ThaiPublica > เกาะกระแส > สื่อต่างประเทศรายงานยุบพรรคอนาคตใหม่ ส่งสาร “6 ล้านเสียงไม่มีความหมาย”

สื่อต่างประเทศรายงานยุบพรรคอนาคตใหม่ ส่งสาร “6 ล้านเสียงไม่มีความหมาย”

22 กุมภาพันธ์ 2020


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ที่ว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมาตรา 72 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหาร ที่เป็นกรรมการบริหารตั้งแต่วันที่ทำสัญญากู้เงิน จำนวน 16 คน เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนต่างประเทศและได้รายงานข่าวไปพร้อมๆ กับสื่อในประเทศ

โดยนิวยอร์กไทมส์ รายงานข่าว Thailand Court Disbands Popular Opposition Party ว่า พลังทางการเมืองที่มีพลวัตมากที่สุดในรอบปีกว่าถูกตัดสินให้ยุบพรรค ด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบของการใช้อำนาจทางตุลาการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปิดกั้นประชาธิปไตย

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เพื่อนำไปใช้ในการรณรงค์เลือกตั้งเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

ขณะที่พรรคยืนยันว่าเงินกู้จำนวน 191 ล้านบาทหรือ 6 ล้านดอลลาร์นั้นถูกต้องกฎหมายและเงื่อนไขการระดมเงินเพื่อใช้ในการรณรงค์การสมัครรับเลือกตั้งนั้นคลุมเครือจนไม่สามารถรู้ได้เงินกู้นั้นจะมีผลต่อพรรค ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆก็มีการทำการกู้เงินโดยไม่มีข้อยุ่งยากทางกฎหมาย

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับประเทศที่มีนักการเมืองรายเดิมๆ และกองทัพครอบงำทางการเมืองมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ก็ถือว่าพรรคอนาคตใหม่ได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น

ในการเลือกตั้งปีที่แล้ว เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งรัฐประหารในปี 2014 ผู้สมัครทุกรายของพรรคอนาคตใหม่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ลงสนามการเมืองเป็นครั้งแรก และเป็นพรรคที่เพิ่งเริ่มก่อตั้ง

แม้จะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ แต่เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ก้าวหน้า ก้าวขึ้นเป็นอันดับสามในการเลือกตั้งโดยมี 81 จาก 500 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ด้วยคะแนน 7 ต่อ 2

แต่การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญในวันศุกร์ได้ดับอนาคตทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่าผู้ก่อตั้งจะกล่าวว่าพวกเขาจะจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ นอกเหนือจากการยุบพรรคแล้ว การพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญยังมีผลต่อการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี

นายรังสิมันต์ โรม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กลายมาเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ให้ความเห็นว่า “มีความตั้งใจที่จะกำจัดพรรคอนาคตใหม่ของจากระบบการเมือง เราถูกโจมดีตลอดเวลา หลายกรณีด้วยกัน ซึ่งบางกรณีก็แปลกๆ”

แม้กระทั่งก่อนการนับคะแนนที่ได้มาอย่างท่วมท้นของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งปีที่แล้วจะเสร็จสิ้น หัวหน้าพรรคก็เริ่มเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมาย ผู้ที่วิจารณ์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำการรัฐประหารในปี 2014 ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มองเป็นการตั้งใจที่จะสกัดฝ่ายค้าน

พร้อมกับมีการตั้งข้อกล่าวหา เช่น การไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กของธนาธร เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

นับจากนั้นข้อกล่าวหาก็เพิ่มขึ้น พรรคอนาคตใหม่สุ่มเสี่ยงที่จะถูกยุบพรรคจากข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครอง แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้ยกคำร้องคดีอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครองในเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยังคงมีอีกหลายคดีที่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค

“ศาลกลายเป็นสถาบันหลักที่กำหนดภูมิทัศน์ทางการเมืองของไทยในรอบสิบปีที่ผ่านมา” จากความเห็นของปุรวิชญ์ วัฒนสุข นักวิจัยจากสถาบันพระปกเกล้า

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

คดีที่ค้างอยู่รวมถึงข้อกล่าวหาว่าพรรคละเมิดกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมของประชาชนโดยการจัดชุมนุมแบบแฟลชม็อบ ซึ่งผู้นำพรรคถูกกล่าวหาว่าปลุกระดม อันอาจนำไปสู่การถูกโทษจำคุกหลายปี

ในสัปดาห์นี้สมาชิกของพรรคร่วมรัฐบาลได้ออกมาให้ความเห็นว่า คณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบควรพิจารณาว่า แม่ของนายธนาธรเคยถือครองที่ดินที่อาจบุกรุกเข้าไปในป่าสงวน

พรรคอนาคตใหม่ถูกกล่าวหาว่ามีเป้าหมายล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยโยงกับทฤษฎีสมคบคิดเรื่องลัทธิอิลลูมินาติ

นายธนาธร ซึ่งอยู่ในวัย 41 ปี ได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่สภาในปีที่แล้ว แต่ถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้เข้าสภาและพ้นสภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นผลจากการถือหุ้นในธุรกิจสื่อ แต่นายธนาธรปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พรรคอนาคตใหม่เข้าสู่สนามเลือกตั้งในปีก่อนโดยที่ไม่มีนโยบายมาก แต่วางสถานะพรรคให้เป็นทางเลือกให้กับพลังค้านทางการเมืองที่อ่อนแอมาสองทศวรรษ สถานการณ์ทางการเมืองที่เลวร้ายของไทยนำไปสู่การเสียชีวิตของคนกว่าสิบคนในการปะทะระหว่างการประท้วงบนท้องถนนและเปิดทางให้กองทัพเข้ายึดอำนาจ

แม้มีการจัดการเลือกตั้งในปีก่อน นักวิจารณ์มองว่า ยังคงมีการสนับสนุนทหาร รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นโดยกองทัพได้จัดให้มีวุฒิสมาชิกที่มีจากการแต่งตั้ง ลดทอนอำนาจสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง

พรรคอนาคตใหม่ได้ออกมาวิจารณ์กองทัพอย่างโจ่งแจ้งเรื่องการมีอิทธิพลต่อนักการเมือง และเรียกร้องให้ลดงบป้องกันประเทศ รวมทั้งเป็นผู้นำการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีบางราย

ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเศร้าโศกจากเหตุการณ์กราดยิงประชาชนจนเสียชีวิต 29 รายในศูนย์การค้าที่โคราช จากการที่มีนายทหารปล้นอาวุธปืนจากค่ายหลังจากขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชานั้น พรรคอนาคตใหม่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปกองทัพ

“การยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นการส่งสารไปยังประชาชน 6 ล้านคนว่า คะแนนเสียงของพวกเขาไม่มีความหมาย”

ฟรานซิสกา คาสโตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มสิทธิมนุษยชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความเห็น

“การเลือกตั้งปีที่แล้วควรที่จะยุติการปกครองของกองทัพในประเทศไทย แต่หลังจากวันนี้ไม่มีใครเชื่ออีกแล้ว”

ในรอบ 1-2 ปีนี้มีพรรคฝ่ายค้านถูกยุบ รวมทั้งนักการเมืองนับสิบรายและตัวแทนถูกตัดสิทธิทางการเมือง

การปราบปรามฝ่ายค้านรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยหลายคนถูกทำร้ายร่างกายจากการจู่โจมของคนที่ไม่รู้จัก ขณะที่หลายคนถูกส่งเข้าค่ายปรับทัศนคติ

“การโจมตีพรรคฝ่ายค้านที่มีต่อเนื่องต้องมองในบริบทของทางการไทยที่เฝ้าระวัง ตรวจสอบ ข่มขู่ คุกคาม และการดำเนินคดีนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน นักข่าว หรือบุคคลทั่วไปที่วิจารณ์รัฐบาลนับตั้งแต่การรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2014″ แถลงการณ์ของ แอมแนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานในหัวข้อข่าว Thai Court Disbands Opposition Party, Boosting Army-Backed Ruler ว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในด้านการวิจารณ์รัฐบาลที่มีกองทัพหนุน

ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินในคดียุบพรรคอนาคตใหม่ตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท ว่า ฝ่าฝืนมาตรา 72 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ระบุไม่ให้พรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง เช่น หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ซึ่งมีผลให้นายธนาธรและกรรมการบริหารถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี

คำวินิจฉัยของศาลอาจเป็นคุณสำหรับกรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งแม้จะมีเสียงข้างมากแต่เป็นเสียงปริ่มน้ำ จะได้เพิ่มเสียงมากขึ้นจากการดึงตัว ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ 76 คนที่ต้องหาพรรคใหม่สังกัด ในขณะที่นายธนาธรกล่าวว่า คาดหวังว่าส่วนใหญ่จะหันมาสังกัดพรรคสำรองที่เตรียมไว้ แม้อาจจะมีบางคนไปเข้าร่วมพรรครัฐบาล

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวกับประชาชนที่เดินทางมาที่ทำการพรรคในตอนค่ำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563

นายธนาธรกล่าวในการแถลงหลังศาลมีคำสั่งตัดสินว่า “การเดินทางของเราไม่ได้สิ้นสุดตรงนี้ และเป็นเวลาที่เราต้องลุกขึ้น” ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค เชิญชวนให้คนออกมารวมตัว ณ ที่ทำการพรรคเพื่อสนับสนุนพรรค

ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายธนาธรกล่าวว่า พรรคใหม่ได้มีการจัดตั้งขึ้นแล้วเพื่อเตรียมการรองรับการยุบพรรค และ ส.ส. ส่วนใหญ่ของพรรคจะยังยึดมั่นในแนวคิดและย้ายไปบ้านใหม่ด้วยกัน” และยังส่งสัญญาณว่า การยุบพรรคอนาคตใหม่อาจจะนำไปสู่การเดินขบวนประท้วงท่ามกลางความไม่พอใจรัฐบาล

“การประท้วงอาจจะเป็นทางเดียวที่จะทำได้ แม้ไม่มีใครต้องการที่จะทำแบบนั้น” นายธนาธรกล่าว

พรรคอนาคตใหม่มีอายุไม่ถึง 2 ปี แต่เป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีที่นั่งมากเป็นอันดับสองในสภาจากการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมปีก่อน และเป็นพรรคที่ดึงคะแนนเสียจากคนรุ่นใหม่ ด้วยวาระปฏิรูปซึ่งรวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กองทัพสนับสนุน ปลดล็อกการผูกขาดและปิดกั้นการทำรัฐประหารในประเทศที่มีประวัติถูกทหารปกครองมานาน

ประชาชนนับพันคนประท้วงในเดือนธันวาคมและมกราคม ทั้งเพื่อสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่และประท้วงรัฐบาล แต่ความตึงเครียดทางการเมืองน้อยกว่าช่วงก่อนหน้าที่รุนแรงจนถึงขึ้นมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ

นายธนาธรวิจารณ์รัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ว่า ล้มเหลวในการปรองดองและไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน และปฏิเสธหลายข้อกล่าวหาที่มีต่อตัวเขาและพรรค

พลเอก ประยุทธ์ อดีตผู้นำกองทัพทำการยึดอำนาจในปี 2014 เป็นผู้นำรัฐบาลหลังจากนั้นและกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วจากการเลือกตั้งที่มีกติการที่ร่างโดยรัฐบาลทหาร ได้ทวีตข้อความ ให้เคารพการตัดสินของศาล

พรรคอนาคตใหม่รอดจากการถูกยุบพรรคมาแล้วในเดือนที่ผ่านมาจากคดีล้มล้างการปกครอง

พรรคอนาคตใหม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียในการการสร้างการรับรู้วาระการเปลี่ยนแปลงที่เขย่าอำนาจกองทัพด้วยการวิจารณ์กองทัพว่า “เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน”

ในเดือนตุลาคม ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ 70 คนได้ลงคะแนนไม่ผ่านร่างกฎหมายพระราชกำหนดโอนกำลังพล

สถานฑูตสหรัฐฯในไทยออกแถลงการณ์

ทางด้านสถานเอกอัครราชฑูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ Statement on the Dissolution of the Future Forward Party in Thailand มีใจความว่า เราได้ทราบถึงการตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่สั่งให้ยุบพรรคอนาคตใหม่

สหรัฐอเมริกาสนับสนุนธรรมาภิบาลประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็งทั่วโลก และชื่นชมสถานะล่าสุดของประเทศไทยที่ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่ชื่นชอบหรือสนับสนุนสนุนพรรคการเมืองใดๆ ในประเทศไทย แต่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่าหกล้านคนที่เลือกพรรคอนาคตในการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม การตัดสินใจที่จะยุบพรรคเป็นความเสี่ยงที่จะเป็นการลดสิทธิ์ของผู้ลงคะแนนเสียงเหล่านั้นและตั้งคำถามเกี่ยวกับการเป็นตัวแทนของพวกเขาในระบบการเลือกตั้งของประเทศไทย