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ณ อาคารจามจุรี 9, สถานที่บริการฉีดวัคซีนของกองทัพอากาศ สำหรับข้าราชการประชาชน อาคารรณภากาศ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช

นอกจากนี้ยังรวมถึงจุดบริการวัคซีนในต่างจังหวัด ประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ (พรอมเมนาด), โรงพยาบาลนครพิงค์ (โรงยิม 2 สนามกีฬา 700 ปี, โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, โรงพยาบาลประสาท, โรงพยาบาลสวนปรุง, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (แม่และเด็ก) ,โรงพยาบาลแมคคอร์มิค, โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี, ห้องประชุมเทศบาลบ้านสวนและศาลาเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชลบุรี, โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (สัตหีบ)


เกี่ยวกับโครงการ AIS 5G เชื่อมต่อช่วยเหลือเพื่อคนไทย

AIS ส่งต่อความช่วยเหลือในช่วงสถานการณ์โควิด ตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดในปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้น 3 ด้าน คือ 1. สนับสนุนเครือข่ายสื่อสาร 5G,4G,Free WIFI หนุนการทำงานของภาคสาธารณสุข ประกอบด้วย โรงพยาบาลสนาม ทั่วประเทศ ล่าสุดจำนวน 80 แห่ง 20,310 เตียง พร้อมจุดฉีดวัคซีนอีก 23 จุด ใน กทม.และต่างจังหวัด รวมถึง เสริมเครือข่ายในบริเวณโรงพยาบาลทั่วประเทศ 2. สนับสนุนบริการดิจิทัล อาทิ แอพพลิเคชั่น อสม.ออนไลน์ ให้แก่กลุ่ม อสม.ช่วยในการทำรายงานและคัดกรอง, หุ่นยนต์คัดกรอง ROC-Robot For Care, เทคโนโลยี 5G AI CT Scan ปอด, เทเลเมดิซีน-ระบบโทรเวชกรรม , ระบบ CLOUD Contact Center สายด่วน, ระบบ NB IoT Tracking และ 3. สนับสนุนอุปกรณ์สื่อสาร-ไอที พร้อมซิมและค่าบริการ แก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อส่งเสริม สนับสนุนภารกิจต้านภัยโควิดของประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤติไปได้อย่างดีที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2564)

ป้ายคำ :