ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “กกต.แง้มผลคำนวณที่นั่ง ส.ส. มีปาร์ตี้ลิสต์เกิน 25 พรรค – สั่งเลือกใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย” และ “บรูไนเริ่มแล้ว ปาหินรักเพศเดียวกัน”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “กกต.แง้มผลคำนวณที่นั่ง ส.ส. มีปาร์ตี้ลิสต์เกิน 25 พรรค – สั่งเลือกใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย” และ “บรูไนเริ่มแล้ว ปาหินรักเพศเดียวกัน”

6 เมษายน 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 30 มี.ค. – 5 เม.ย. 2562

  • กกต.แง้มผลคำนวณที่นั่ง ส.ส. มีปาร์ตี้ลิสต์เกิน 25 พรรค – สั่งเลือกใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย
  • ตร.ออกหมายเรียก “ธนาธร” สงสัยผิด ม.116 – จ่อเรียกแม่ด้วย – ศรีวราห์แจง คดีเก่า
  • บิ๊กป้อมจ่อจัดหนัก สงกรานต์เมาขับชนคนตายโดนถึงเจตนาฆ่า
  • เรียกคืนเครื่องราชฯ ทักษิณ
  • บรูไนเริ่มแล้ว ปาหินรักเพศเดียวกัน
  • กกต.แง้มผลคำนวณที่นั่ง ส.ส. มีปาร์ตี้ลิสต์เกิน 25 พรรค – สั่งเลือกใหม่ 6 หน่วย นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย

    เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า วันที่ 5 เม.ย. 2562 ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีมีข้อสงสัยในการคำนวนจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าสำนักงาน กกต.ได้นำวิธีการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นวิธีที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 128 และ 129 ประกอบกับเจตนารมณ์ของระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญที่ให้ความสำคัญกับคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนมาเป็นแนวทางในการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในครั้งนี้ ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ปรึกษาหารือและนำเสนอ กกต.แต่ละท่านทราบเป็นเบื้องต้นแล้ว โดยตลอดมา กกต.แต่ละท่านมีข้อคิดเห็นเป็นไปในแนวทางเดียวกัน

    ผลจากการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อโดยใช้ข้อมูลจากการประกาศผลการนับคะแนนของทุกเขตเลือกตั้งมาคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในเบื้องต้น มีพรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรรจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 25 พรรคการเมือง สำนักงาน กกต.ชี้แจงว่า เป็นเพียงการคำนวณโดยใช้ผลคะแนนรายเขตเลือกตั้งที่สำนักงาน กกต.ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม2562 หลังจากนี้หากผลจากการที่ กกต.ได้สั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เสร็จสิ้นแล้ว ผลคะแนนรวมของพรรคการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปจะต้องนำคะแนนที่ได้รับมาใหม่มาคำนวณด้วยวิธีการเดิมอีกครั้งหนึ่งโดยการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จะดำเนินการได้เสร็จสมบูรณ์ครั้งแรกก็ต่อเมื่อ กกต.ได้ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งไม่น้อยกว่าร้อยละ 95

    อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 4 เม.ย. 2562 เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ได้แถลงมที่ประชุม กกต. เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 โดยได้พิจารณากรณีผลการนับคะแนน ส.ส.และกรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน และมีมติสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่ 2 หน่วยเลือกตั้ง สั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วยเลือกตั้ง และกรณีการนับคะแนนไม่ตรงกัน กกต.ได้สั่งยุติเรื่อง 4 เรื่อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้

    1. สั่งให้นับคะแนนใหม่ ที่ จ.ขอนแก่น จำนวน 2 หน่วยเลือกตั้ง กรณีที่ผลการนับคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน ได้แก่ หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และ หน่วยเลือกตั้งที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
    2. กรณีสั่งให้ลงคะแนนเลือก ส.ส.ระบบแบ่งเขตใหม่ จำนวน 6 หน่วย ใน 5 จังหวัด กรณีผลการลงคะแนนไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนนประกอบด้วย

      1. จ.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 5 ต.ปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง หน่วยเลือกตั้งที่ 3 หมู่ที่ 2 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
      2. จ.ยโสธร 1 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.หัวเมือง อ.มหาชนะชัย
      3. จ.เพชรบูรณ์ 1 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ
      4. จ.พิษณุโลก 1 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม
      5. กรุงเทพฯ 1 หน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 13 หน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ

    นอกจากนี้ กกต.ยังมีมติสั่งยุติเรื่องจำนวน 4 หน่วยเลือกตั้ง โดยทั้ง 4 เรื่องสามารถหาสาเหตุได้ว่าเหตุใดจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน กกต.จึงสั่งยุติเรื่องเพราะไม่เป็นเหตุไม่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม หรือ การนับคะแนนไม่ถูกต้อง ตามมาตรา 122 และ มาตรา 124 ประกอบด้วย

    1. จ.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 4 หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ที่ 1 บ้านกลางเวียง ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน
    2. จ.ประจวบคีรีขันธ์ เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ที่ 2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน
    3. จ.สระแก้ว เขตเลือกตั้งที่ 2 หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโจด อ.วัฒนานคร กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้นับคะแนน
    4. จ.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 3 หน่วยเลือกตั้งที่ 18 หมู่ที่ 17 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง กรณีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับผลการนับคะแนน

    สำหรับหน่วยเลือกตั้งที่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ นายแสวงระบุว่า จะต้องดำเนินการโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อการประกาศผลการเลือกตั้งในวันที่ 9 พ.ค. 2562 ซึ่งคาดว่าในช่วงหลังจากพ้นเทศกาลสงกรานต์แล้วน่าจะมีการกำหนดวันที่ชัดเจนออกมาจาก กกต.อีกครั้ง

    ตร.ออกหมายเรียก “ธนาธร” สงสัยผิด ม.116 – จ่อเรียกแม่ด้วย – ศรีวราห์แจง คดีเก่า

    นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุงเรืองกิจ ที่มาภาพ: พรรคอนาคตใหม่

    เว็บไซต์ WORKPOINT NEWS รายงานว่า วันที่ 3 เม.ย. 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ภาพหมายเรียกจาก สน.ปทุมวัน ที่ให้ตนเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ในวันที่ 6 เม.ย. เวลา 10.00 น.

    เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือด้วยวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดินช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่า กระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องโทษโดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116

    ทั้งนี้ นายธนาธร ยังได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า จะเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ตามหมายเรียกเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

    “ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า ผมไปก่อความกระด้างกระเดื่องหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศตอนไหน ในเมื่อตลอดปีที่ผ่านมา เวลาเกือบทั้งหมดในแต่ละวันของผม ทุ่มไปกับการพบปะประชาชนใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย แทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกๆด้วยซ้ำ” นายธนาธรเขียนระบุตอนหนึ่ง

    อนึ่ง เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีหมายเรียกนายธนาธรดังกล่าวว่า เป็นหมายเรียกเดิมที่มีการชุมนุมหน้า สน.ปทุมวัน เมื่อปี 2558 ในคดียุยงปลุกปั่น และช่วยเหลือผู้ต้องหา เหตุเกิดเวลา 22.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2558 ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการออกหมายเรียกนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร มาให้ข้อมูลในคดีพาผู้ต้องหาหลบหนี เนื่องจากรถตู้ที่ใช้พากลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีนั้นมีชื่อมารดาของนายธนาธรเป็นเจ้าของ

    พล.ต.อ. ศรีวราห์ ระบุว่า มีการออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งตอนนั้นนางสมพร ส่งทนายมาให้ข้อมูล 1 ครั้ง หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้เรียกอีก ดังนั้น  การออกหมายเรียกครั้งนี้นายธนาธรไม่น่าต้องตกใจ หรือแปลกใจเพราะทราบอยู่แล้วว่าตัวเองถูกกล่าวหาในเรื่องนี้  หลังจากนี้เมื่อออกหมายเรียกนายธนาธรแล้ว ก็ต้องออกหมายเรียกมารดา มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งด้วย

    บิ๊กป้อมจ่อจัดหนัก สงกรานต์เมาขับชนคนตายโดนถึงเจตนาฆ่า

    พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
    ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
    ที่มาภาพ: หน้าเพจเฟซบุ๊ก THE STANDARD (http://bit.ly/2Ddjqdk)

    วันที่ 5 เม.ย. 2562 เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ยังคงใช้มาตรการเช่นเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา แต่จะมีการเพิ่มเติมว่าหากมีการทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เราจะใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศสามารถทำสำนวนได้ ส่วนเรื่องนั่งท้ายรถกระบะเล่นน้ำสงกรานต์ก็ปล่อยไปก่อน เป็นห่วงเรื่องการขับรถเร็วและดื่มสุราที่จะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตไปด้วย ซึ่งเราจะต้องพยายามลดสาเหตุการเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวให้ได้ ดังนั้นใครขับรถเร็วและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตจะถือว่าเป็นเจตนาฆ่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการในรูปแบบดังกล่าว ส่วนมาตรการเมาแล้วขับจับยึดรถยังคงมีเหมือนเดิม

    สำหรับยาแรงในการดำเนินการมาตรการเมาแล้วขับจับยึดรถ เรื่องคดีจะมีความแรงมากขึ้น เพราะถือเป็นเจตนาฆ่าผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตด้วยความเมา ส่วนผู้ที่นั่งรถไปด้วยจะมีความผิดหรือไม่นั้นจะต้องดูข้อกฎหมาย

    เรียกคืนเครื่องราชฯ ทักษิณ

    นายทักษิณ ชินวัตร
    ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
    ที่มาภาพ: เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา (https://goo.gl/vnPsfZ)

    วันที่ 30 มีนาคม 2562 เว็บไซต์ราชากิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 2562 โดยมีใจความว่า

    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เรียกคืนเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า และเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ตระกูลอื่น

    เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง พิพากษาถึงท่ีสุดลงโทษจาคุก และยังมีข้อหาฐานอื่น ๆ อีกหลายคดี อีกทั้งได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพฤติการณ์การกระทาที่ไม่เหมาะสมอย่างย่ิง อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๙ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายหน้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นท่ีเชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศย่ิงมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นท่ีสรรเสริญย่ิงดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์และเหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ ๑ ของนายทักษิณชินวัตร

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

    ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีท่ี ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน

    บรูไนเริ่มแล้ว ปาหินรักเพศเดียวกัน

    เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2562 เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าหลังทางการบรูไนเริ่มบังคับใช้กฎหมายศาสนาชารีอะห์ ที่ส่งผลให้อาชญากรรมต่างๆ มีบทลงโทษขั้นรุนแรง อาทิ การปาหินจนตายหากมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลเพศเดียวกันการตัดมือหากมีความผิดลักขโมย และโทษประหารชีวิตต่อบุคคลที่คบชู้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงประณามไปทั่วโลก

    สุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน กล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ว่าต้องการเพิ่มความเข้มข้นของคำสอนตามหลักศาสนาแก่ประชาชนชาวบรูไน แต่สุลต่านไม่ได้กล่าวถึงบรรดาบทลงโทษที่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประณามว่าโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรม

    “ข้าพเจ้าต้องการเห็นหลักคำสอนทางศาสนาถูกนำไปใช้มากขึ้นในประเทศนี้ ข้าพเจ้าอยากย้ำว่าประเทศบรูไนนั้นเป็นชาติที่เคารพบูชาในองค์พระอัลเลาะห์” สุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ระบุ นอกจากนี้องค์สุลต่านยังยืนยันว่า บรูไนเป็นชาติที่มีความสุขและความเที่ยงธรรม ผู้ที่เดินทางมาบรูไนจะได้พบกับประสบการณ์ที่อบอุ่นและปลอดภัย

    ด้านทางการสหรัฐอเมริกา ระบุว่า บทลงโทษที่ทางการบรูไนจะเริ่มนำมาใช้นั้นสวนทางกันดับพันธะกรณีที่บรูไนมีต่อข้อบังคับด้านสิทธิมนุษยชนสากล โดยนายโรเบอร์โต พัลลาดิโน รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า สหรัฐขอคัดค้านความรุนแรง การแบ่งแยก และการลงโทษกลุ่มบุคคลชายขอบ

    นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรต์ว็อตช์ภาคพื้นเอเชีย กล่าวโจมตีว่า บทลงโทษดังกล่าวเป็นสิ่งที่ป่าเถื่อนอย่างสุดขั้ว และเป็นสิ่งที่ไม่ควรต้องมีโดยเฉพาะการรักเพศเดียวกันที่ไม่ถือเป็นอาชญากรรม นอกจากนี้ ยังมีดาราฮอลลีวูดชื่ดังหลายคนออกมาเรียกร้องให้บอยคอตธุรกิจของบรูไนในต่างแดนด้วย อาทิ จอร์จ คลูนีย์ เจมี ลี เคอร์ติส และศิลปินอังกฤษอย่าง เอลตัน จอห์น รวมถึงนายโจ ไบเด็น อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต