ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “จำคุก ‘เปรมชัย’ 16 เดือน – หลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ – เผย ลุ้นต่ออีก 3 คดี” และ “ผู้เสียหายกว่า 1,600 คนถูกแอบถ่ายในโรงแรมเกาหลีใต้”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์: “จำคุก ‘เปรมชัย’ 16 เดือน – หลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ – เผย ลุ้นต่ออีก 3 คดี” และ “ผู้เสียหายกว่า 1,600 คนถูกแอบถ่ายในโรงแรมเกาหลีใต้”

23 มีนาคม 2019


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 16-22 มี.ค. 2562

  • จำคุก “เปรมชัย” 16 เดือน หลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ ลุ้นต่ออีก 3 คดี
  • “วิญญัติ” ข้องใจ กกต. มีมติเอกฉันท์ เสนอชื่อ “ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบด้วยกฎหมาย
  • ศาลฎีกาพิพากษาแก้ จำคุก “ธาริต” 1 ปี “ไม่รอลงอาญา”
  • รบ. แจง “ยกเลิกจ่ายยารักษามะเร็งข้าราชการ” ไม่เป็นความจริง
  • ผู้เสียหายกว่า 1,600 คนถูกแอบถ่ายในโรงแรมเกาหลีใต้
  • จำคุก “เปรมชัย” 16 เดือน หลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ ลุ้นต่ออีก 3 คดี

    นายเปรมชัย กรรณสูต (นั่ง)ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)ที่มาภาพ : https://www.facebook.com/Khonanurak/photos/

    เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดพิพากษาคดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1, นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2, นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 ใน 6 ข้อหา

    โดยล่าสุดศาลมีคำพิพากษาว่า ให้ลงโทษนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ในข้อหา ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 6 เดือน ข้อหาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า จำคุก 8 เดือน และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 เดือน ไม่รอลงอาญา

    รวมจำคุก นายเปรมชัย 16 เดือน โดยศาลยกฟ้องข้อหาร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าไว้ในความคุ้มครอง (เสือดำ)

    นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้จำเลยที่ 1 และที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย จำนวน 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.61 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง

    เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจำเลยที่ 1, 2 และ 4 ที่ศาลพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาได้ยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ล่าสุด ผู้พิพากษาหัวหน้าจังหวัดทองผาภูมิ พิจารณาคำร้องประกอบพฤติการณ์แล้วเห็นว่า ระหว่างการพิจารณาคดีจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ประกันจำเลยที่ 1,2 คนละ 400,000 บาท และจำเลยที่ 4 จำนวน 500,000 บาท กำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาต

    อนึ่ง เว็บไซต์สปริงนิวส์รายงานว่า ยังมีการยื่นฟ้องนายเปรมชัยที่ยังไม่ได้รับการตัดสินอยู่อีกอย่างน้อย 3 คดี คือ 1. คดีเสนอให้สินบนเจ้าพนักงาน กรณีที่มีเทปเสียงนายยงค์พูดในทำนองจะติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวก มีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 11 มิ.ย. 2562 2. คดีครอบครองงาช้างแอฟริกา 2 คู่ ซึ่งมีภรรยาและแม่บ้านของนายเปรมชัยเป็นจำเลยด้วย คดีนี้นัดสืบพยานโจทย์วันที่ 8-9 ส.ค. 2562 นัดสืบพยานจำเลยวันที่ 13-14 ส.ค. 2562 3. คดีครอบครองอาวุธปืนยาวและปืนแก๊ปโดยไม่ได้รับอนุญาต นัดสืบพยานวันที่ 9 ก.ค. 2562

    “วิญญัติ” ข้องใจ กกต. มีมติเอกฉันท์ เสนอชื่อ “ประยุทธ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ชอบด้วยกฎหมาย

    พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่มาภาพ : www.thaigov.go.th

    เว็บไซต์ประชาชาติธรุกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกเอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุม กกต. กรณีนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ ขอให้ กกต. ทบทวนการประกาศรายชื่อของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี (แคนดิเดตนายกฯ) ของพรรคพลังประชารัฐเสียใหม่ และดำเนินการเพิกถอนชื่อบุคคลดังกล่าว

    ทั้งนี้ กกต. พิจารณาแล้วมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ เห็นว่าการประกาศชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 และมาตรา 89 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 13 และมาตรา 14

    ต่อมติดังกล่าว เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่า นายวิญญัติ ชาติมนตรี ได้เข้ายื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต. ขอทราบผลการประชุมดังกล่าว โดยระบุว่าข่าวจากสำนักงาน กกต. ระบุว่ามีการพิจารณาแล้วเห็นว่าการประกาศชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ ชอบด้วยกฎหมายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ข่าวดังกล่าวไม่ระบุเหตุผลของการวินิจฉัยว่าชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ทั้งที่มีข้อโต้แย้งว่าการดำรงตำแหน่งหัวหน้า คสช. และการเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดต่างๆ ซึ่งมีค่าตอบแทนเป็นงบประมาณแผ่นดินไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐอย่างไร

    ดังนั้นจึงต้องการทราบรายละเอียด 3 ประเด็น ได้แก่ 1. กกต. ได้แต่งตั้งผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานหรือคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน 2. หากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างไร มีการดำเนินการประชุมและรายงานการประชุมอย่างไร และ 3. กกต. หรือคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้มีความเห็นวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งอย่างไร การลงมติเอกฉันท์มีรายละเอียดในการวินิจฉัยอย่างไร รวมทั้งก่อนวินิจฉัยได้เรียก พล.อ. ประยุทธ์ มาชี้แจง หรือได้เรียกหน่วยงานที่จ่ายค่าตอบแทนมาชี้แจงหรือไม่

    “ข่าวของ กกต. ความยาว 8 บรรทัด ที่ระบุว่าการประกาศรายชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ นั้นชอบด้วยกฎหมาย ยังมีหลายประเด็นที่ประชาชนสงสัย แต่ กกต. ยังไม่ได้ให้คำตอบ ผมในฐานะผู้ยื่นคำร้องจึงต้องมายื่นขอรับทราบผลการสืบสวนไต่สวน พร้อมขอคัดสำเนาการวินิจฉัยเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป”

    ศาลฎีกาพิพากษาแก้ จำคุก “ธาริต” 1 ปี ไม่รอลงอาญา

    นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่มาภาพ : http://www.youtube.comwatchv=-rh9MQgwxCc

    เว็บไซต์ PPTVHD36 รายงานว่า วันที่ 21 มี.ค. 2562 ศาลฎีกาได้มีการตัดสินคดี หมายเลขดำ อ.3873/55 ที่ พ.อ. ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ อดีตผู้บัญชาการ (ผบ.) สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นโจทก์ฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ และนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รักษาราชการปลัดกระทรวงยุติธรรม ในความผิดฐาน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157,83

    โดยจากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 30 มี.ค. – 8 ต.ค. 2555 ต่อเนื่องกัน นายธาริต จำเลยที่1 ขณะนั้น ในฐานะอธิบดี ดีเอสไอ และจำเลยที่2 ในฐานะรองปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยการทำหนังสือโยกย้ายโจทก์ ซึ่งขณะนั้นเป็น ผบ.สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะคดี ซึ่งมีระดับต่ำกว่าตำแหน่งเดิมอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

    ทั้งนี้ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่านายธาริตจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องโจทก์จริง จึงพิพากษาแก้จำคุกนายธาริต จำเลยที่ 1 จำนวน 1ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่2 พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากมีหลักฐานว่าได้ใช้ความระมัดระวังแล้ว และไม่ทราบถึงปัญหา และเหตุขัดแย้งระหว่างโจทก์กับจำเลยมาก่อน

    สำหรับนายธาริต ถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิดฐานหมิ่นประมาท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กรณีโครงการจัดซื้อจัดจ้างโรงพัก 396 แห่ง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561

    รบ. แจง “ยกเลิกจ่ายยารักษามะเร็งข้าราชการ” ไม่เป็นความจริง

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์เนชั่นทีวี (http://bit.ly/2OiTbbH)

    เว็บไซต์เนชั่นทีวีรายงานว่า พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีการส่งต่อข้อความในโซเชียลมีเดียระบุว่า “สวัสดิการข้าราชการ เริ่มสะเทือน กรมบัญชีกลาง ขอยกเลิกจ่ายยารักษามะเร็ง…แล้ว” รัฐบาลขอยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะกรมบัญชีกลางได้มีหนังสือถึงหน่วยราชการแจ้งหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา (โรคเลือด) ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีราคาสูง เช่น ยา Lenalidomide ที่รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว ยา Osimertinib รักษามะเร็งปอด ให้สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงได้ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. 2562 และเมื่อใช้สิทธิเบิกจ่ายตรงแล้ว จึงไม่สามารถนำใบเสร็จไปเบิกจ่ายจากต้นสังกัดได้

    ดังนั้น ข้อความที่มีการส่งต่อกันจึงเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจเกิดจากความเข้าใจผิดหรือมีผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างความสับสน ทำลายความน่าเชื่อของรัฐบาล ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว และฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวบิดเบือน โดยขอให้ใช้วิจารณญาณทุกครั้งก่อนเชื่อหรือส่งต่อให้แก่ผู้อื่น

    ผู้เสียหายกว่า 1,600 คนถูกแอบถ่ายในโรงแรมเกาหลีใต้

    เว็บไซต์ไทยพีบีเอสรายงานว่า วันที่ 21 มี.ค. 2562 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้เสียหายกว่า 1,600 คน ที่เข้าพักในโรงแรมในประเทศเกาหลีใต้ ถูกแอบถ่ายขณะเข้าพักโดยมีการนำวิดีโอมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์และมีการสตรีมสดผ่านออนไลน์แล้วเก็บค่าเข้าชม 

    ชาย 2 คนถูกจับกุมและอีก 2 คนอยู่ระหว่างการสอบสวนในคดีซ่อนกล้องภายในห้องพัก 42 ห้องในโรงแรมกว่า 30 แห่ง ใน 10 เมืองทั่วเกาหลีใต้ ตำรวจบอกว่าไม่มีข้อบ่งชี้ว่าธุรกิจนี้มีการวางแผนอย่างซับซ้อน

    ขณะที่กรมสอบสวนคดีไซเบอร์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวในแถลงการณ์โดยระบุว่า ในเกาหลีใต้ โรงแรมขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยทั่วไปจะเรียกว่าโมเทลหรืออินน์ กล้องจะถูกซ่อนอยู่ในกล่องทีวีดิจิทัล ปลั๊กไฟติดผนัง และที่แขวนไดร์ฟเป่าผม และวิดีโอจะถูกสตรีมออนไลน์ 

    เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เว็บไซต์นี้มีสมาชิกมากกว่า 4,000 คน โดยมี 97 คน จ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือน  44.95 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,400 บาท เพื่อเข้าถึงบริการพิเศษ เช่น สามารถรับชมสตรีมสดย้อนหลังบางรายการ โดยระหว่างเดือน พ.ย. ปีก่อน จนถึง เดือน มี.ค. ปีนี้ บริการดังกล่าวมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ดอลลาร์ หรือ เกือบ 200,000 บาท