เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2562 หรือ “บอร์ด ทอท.” ได้มีมติเห็นชอบให้ฝ่ายบริหาร ทอท. ดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งให้แนวทางในการคัดเลือก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและผู้ถือหุ้น ดังนี้
-
1. โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร แยกเป็น 2 สัญญา คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1 สัญญา และท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 1 สัญญา โดยให้กำหนดกรอบแนวทางในการคัดเลือกให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ (Brand Name) สามารถแข่งขันกับธุรกิจเดียวกันในตลาดโลกได้ และผลประโยชน์ตอบแทนรวมของทั้งสองสัญญาจะต้องไม่ต่ำกว่าที่ ทอท. ได้รับอยู่ในปัจจุบัน
2. โครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้สัมปทานแบบรายเดียว (Master Concession)
โดยคณะกรรมการ ทอท. ได้เน้นย้ำว่า “การกำหนดแนวทางในการดำเนินงานดังกล่าว เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจบทบาทและหน้าที่ในการดำเนินงานของ ทอท. ที่จะต้องคำนึงถึงการดำเนินงานอย่างยั่งยืน (Sustainable) มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียในการดำเนินงาน ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ”
จากนั้นในวันที่ 29 มีนาคม 2562 “ทอท.” ได้ออกประกาศ 2 ฉบับผ่านเว็บไซด์ของทอท. ฉบับแรก ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และฉบับที่ 2 ประกาศเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับการประมูลสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับล่าสุดนี้ ทอท.ยังคงหลักการเดิม คือ คัดเลือกผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพ มีองค์ความรู้ (knowledge) และความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี เพียงรายเดียว เข้ามารับสัมปทานประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2574 รวมเป็นระยะเวลา 10 ปี 6 เดือน โดยมีกำหนดการดังนี้
โดยผู้ที่มีสิทธิยื่นข้อเสนอประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คือเป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือ เป็นนิติบุคคลหลายรายรวมกลุ่มกันยื่นข้อเสนอในลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture) หรือ กิจการร่วมลงทุน (Consortium) โดยมีผู้รับผิดชอบหลัก (Lead Firm) ของกิจการร่วมค้า หรือ กิจการร่วมลงทุนดังกล่าวต้องเป็นนิติบุคคลไทย มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มีประสบการณ์บริหารห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าในประเทศไทยซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันมีขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 5,000 ตารางเมตร อย่างต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังคงเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งมีประสบการณ์บริหารร้านค้าปลอดอากรในประเทศไทย หรือ ต่างประเทศอยู่ในพื้นที่เดียวกันมีขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 500 ตารางเมตร อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังคงเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนการประมูลสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.มีความประสงค์จะคัดเลือกผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพ มีองค์ความรู้ และเชียวชาญในธุรกิจดังกล่าวเป็นอย่างดี เพียงรายเดียว ในเข้ามาประกอบกิจการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ฯ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2574 รวมเป็นระยะเวลา 10 ปี 6 เดือนเช่นกัน โดยมีกำหนดการดังนี้
โดยผู้มีสิทธิยื่นข้อเสนอประกอบกิจการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ คือ เป็นนิติบุคคลไทยรายเดียว หรือ เป็นนิติบุคคลหลายรายรวมกลุ่มกันยื่นข้อเสนอในลักษณะกิจการร่วมค้า (Joint Venture) หรือ กิจการร่วมลงทุน (Consortium) โดยมีผู้รับผิดชอบหลัก (Lead Firm) ของกิจการร่วมค้า หรือ กิจการร่วมลงทุนดังกล่าวต้องเป็นนิติบุคคลไทย มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท มีประสบการณ์บริหารห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าในประเทศไทยซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันมีขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร อย่างต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังคงเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจประเภท Retail Business ร้านค้าจำหน่ายสินค้าและบริการ อาหารและเครื่องดื่มในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือ ท่าอากาศยานในประเทศไทย มีขนาดพื้นที่รวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังคงเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เป็นต้น