ThaiPublica > เกาะกระแส > ศบค. ต่อเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน เพื่อความมั่นคงสาธารณสุข เตรียมรองรับจัดทำมาตรการผ่อนปรนระยะ 3

ศบค. ต่อเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน เพื่อความมั่นคงสาธารณสุข เตรียมรองรับจัดทำมาตรการผ่อนปรนระยะ 3

22 พฤษภาคม 2020


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

วันนี้ (22 พฤษภาคม 2563) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลได้มีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธานการประชุม

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค. และสถานการณ์ประจำวัน มาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

นายกรัฐมนตรีขอบคุณน้ำใจจากคนไทยที่บริจาคสิ่งของช่วยเหลือกัน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันอย่างดีปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกัน และควบคุมโรค รวมทั้งการใช้มาตรการทางสังคมในการร่วมกันสอดส่องดูแล การปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ จนทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมายืนในอันดับต้นๆ ของประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ขอชื่นชมการดำเนินการบริหารสถานการณ์ของศูนย์โควิด-19 ทั้งการป้องกัน ควบคุม และการสร้างการรับรู้แก่ประชาชน จนทำให้เกิดความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกภาคส่วน นอกจากนี้ เป็นที่น่ายินดีด้วยว่าการดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศของไทยได้รับการยอมรับและชื่นชม จนมีหลายประเทศประสงค์จะรับแรงงานไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน เช่น สินค้าเกษตร จึงขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนงานเพื่อรองรับไว้ด้วย

พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้รายงานที่ประชุมเกี่ยวกับความจำเป็นในการพิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ด้วยเหตุผล 3 ประการ ดังนี้

1. ยังคงมีความจำเป็นและต้องมีการบังคับใช้ พ.ร.ก. โดยการป้องกันการแพร่ระบาดในราชอาณาจักรของโรคโควิด-19 จะต้องสามารถดำเนินการต่อไปให้ได้อย่างมีเอกภาพ รวดเร็ว มีความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานกลางในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวโยงกับทางด้านสาธารณสุขการควบคุมโรค ไม่ใช่แค่นำ พ.ร.บ.โรคติดต่อมาใช้แล้วได้ผล ซึ่งไม่เพียงพอ ยังต้องมีการประกอบกฎหมาย 40 กว่าฉบับ มาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงจะปฏิบัติตรงนี้ได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ การเคลื่อนย้าย การใช้ยานพาหนะ อากาศยาน การตรวจคนเข้าเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย

2. การเตรียมรองรับในระยะต่อไป ประเทศไทยอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นกิจกรรมและกิจการที่มีความเสี่ยงสูง จึงจำเป็นต้องมีมาตรการตามกฎหมาย เพื่อกำกับการบริการจัดการ เพื่อบริหารจัดการมาตรการผ่อนคลายให้เป็นระบบในเวลาที่เหมาะสม

3. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่สิ้นสุด โดยมีข้อมูลว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาดและมีผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อประเทศไทยได้จัดทำมาตรการผ่อนคลายครบทั้ง 4 ระยะแล้ว จำเป็นต้องมีระยะเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ เช่น มาตรการด้านกฎหมาย แผนปฏิบัติการในการบริหารวิกฤตการเพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจกลับมาแพร่ระบาดของโรค

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบให้มีการเสนอข้อเสนอนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากวันที่ 1 ถึง 30 มิถุนายนนี้ ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 ของการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะหมดสิ้นเดือนนี้

โฆษก ศบค. กล่าวว่า การจัดทำมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 3 แบ่งออกเป็น 5 ช่วง ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 วันที่ 23-24 พฤษภาคม การจัดเตรียมข้อมูลเพื่อประชุมคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้ ในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขั้นตอนที่ 2 วันที่ 25-26 พ.ค. ประชุมคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ขั้นตอนที่ 3 วันที่ 27 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ขั้นตอนที่ 4 ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อฯ ขั้นตอนที่ 5 มาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 3 มีผลบังคับใช้ต่อไป

นอกจากนี้ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ได้รายงานผลการดำเนินการด้านความมั่นคง การตรวจติดตามการดำเนินการตามมาตรการของกลุ่มกิจกรรมและกิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย ทั้งในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 โดยชุดตรวจได้ตรวจติดตาม ให้คำแนะนำ และสนับสนุนการปฏิบัติตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง การติดตามสถานการณ์ที่ห้าง IKEA โดยในช่วงแรกมีการดำเนินการที่ไม่เรียบร้อยเกิดจากจุดคัดกรองไม่เพียงพอ และปริมาณประชาชนมากกว่าที่ประเมินไว้ แต่ได้ร่วมดำเนินการแก้ไขจนเรียบร้อย และเนื่องด้วยในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวและมั่วสุมอยู่ จึงเห็นควรให้ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุม แต่อาจพิจารณาผ่อนปรนในบางข้อ เช่น ระยะเวลาเคอร์ฟิว

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ว่า ต้องพิจารณาในภาพรวม ใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม เป็นขั้นเป็นตอน รวมทั้งใช้มาตรการทางสังคมร่วมด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน เกิดความร่วมมือช่วยเหลือกัน

กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานมาตรการป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศไทย โดยได้ดำเนินการตามมาตรการ state quarantine และ local quarantine อย่างเข้มข้น และมีประสิทธิภาพ เกิดการยอมรับจากสังคม ประชาชน พร้อมกันนี้ ได้รณรงค์ ให้ความรู้ ขอรับความร่วมมือจากประชาชนในวงกว้าง โดยมีการชี้เบาะแสเข้ามายังภาครัฐ จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำมาตรการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างให้เข้มงวด เพราะเป็นมาตรการที่มีความสำคัญ

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ยึดถือความมั่นคงด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ ยังคงต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การพิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอน และชี้แจงให้ประชาชนและสังคมเข้าใจเหตุผลอย่างถูกต้อง

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาด กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาพรวมตัวเลขการติดเชื้อในประเทศต่างๆ ทั่วโลก กลุ่มประเทศในเอเชียยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยประเทศที่น่าจับตาดูสถานการณ์ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และประเทศในอาเซียน ประเทศอื่นๆ ที่ยังมีตัวเลขน่าเป็นห่วงได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย บราซิล ชิลี ซึ่งตัวเลขยังสูงต่อเนื่อง หลายประเทศพบการระบาดใหม่ภายหลังอนุญาตให้มีมาตรการผ่อนปรน เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ส่วนในไทยยังควบคุมได้ดี ตัวเลขเป็นเลขตัวเดียว และวันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

ในส่วนของการพัฒนาวัคซีนไทยพัฒนาครบทั้ง 6 เทคโนโลยี และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการพัฒนาวัคซีนของโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยมีโอกาสใช้วัคซีนในช่วงเวลาต้นๆ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ในโลกที่ผลิตได้ รวมทั้งไทยมีความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO) กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด (Coalition for Epidemic Preparedness Innovations: CEPI) และสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute: IVI )

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำถึงประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนของไทย ว่า จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องกระบวนการผลิต จนถึงการนำไปใช้งานว่าประกอบไปด้วยขั้นตอนต่างๆ หลายขั้นตอน ต้องผ่านการทดลองที่จะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ส่วนวัคซีนจากต่างประเทศหากประเทศใดผลิตได้ และด้วยความสัมพันธ์ที่มีจะทำให้ไทยได้รับวัคซีนเป็นประเทศต้นๆ

ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ การท่องเที่ยว การเตรียมการเพื่อรองรับการผ่อนปรนตามมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ เช่น โรงแรมต้องปรับตัวตามมาตรการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะค้างคืนที่โรงแรม โดยจะต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมบ้าง เช่น ระบบแอร์ อาหาร ฯลฯ การศึกษา การเปิดภาคเรียนในการผ่อนปรนระยะ 4 กระทรวงศึกษาธิการ จึงต้องปรับแผนงาน เช่น เด็กปฐมวัย-อนุบาล 3 ที่ยังต้องไปโรงเรียน อาจมีการพิจารณาปรับสัดส่วนครูกับนักเรียนลดลง อาจจะต้องจัดเรียนเป็นผลัด ผลัดละ 20 คน และมีผู้สนับสนุนครูด้วย โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะเปิดเรียนในวันที่ 1 มิถุนายน เพราะมีศักยภาพและความยืดหยุ่น สามารถรองรับและบริหารจัดการได้

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวสรุปให้ทุกส่วนดำเนินการอย่างรอบคอบในทุกประเด็น ทั้งนี้ ในประเด็นที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียด เช่น การเปิดเรียน เด็กในช่วงวัยต่างกัน การดูแลจะเป็นแบบเดียวกันคงไม่ได้ การเรียนแบบออนไลน์ใช้เฉพาะในช่วงนี้ ช่วงก่อนการเปิดเรียนเท่านั้น เพื่อใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ทบทวนการเรียนการสอน และกระตุ้นนักเรียนก่อนเปิดเทอม แต่เมื่อเปิดเทอมแล้วจะต้องเร่งพิจารณาดำเนินการเหลื่อมเวลาเรียน พิจารณาในรายละเอียดของการเรียนการสอน ต้องมีหลักสูตรในการอบรมวิชาชีพครูในลักษณะ tailor-made เพื่อความเหมาะสม

สำหรับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เป็นศูนย์ ผู้ป่วยหายแล้ว 2,910 รายไม่มีผู้เสียชีวิต