ThaiPublica > เกาะกระแส > เอดีบีจับมือ 3 แบงก์-JICA ปล่อยกู้ระยะยาวพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม

เอดีบีจับมือ 3 แบงก์-JICA ปล่อยกู้ระยะยาวพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม

22 มกราคม 2020


ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) หรือ เอดีบี ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้มูลค่า 37.8 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับบริษัท TTC Energy Development Investment Joint Stock ซึ่งเป็นการสนับสนุนเงินทุนระยะยาวเพื่อพัฒนาและดำเนินงานโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบ photovoltaic กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ ในจังหวัดเตนินห์ ประเทศเวียดนาม

การให้ความช่วยเหลือโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กัลฟ์ของเอดีบีผ่านโครงสร้างนวัตกรรมทางการเงิน จะทำให้มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวมีศักยภาพในการกู้ยืมเงิน และจะช่วยกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมสนับสนุนการปล่อยกู้แก่โครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีธุรกรรมทางการเงินขนาดใหญ่รายแรกๆ ของประเทศเวียดนาม เงินกู้ประกอบด้วยเงินกู้โดยตรงจากเอดีบี (A Loan) มูลค่า 11.3 ล้านเหรียญสหรัฐ และเงินกู้เสริมพิเศษ (B loan) มูลค่าสูงถึง 18.9 ล้านเหรียญสหรัฐ จากธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)

นอกจากนั้น ยังมีเงินกู้จากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยภาคเอกชนชั้นนำของเอเชีย (Leading Asia’s Private Infrastructure Fund) มูลค่า 7.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสนับสนุนโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency) เงินกู้ดังกล่าวนับเป็นการทำธุรกรรมภายใต้ Non-Parallel Program ครั้งแรกของกองทุน และยังช่วยให้โครงการมีศักยภาพทางการเงิน ซึ่งผู้ให้กู้สามารถปล่อยกู้ระยะยาวเป็นเงินสกุลดอลลาห์สหรัฐได้

“เอดีบียินดีกับธุรกรรมในครั้งนี้มาก เนื่องจากโครงการดังกล่าวจะมีผลต่อความมั่นคงและยั่งยืนของสาขาพลังงานในอีกหลายปีข้างหน้าของเวียดนาม” นายเจคกี้ บี. ซูตานี ผู้อำนวยการแผนกการเงินโครงสร้างพื้นฐาน สำนักปฏิบัติการภาคเอกชนของเอดีบีกล่าว “นอกจากจะจัดสรรเงินทุนตามที่ต้องการให้กับการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนามแล้ว โครงการดังกล่าวยังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสาขาพลังงานทดแทนของประเทศอีกด้วย”

“เราเชื่อว่าโครงการขั้นพื้นฐานจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นอันเป็นผลจากโครงสร้างทางการเงินที่แข่งขันได้และการได้รับเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินต่างๆ นำโดยเอดีบี นอกจากนั้น เรายังมั่นใจว่าโครงการจะดำเนินการได้สำเร็จตามแผนที่วางไว้” กล่าวโดยนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

รัฐบาลเวียดนามวางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของแหล่งการผลิตไฟฟ้าที่มาจากพลังงานทดแทน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล ให้เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 21 ภายในปี 2573 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและและลดภาวะเรือนกระจกกว่าร้อยละ 25 ภายในปี 2573

โครงการนี้จะช่วยพัฒนาและดำเนินการโรงผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเตนินห์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 50 กิโลเมตร โรงผลิตไฟฟ้านี้จะผลิตกระแสไฟฟ้าตามความต้องการของผู้อยู่อาศัยและธุรกิจร้านค้าในเมืองโฮจิมินห์และบริเวณโดยรอบ และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปีสูงถึง 29,760 ตัน ภายในปี 2063

บริษัท TTC Energy ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2560 โดยมี บริษัท กัลฟ์ฯ เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 90 บริษัท กัลฟ์ฯ เป็นบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าเอกชนชั้นนำและมีโครงการพลังงานก๊าซใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เอดีบีมุ่งมั่นในการพัฒนาภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกให้เจริญรุ่งเรือง มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง และมีความยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ยังคงพยายามในการขจัดปัญหาความยากจนต่อไป เอดีบีก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2509 โดยมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 68 ประเทศ โดย 49 ประเทศ มาจากประเทศในภูมิภาค