ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “‘ป่าไม้’ แจ้งจับ ‘ปารีณา’ รุกป่า 4 ข้อหา ด้าน ส.ป.ก. ขีดเส้นตายคืนที่ดิน 682 ไร่ใน 7 วัน” และ “ชาวฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่รอบหลายปี”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “‘ป่าไม้’ แจ้งจับ ‘ปารีณา’ รุกป่า 4 ข้อหา ด้าน ส.ป.ก. ขีดเส้นตายคืนที่ดิน 682 ไร่ใน 7 วัน” และ “ชาวฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่รอบหลายปี”

7 ธันวาคม 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 30 พ.ย. – 6 ธ.ค. 2562

  • “ป่าไม้” แจ้งจับ “ปารีณา” รุกป่า 4 ข้อหา ด้าน ส.ป.ก. ขีดเส้นตายคืนที่ดิน 682 ไร่ใน 7 วัน
  • คดียิ่งลักษณ์ใน ป.ป.ช. “รอด 6 เหลืออีก 6”
  • มาดามเดียร์ฟ้องอนุทินหมิ่นประมาท
  • สกสว.ยื่นอุทธรณ์ถูกตัดงบวิจัย 8,000 ล้าน
  • ชาวฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่รอบหลายปี

‘ป่าไม้’ แจ้งจับ ‘ปารีณา’ รุกป่า 4 ข้อหา-ส.ป.ก. ขีดเส้นตายคืนที่ดิน 682 ไร่ใน 7 วัน

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ที่มาภาพ: https://www.facebook.com/Pareenakraikupt/photos/

เว็บไซต์ WORKPOINT NEWS รายงานว่า วันที่ 2 ธ.ค. 2562 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ นำแถลงข่าวดำเนินคดีฟ้อง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ บุกรุกที่ป่า 46 ไร่เศษ โดยเป็นพื้นที่ป่าสงวนป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และอยู่ในเขตป่า ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 จำนวน 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา โดยยืนยันว่ายืนยันว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับผู้ครอบครองเขาสนฟาร์ม ทำให้ต้องมีแจ้งกล่าวหา

สำหรับ ที่ดิน 1,706 ไร่ ซึ่งแจ้ง ภ.บ.ท. 5 ต่อ ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) นั้น อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวโดยสรุปว่า ไม่มีรูปแปลง ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งเป็นอีกประเด็น ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจ้าของที่แท้จริงต้องมีการนำชี้ ขณะที่เรามีหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่จริงที่ว่า น่าจะอยู่บริเวณฟาร์มไก่เราไปตรวจโดยไม่มีผู้ครอบครองนำชี้แต่มีผู้นำท้องถิ่นนำชี้ ส่วนว่าเกี่ยวข้องกับ น.ส.ปารีณาหรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้ระบุว่าเกี่ยวข้องเพราะมีเอกสารชัดเจน

ข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อมีดังต่อไปนี้

1. ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า เข้ายึดถือและครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ต้องระวางโทษตามมาตรา 72 คือ
(มาตรา 72 ตรี) ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 54 ตองระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท

2. ยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออาศัยอยู่ในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง ทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ต้องระวางโทษตามมาตรา 31 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2559 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-2,000,000 บาท

3. เข้าไปยึดถือ ครอบครองก่อสร้าง เผาป่า ทำด้วยประการใดให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดินในที่ดินของรัฐ โดยไม่มีสิทธิ์ครอบครองหรือไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97

4. การกระทำผิด หรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ความผิดตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 มาตรา 97 ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.นี้ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย

ต่อมา วันที่ 6 ธ.ค. 2562 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าhttp://bit.ly/2sJjL6W นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) แถลงกรณีการครอบครองที่ดินเขาสนฟาร์มจังหวัดราชบุรี ของ นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โดยระบุว่า จากข่าวที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และดำเนินการหาข้อเท็จจริงตามหลักกฏหมาย โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 14 พ.ย. 2562 ซึ่งจากการตรวจสอบที่ดินทั้งหมดกว่า 682 ไร่ เป็นที่ดินของ ส.ป.ก.จริง นางสาวปารีณาไม่มีสิทธิ์ครอบครอง โดยจะทำหนังสือแจ้งไปยังนางสาวปารีณา ให้คืนที่ดินทั้งหมดภายใน 7 วัน เพื่อให้ ส.ป.ก.นำไปจัดสรรให้กับเกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินในการประกอบอาชีพ หากไม่คืนที่ดินดังกล่าวจะต้องใช้อำนาจตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ยึดคืนและดำเนินคดีอาญาต่อไป

คดียิ่งลักษณ์ใน ป.ป.ช. “รอด 6 เหลืออีก 6”

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 เวลา 9.30 น. ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนำข้าวนัดสุดท้าย

เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า มื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2562 แหล่งข่าวในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติตีตกข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยอนุญาตให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เผยแพร่ภาพและเสียงรายการ ‘มวยไทยวอริเออร์ส’ จัดที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า โดยมีเจตนาเผยแพร่ภาพการกล่าวเปิดงานของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาบางส่วนมีลักษณะที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ได้ระบุเหตุผลในการตีตกข้อกล่าวหาดังกล่าว ระบุเพียงว่า ให้ข้อกล่าวหาดังกล่าวตกไป หรือยุติการสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงบัดนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติตีตกข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปแล้วอย่างน้อย 6 คดี (รวมคดีข้างต้น) ได้แก่ 1. คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ตัวเองและรัฐมนตรี 2. คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารจัดการน้ำผิดพลาดจนเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 3. คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. ในการเปิดเผยราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 4. คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คุมม็อบ กปปส. 5. กรณีถูกกล่าวหาร่วมกับคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบใน พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำโดยมิชอบ และ 6. คดีเผยแพร่ภาพและเสียงรายการมวยไทยวอริเออร์ที่ปรากฎภาพนายทักษิณมาเปิดงาน

ทั้งนี้เท่ากับว่ายังเหลืออีกอย่างน้อย 6 คดีในชั้นการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แก่ 1. คดีถูกกล่าวหาร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ร่วมกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเอกชนเครือสยามอินดิก้า 2. คดีโยกย้ายข้าราชการโดยมิชอบ (กรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ) 3. คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง 4. คดีละเว้นไม่ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา กรณี รมว.มหาดไทย (นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ) กับพวกปราศรัยรุนแรง-แบ่งแยกประเทศ 5. คดีร่ำรวยผิดปกติ กรณีครอบครองนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาท 6. คดีร่ำรวยผิดปกติกรณีเกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว

มาดามเดียร์ฟ้องอนุทินหมิ่นประมาท

ที่มาภาพ: เว็บไซต์แนวหน้า (http://bit.ly/2D3tzLb)

6 ธ.ค. 2562 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2562 น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ ‘มาดามเดียร์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้มอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กรณีนำข้อความที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช หรือ ‘ช่อ’ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ที่แถลงข่าวกล่าวหา น.ส.วทันยา มีหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชน มาโพสต์เผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความ “เชียร์ช่อ” เบื้องต้นศาลได้ประทับรับคำร้องแล้ว

สกสว.ยื่นอุทธรณ์ถูกตัดงบวิจัย 8,000 ล้าน

เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562 ศ. นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) พร้อมด้วย ดร.นเรศ ดำรงชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ (TCELS) เข้ายื่นหนังสืออุทธรณ์ ต่อนายสันติ กีระนันทน์ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 สภาผู้แทนราษฎร และ พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ เพื่อพิจารณาทบทวนการพิจารณางบประมาณของคณะอนุกรรมาธิการฯ ที่มีการตัดงบกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.)

โดยการยื่นอุทธรณ์ในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2562 คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 มีมติปรับลดงบประมาณ ในส่วนกองทุน ววน.จากเดิม 12,554 ล้านบาท ปรับลดจำนวน 8,000 ล้านบาท

การปรับลดดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 63.7 ของงบประมาณกองทุน ววน.ที่จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการพัฒนาประเทศกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศในด้านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และยังส่งผลกระทบเศรษฐกิจฐานราก ทั้งวิสาหกิจชุมชน SMEs จะขาดการยกระดับศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงกระทบมหาวิทยาลัยและหน่วยงานรวมทั้งสิ้นกว่า 250 หน่วยงานที่จำเป็นต้องใช้เงินจากกองทุนนี้ในการทำงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์พัฒนาประเทศ

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า การปรับลดงบประมาณจำนวนดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่สามารถขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามเป้าหมายที่ สกสว.วางไว้ จึงยื่นอุทธรณ์ต่อประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ เพื่อทบทวนมติที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ปรับลดงบประมาณ

ชาวฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่รอบหลายปี

วันที่ 5 ธ.ค. 2562 เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากได้หยุดงานประท้วงเนื่องจากไม่พอใจที่ถูกบังคับให้เกษียณช้าลง หรือไม่เช่นนั้นจะถูกลดเงินบำนาญแทน

ผู้ที่ทำงานในโรงเรียนและระบบขนส่งเข้าร่วมหยุดงานประท้วงทั่วประเทศ พร้อมกับ ตำรวจ ทนายความ และพนักงานที่สนามบินและโรงพยาบาล

สหภาพแรงงานหลายแห่งมีความเห็นตรงกันให้การหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศในรอบหลายปีของฝรั่งเศส หลังจากที่ไม่พอใจกับแผนการของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่ต้องการใช้ระบบบำนาญแบบให้คะแนนมาตรฐานเดียวกัน

เจ้าหน้าที่ทางการได้พยายามจะใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

ส่วนในการหยุดงานประท้วงในภาคอุตสาหกรรมคาดว่า จะดำเนินต่อไปหลังจากวันพฤหัสบดี ผู้นำสหภาพการค้าบางคน เตือนว่า พวกเขาจะหยุดงานประท้วงจนกว่านายมาครงจะล้มเลิกแผนการยกเครื่องระบบบำนาญ

การสำรวจความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า ประชาชนสนับสนุนการหยุดงานประท้วง 69% โดยกลุ่มที่สนับสนุนมากที่สุดมาจากคนกลุ่มอายุ 18-34 ปี

รัฐบาลมาครงไม่ต้องการให้เกิดการหยุดงานประท้วงเกี่ยวกับการปฏิรูปบำนาญขึ้นเช่นเดียวกับในปี 1995 ซึ่งทำให้ระบบขนส่งของประเทศหยุดให้บริการไปนาน 3 สัปดาห์ และได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก จนทำให้รัฐบาลต้องล้มเลิกแผนการ

คริสตอฟ คาสตาเนร์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส กล่าวในวันก่อนวันหยุดงานประท้วงว่า เขาคาดว่าจะมีการประท้วงเกือบ 250 แห่งทั่วประเทศ บางแห่งอาจจะกลายเป็นความรุนแรง

“เรารู้ว่า มีคนจำนวนมากเข้าร่วมการประท้วง และเรารู้ถึงความเสี่ยง ผมได้แจ้งแล้วว่า ถ้ามีเหตุจลาจลหรือความรุนแรง เราจะจับกุมในทันที” เขากล่าว

จำนวนผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองที่รู้จักกันในชื่อ “ชีเลต์ส โชนส์” (gilets jaunes) ระบุว่า พวกเขามีแผนจะเข้าร่วมการชุมนุมนี้ด้วย โดยผู้ประท้วงกลุ่มนี้ได้จัดการประท้วงในฝรั่งเศสมานานร่วมปีแล้ว