จากปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯเพื่อสังหารนายพลกาเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์(Quds Forece) ของอิหร่านในวันที่ 3 มกราคม 2563 จนนำไปสู่การตอบโต้ของอิหร่านในวันที่ 8 มกราคม ด้วยการยิงขีปนาวุธกว่า 20 ลูกโจมตีฐานทัพอากาศในอิรัก 2 แห่งซึ่งกองกำลังสหรัฐฯใช้เป็นที่ประจำการ ทำให้ทั่วโลกเกิดความวิตกและเรียกร้องทั้งสองฝ่ายให้ระงับการกระทำใดๆที่จะส่งผลสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นนั้น
ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ซึ่งเป็นที่จับตาเช่นกันว่าจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดนั่นคือ เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินยูเครนเที่ยวบินที่ PS752 ที่กำลังบินออกจากเตหะรานเพื่อไปกรุงเคียฟที่ได้ตกลงหลังจากที่อิหร่านเปิดการโจมตีฐานอิรักในไม่กี่ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่แคนาดา สหรัฐฯ และอังกฤษให้ความเห็นว่า ข่าวกรองบ่งชี้ว่าขีปนาวุธของอิหร่านได้สอยเครื่องบินยูเครนตกลง แต่อิหร่านปฏิเสธ สื่อโทรทัศน์อิหร่านรายงานอ้างนายอาลี ราบิเอ โฆษกรัฐบาลระบุในแถลงการณ์ว่า “รายงานทั้งหมดเป็นการทำสงครามจิตวิทยากับอิหร่าน”
สำนักข่าวอัลจาซีร่าสรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 10 มกราคม 2563 ดังนี้
ซาอุดิอาระเบียปกป้องการโจมตีของสหรัฐฯประณามอิหร่าน
นายอาเดล อัล-จูเบียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวประณามอิหร่านที่ได้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิรัก
“เราถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการก้าวล่วงอธิปไตยของอิรัก” นายอัล-จูเบียร์ กล่าวในการแถลงข่าวในกรุงปรากระหว่างการเดินทางเยือนที่ได้ถือปฏิบัติเป็นประจำและกล่าวอีกว่า “เราเชื่อว่าต้องมีแนวทางในการหลีกเลี่ยงความตึงเครียดได้เพราะเราเชื่อว่าความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจะสร้างความเสียกายกับทุกฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายฝดฝ่ายหนึ่ง”
นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ข้อตกลงจำกัดนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่านมีข้อบกพร่องควรที่จะแก้ไข
นายกรัฐมนตรีอิรักแจ้งสหรัฐฯหาทางถอนกองกำลัง
นายอาเดล อับดุล มาห์ดี นายกรัฐมนตรีอิรักได้แจ้งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯให้ส่งผู้แทนมายังอิรักเพื่อรับผิดชอบในการหาแนวทางถอนกองกำลังสหรัฐฯออกจากอิรัก จากแถลงการณ์ของรัฐบาล
ในการสนทนาทางโทรศัพท์คืนวันพฤหัสบดีผู้นำอิรักขอให้นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯส่งผู้แทนมาอิรักเพื่อเตรียมการดำเนินการตามมติของสภาที่ให้กองกำลังต่างชาติถอนออกจากอิรัก
นายกรัฐมนตรีระบุว่ากองกำลังสหรัฐฯเข้ามาอิรักและบินโดรนในฐานทัพอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการอิรัก ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงร่วมของทั้งสองฝ่าย
ในวันศุกร์ที่แล้วสมาชิกสภาอิรักได้ลงมติที่ไม่มีข้อผูกพันให้ถอนกองกำลังสหรัฐฯออกนอกประเทศหลังจากสหรัฐฯปฏิบัติการโจมตีจนทำให้ผู้บัญชาการกองกำลังคนสำคัญของอิหร่านเสียชีวิต
ผู้นำอียูจะจัดประชุมสุดยอดเพื่อคงข้อตกลงนิวเคลียร์
รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเตรียมที่จะจัดประชุมฉุกเฉินครั้งสำคัญในบ่ายวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 โดยคาดว่าจะเป็นแนวทางให้สหรัฐฯและอิหร่านหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า
อย่างไรก็ตาม หากพิสูจน์ได้ว่าเครื่องบินยูเครนที่ตกลงนั้นเกิดจากการยิงขีปนาวุธของอิหร่าน ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์ยุ่งยากขึ้นไปอีกสำหรับนักการฑูตทั้งหลาย
ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2563 นายโจเซฟ บอร์เรลล์ทวีตข้อความ แสดงความเสียใจต่อการตัดสินใจของอิหร่านที่ยุติการปฏิบัติตามข้อตกลงจำกัดนิวเคลียร์ทุกด้านโดยกล่าวว่า ข้อตกลงนี้มีความสำคัญมากกว่าเดิม
นักบินได้ติดต่อกับสนามบิน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานจากรุงเตหะรานว่า จากข้อมูลที่ได้จากหน่วยงานด้านการบิน นักบินได้มีการติดต่อกับสนามบินเมห์ราบัด ซึ่งรองรับเที่ยวบินในประเทศในเตหะราน เพื่อขออนุญาตปรับระดับการบินขึ้นไปที่ความสูง 26,000 ฟุต
“เราได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเพราะเดิมเราคิดว่านักบินไม่ได้ติดต่อสนามบิน แต่ตอนนี้เราได้ยินว่า นักบินได้ติดต่อกับสนามบินเมห์ราบัด” ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่ากล่าว
หน่วยงานด้านการบินยังได้กล่าวอีกว่า เครื่องบินเกิดไฟลุกไหม้ในเวลา 1.5-2 นาที
“หน่วยงานด้านการบินระบุว่า นักบินได้พยายามหันหัวเครื่องบินไปอีกทางและให้ความสำคัญกับการรักษาชีวิตผู้โดยสารและเครื่องบิน” ผู้สื่อข่าวรายงาน
ทางการอิหร่านกล่าวว่า จะพยายามหาทางแก้ไขกล่องดำที่เสียหายเพื่อกู้ข้อมูลคืน แต่หากไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะขอความช่วยเหลือจากแคนาดา สหรัฐฯและยูเครน
อิหร่านปฏิเสธรายงานทำเครื่องบินตกไม่ตั้งใจ
นายอาลี อับดุลซาเดห์ ผู้บริหารสำนักงานการบินอิหร่านปฏิเสธรายงานที่ว่า การยิงขีปนาวุธขึ้นฟ้าของอิหร่านได้โดนเครื่องบินอย่างไม่ตั้งใจ และเป็นไปไม่ได้เพราะกองทัพอากาศอิหร่านและกรมการบินพลเรือนมีการประสานงานกันใกล้ชิด
“อย่างที่ผมกล่าวไว้ จากข้อบัญญัติทางกฎหมาย มีการประสานงานอย่างเต็มรูปแบบระหว่างกองทัพอากาศของเรากับระบบการบินพลเรือน เจ้าหน้าที่ด้านการบินพลเรือนและเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศนั่งทำงานติดกัน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการยิงเครื่องบินโดยสารตก” นายอับดุลซาเดห์กล่าวในการแถลงข่าว
นอกจากนี้ยังร้องขอให้สหรัฐฯและแคนาดาแชร์ข้อมูลที่มีเกี่ยวกับการตกของเครื่องบิน
“จากที่เราเห็นและเราบอกได้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีการขีปนาวุธโดนเครื่องบิน และหากพวกเขาต้องการความชัดเจนก็ต้องเปิดเผยสิ่งที่พวกเขาตรวจสอบพบต่อโลก ตามมาตรฐานสากล”
สื่อโทรทัศน์อิหร่านเผยแพร่ภาพการกู้กล่องดำ 2 กล่อง ออกจากซากเครื่องบินยูเครน กล่องแรกเป็นกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินส่วนอีกกล่องเป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบิน โดยกล่องดำทั้งสองกล่องบรรจุในกล่องไม้อีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะนำไปเปิดที่กรมการบินพลเรือน
ยูเครนไม่ทิ้งความไปได้เครื่องบินโดนขีปนาวุธสอย
นายวลาดิมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่า ยังไม่ทิ้งความเป็นไปได้ที่ว่าเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเครนโดนขีปนาวุธอิหร่านสอยร่วงแต่ก็ยังไม่ยืนยัน และกล่าวอีกว่า จะหารือกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเกี่ยวการสืบสวนเรื่องนี้ในวันศุกร์
ฝรั่งเศสชี้อิหร่านอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์ในอีก 1-2 ปี
นายฌ็อง อีฟส์ เลอ ดรียง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวว่า อิหร่านอาจจะมีอาวุธนิวเคลียร์ได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้าหากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงจำกัดนิวเคลียร์ปี 2015
“หากอิหร่านยังคงฝ่าฝืนข้อตกลงเวียนนา แน่นอนในเวลาไม่นานราว 1-2 ปี ก็จะเข้าถึงอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนั่นไม่ใช่ทางเลือก” นายดรียงให้สัมภาษณ์วิทยุ RTL
นอกจากนี้ฝรั่งเศสพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการสืบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินยูเครน และเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างมากที่สุดและเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายฟาร์ฮัด ปารวาเรศ ผู้แทนของอิหร่านในองค์การบินพลเรือนสากล ซึ่งอยู่ภายใต้สหประชาชาติกล่าวว่า ฝรั่งเศสอาจจะเข้าร่วมได้เพราะเป็นหนึ่งในประเทศที่ผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบิน
อิหร่านเชิญยูเครน โบอิ้งร่วมหาสาเหตุ
อิหร่านได้เชิญยูเครนและบริษัทโบอิ้งให้เข้าร่วมการสืบสวนกรณีเครื่องบินยูเครนตก รายงานสื่อรัฐบาลระบุ นายอับบาส มูซาวี โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า อิหร่านพร้อมรับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศอื่นๆที่มีพลเมืองของตนเองเสียชีวิตจากกรณีเครื่องบินเข้าร่วมสืบสวนหาสาเหตุเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นบินตะวันออกกลาง
นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้เดินทางไปเยือน ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมานตามกำหนดการเดิมในสุดสัปดาห์นี้ แม้สถานการณ์ยังตึงเครียดและเป็นการเดินทางก่อนที่จะส่งเรือรบและเรือลาดตระเวนไปตะวันออกกลาง
นายอาเบะมีกำหนดการเยือนตะวันออกกลางระหว่างวันที่ 11-15 มกราคม 2563
นายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ญี่ปุ่น เตรียมที่จะออกคำสั่งการโยกกองกำลังในวันศุกร์ที่ 10 มกราคม เพื่อให้เรือรบและเครื่องบินลาดตระเวน P-3C จำนวน 2 ลำเพื่อคุ้มครองเรือญี่ปุ่นที่บรรทุกน้ำมันในตะวันออกกลาง
สำนักข่าวรอยเตอร์ส์รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 224-194 จำกัดอำนาจประธานาธิบดีในการใช้กำลังทางทหารตอบโต้อิหร่านโดยไม่ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งสะท้อนถึงการร้าวลึกระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน