เปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์, นิวกราว
ข่าวปลดล็อกกัญชาไทยมีให้พอกล้อมแกล้มเป็นระยะ เดี๋ยวก็จะปลด เดี๋ยวก็เงียบ ไป ๆ มา ๆ เช่นนี้ พรรคการเมืองต่างดูจะมีนโยบายกัญชามาตามกระแส แต่เห็นจะทำจริงอยู่ไม่กี่พรรค ไม่นับว่า สามารถเข้าไปมีที่นั่งในสภาเพียงพอให้บังคับใช้หรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง
ไม่กี่เดือนก่อน ผมได้คุยกับ Highland สถานการณ์ปลดล็อกกัญชาไทยดีขึ้นเป็นลำดับ ถึงปลายทางจะเล็งผลเลิศที่การใช้เพื่อความสุข หรือ เพื่อสันทนาการ ก็ค่อยเป็นค่อยไป เอาทางการแพทย์ให้ได้ก่อน คุณช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา เล่าว่า การให้กัญชาซึ่งเป็น soft drug หาได้ง่าย แต่ควบคุมปริมาณ หรือ อายุผู้ใช้ในทำนองเดียวกับเหล้าบุหรี่ ช่วยให้ไม่ต้องหันไปใช้ hard drug แทน เพราะมักมีเหตุการณ์ที่ติดต่อขอซื้อกัญชากับดีลเลอร์แล้ว พอถ่อไปถึงที่ ดีลเลอร์บอกว่า กัญชาหมด เอาอย่างอื่นไปแทนมั้ย นัดเพื่อนปาร์ตี้ไว้แล้ว ก็คงต้องเอาตามที่เขามี
ไม่กี่สัปดาห์ถัดมา ผมเดินทางไปเชียงใหม่คุยกับ คุณ ต๋อม-นเรศ สงเคราะห์สุข นักวิชาการด้านยาเสพติด ได้ความว่า รัฐมีนโยบาย “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ที่ต้องบำบัด เพื่อให้พอตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ผู้ใช้ไม่ต้องถึงมือตำรวจ แต่ถึงมือหมอแทน แต่ผู้ใช้ยาทุกคน ป่วยจริงหรือ ประเทศไทยมีคนจำนวนมากถูกบังคับบำบัด ทั้งที่ไม่ได้ก่ออาชญากรรม ละเมิดสิทธิผู้อื่น และสามารถควบคุมตนเองได้ ผู้ใช้ยาในสื่อไทยมักมีภาพ เสียสติ คลุ้มคลั่ง ทำร้ายคนอื่น
สถาบันสำรวจด้านการใช้ยาและสุขภาพ (NSDUH) ระบุว่ามีเพียง 9% ของผู้ใช้ยาที่มีอาการติดและคนจำนวนน้อยเหล่านี้มักป่วยอยู่แล้ว หรือเกิดจากการนอนไม่พอ ส่วน 90% ของผู้เสพเป็นครั้งคราว ใช้เพื่อความสุข ความบันเทิงและยังสามารถทำงาน ใช้ชีวิตได้ปกติ ในอังกฤษมีเว็บไซต์ให้ความรู้เตรียมตัวก่อนใช้ยา รับมือหลังใช้ยา และอาการระหว่างใช้ยาอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่เว็บไซต์ในไทยมักบอกแค่ว่า “อันตราย” และจะเลิกใช้อย่างไร
พอมาดูเรื่องยาเสพติด ปี 2001 โปรตุเกสเลิกโทษจำคุกและไม่บังคับบำบัดในคดียาเสพติด 1 ปีหลังจากนั้น อัตราการติดเชื้อ HIV ลดลงจาก 1,016 ราย เป็น 56 ราย จำนวนผู้ใช้เฮโรอีนลดจาก 100,000 คน เหลือราว 50,000 คน จำนวนผู้เสียชีวิตจากยาเกินขนาดลดเหลือ 3 รายต่อประชากรล้านคน
หันมาดูประเทศไทย ข้อมูลจากคุณ โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ มติชนรายวัน (18 ธ.ค.2556) ระบุว่า คุกไทยแออัดกว่าที่กรมราชทัณฑ์กำหนดถึง 231% นักโทษคดียาเสพติดเป็นสัดส่วนสูงที่สุด ส่วนมากเป็นผู้เสพเล็กๆ น้อยๆ ตุลาคม 2556 กระทรวงยุติธรรมตั้งงบสามหมื่นล้านบาทเพื่อสร้างคุกเพิ่ม 42 แห่ง อีกซีกโลกหนึ่ง รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้การปลูก ขาย และใช้กัญชา ไม่ผิดกฎหมาย ปี 2552 เนเธอร์แลนด์ ประกาศปิดคุก 8 แห่ง และให้เจ้าหน้าที่คุกออกจากงาน 1,200 คน เนื่องจากไม่มีนักโทษในคุก
รอบปีที่ผ่านมา กระแสการพูดถึงกัญชาบนแง่มุมต่าง ๆ ในไทยเริ่มมีมากขึ้น และเชื่อว่าข้อมูล สถานการณ์ คุณงามความดีของมันปรากฏอยู่ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตและกรุ๊ปไลน์ เกินว่า ผมซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรในทางวิชาการหรือกฎหมายจะให้ข้อมูลได้ เพียงแต่หวังว่า ประสบการณ์ซึ่งอาจจะผิด ในช่วงปีที่ผ่านมาในเนเธอร์แลนด์จะพอมีประโยชน์กับผู้อยากสำรวจ 101 อัมสเตอร์ดัมแบบเมาไปเที่ยวไปในราคาไม่แพง ปลอดภัย และไฮได้ทั้งวี่ทั้งวัน
กัญชาในอัมสเตอร์ดัม มีแบบไหนบ้าง ต่างกันยังไง
อัมสเตอร์ดัมมีร้านขายปุ๊นกระจายโดยทั่วไป แต่ส่วนมากกระจุกอยู่แถว Red light district ถ้ากะจะไปเพื่อไฮ แนะนำให้หาที่พักใกล้ ๆ แหล่ง เว้นแต่มีเพื่อนไปด้วย อาจออกมาห่างดาวน์ทาวน์หน่อย อาศัยนั่งรถไฟเอา ก็ได้ฟีลนั่งยานอวกาศดี ร้านซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ถ้าไม่นับพวกประเภทศูนย์บำบัด จะมีให้เห็นประมาณนี้
อัมสเตอร์ดัมเรียกร้านขายปุ๊นว่า Coffeeshop มีกฎว่าห้ามตั้งใกล้โรงเรียนในระยะ 250 เมตร ไปร้านเหล่านี้ครั้งแรก ๆ ที่ควรทำคือ ถาม ขอเมนูมาดู ให้พนักงานแนะนำ และหลายร้านรับเงินสด ส่วนใหญ่ภายในร้านขายอะไรบ้าง ?
1.กัญชา (weed) ราคาแตกต่างกันออกไป ส่วนตัวผมชอบ OG kush (เป็น Indica เคลิ้ม ๆ ผ่อนคลาย ลดความเครียด แต่ปากจะแห้งหน่อย) ซื้อมาแล้วก็บด ที่บดเรียกว่า grinder หาได้ตาม Shop และตลาด ราคาที่บดมีตั้งแต่ 1 ยูโร ไปจนถึงเครื่องอย่างดี บดเสร็จก็สูบ จะพันเป็นบุหรี่ ใช้บ้อง หรือไปป์ก็ตามแต่สะดวก ซึ่ง 2 อย่างหลัง ร้าน Coffeeshop ส่วนใหญ่ไม่มีขาย แต่มีบางร้านให้ยืมฟรี ถ้าซื้อในปริมาณที่กำหนด ซึ่งจะแนะนำในหัวข้อด้านล่าง ส่วนราคามีตั้งแต่ 5 ยูโร ถึง 35 ยูโร ต่อกรัม
2. แฮช (Hash) น้ำมันกัญชาอัดก้อน เอาไปใช้แบบมวนแล้วสูบ กับบ้อง หรือกับไปป์ก็ได้ มีตั้งแต่สีเหลืองราคาสูง ไปจนถึงสีดำเข้ม ราคาแพงกว่าข้อที่ 1 หน่อย
3. Joint คือบุหรี่ยัดไส้กัญชา ส่วน Pure Joint คือกัญชาพันหรือมวนเป็นลำคล้ายบุหรี่ ถ้าเป็น Pure ตัวนึงประมาณ 3-6 ยูโร
4. ของหวาน ดูดปุ๊นแล้วหลายคนอยากกินอะไรหวาน ๆ หลายร้านจึงขาย Space cake หรือ บราวนี่ ซึ่งมักจะใส่กัญชาลงไปในนั้น
การดูดปุ๊นในที่สาธารณะทำไม่ได้ ส่วนดูดในร้านต้องพยายามดูโซนดี ๆ ว่าเค้าจัดไว้ตรงไหน จ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนหยิบสินค้าไปดูดในบริเวณ ไฟแช็กส่วนใหญ่ร้านมีให้ยืม หรือจะซื้อเก็บไว้ก็สวยดี
ปกติแล้ว Coffeeshop จะไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลยมี Smoker Friendly Bar ที่ขายทั้งกัญชา ขายทั้งเหล้าเบียร์ (ถึงอย่างนั้น ถ้าร้านแน่น ก็ควรถามโต๊ะที่เข้าไปจอยว่า โอเคมั้ยถ้าจะจุดไฟแช็ก) บาร์แบบนี้โดยมากมีทั้งห้องไว้สูบและระเบียงที่สูบได้ ในร้านไม่ได้มีแค่วัยรุ่น แต่ multi generation คละวัยไปหมด เคยเจอคนเดินหลังค่อม ถือไม้เท้า และถอดฟันปลอมไว้บนโต๊ะ
ถ้าเจอชื่อนี้ หมายถึงร้านขาย Magic mushroom มาถึงอัมสเตอร์ดัมได้ลองปุ๊นในบรรยากาศอารยะแล้วก็ไม่ควรพลาดเห็ดเมาในบรรยากาศแบบเดียวกัน มีร้านขาย Magic mushroom น้อยกว่า Coffeeshop แต่ก็เยอะพอจะเจอเรื่อย ๆ เห็ดที่ว่า มีหลายแบบ ให้คนขายแนะนำได้เลย ถ้าไม่เคยลองมาก่อน ก็บอกเขาได้ว่า ลองครั้งแรก เขาจะแนะนำเอง รวมไปถึงวิธีใช้ วิธี cool down เช่น ควรจะท้องโล่ง ๆ ก่อนใช้ ร้านพวกนี้มักขาย Mind drug เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ลองดูก็ไม่เสียหายอะไร เช่น ปีโยเต้ แซลเวีย และยา psychedelics ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรซื้อเห็ดเมานอกร้าน Smartshop
ตามชื่อ คือขายพันธุ์และเมล็ดกัญชาต่าง ๆ มีหลายสิบร้านในเมืองนี้ รวมไปถึงอุปกรณ์เพาะปลูก น้ำมัน CBD หนังสือ ฯลฯ
อัมสเตอร์ดัมมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง แต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับกัญชาหลัก ๆ มี 3 ที่ที่แนะนำ
1. Cannabis College เปิดทุกวัน 11.00 – 19.00 น.
2. The Hash Marihuana & Hemp Museum เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
3. Cannabis Museum ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอันที่สอง
ร้านไหนน่าสนใจ
เนื่องจากตัวเองก็ไม่ได้ไปอัมสเตอร์บ่อย หรือ ไปอยู่นาน ๆ เลยจะขอแนะนำร้านที่น่าจดจำ หรือไปบ่อย ๆ แต่หากใครมีร้านอื่นเด็ด ๆ ก็ว่าได้เลย
1. Green Place
ร้านนี้อยู่สถานี Nieuwmarkt ติดกับร้านอาหารไทย เผ็ด อร่อยดี ชื่อ “สองแคว” ตั้งอยู่ริมคูน้ำ มี Pure Joints ขายปกติ มี section ให้นั่งสูบในร้าน ข้างในกว้าง และมืดกำลังดี หาง่าย เดินยังไงก็เจอ
2. 420 Cafe
ร้านดังและดีมากที่มีบ้อง ROOR ให้ยืม มีแบบนี้ไม่กี่ร้านในอัมสเตอร์ดัม เดินประมาณ 8 นาทีจาก Red light มีเมนูหลากหลาย ถ้าซื้อเกิน 5 กรัม (ไม่ต้องใช้หมด เก็บไว้ใช้โอกาสถัด ๆ ไปได้ ซื้อกระดาษมาพันก็ได้) ก็ขอยืมบ้อง แล้วนั่งสูบในร้านได้เลย มีขายของหวานครบถ้วน
3. The Bushdoctor
มี 2 สาขาอยู่นอกเมืองหน่อย เป็นอีกร้านที่มี ROOR bong ให้ยืมสูบ มีกัญชาหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะแบบ Indica มีแบบออแกนิคด้วย
4. Kadinsky
น่าจะเป็น Coffeeshop ที่มีสาขามากที่สุดแห่งหนึ่งในเมือง พนักงานแนะนำดี บรรยากาศชิลปลอดภัย เพลงดี ราคาไม่แพง ว่ากันว่า ของหวานไม่โอเค แต่ผมไม่ได้ลอง ส่วนเมนูกัญชามีเป็นเล่มเลย
นอกจากนี้ยังมีร้านชื่อ Grey Area และ Dampkring ที่มีบ้องให้ยืมสูบเหมือนกัน แต่กระนั้นในอัมสเตอร์ดัมมีร้านเช่าบ้องเช่นเดียวกัน
5. Element of nature
ร้าน Smartshop ขายเห็ดมีเยอะ หลายร้านดัง และน่าไปเยี่ยมชม เช่น Amsterdam Seed Center, Chills a& Thrills, Inner space, Azarius, Magic mushroom gallery, The old man, Tatanka และหนึ่งในนั้นคือร้านชื่อ Element of nature ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก 420 Cafe มีเห็ดบรรจุกล่องให้เลือกหลายชนิด ราคาตั้งแต่ 13.5 ยูโร – 22.5 ยูโร เอฟเฟกต์มี 4 แบบ คือ หัวเราะ, กระปรี้กระเปร่า อยากใช้ร่างกาย, เห็นภาพหลอน และหูแว่ว ซึ่งเคี้ยว ๆ ไปสักพักก็ออกฤทธิ์ เหมือนไปทริปพบพระพุทธเจ้า พอนอนก็หาย ไม่ควรใช้คู่กับแอลกอฮอล์ และไม่ควรใช้เกินคนละ 1 กล่อง
ไม่ใช่ทุกเมืองที่จะหา Coffeeshop หรือ Smartshop ได้ง่ายเท่า Amsterdam บางคนไปเรียน Tilburg ไปเรียน Rotterdam หวังจะพี้เป็นกิจวัตร ก็ใช่ว่าจะหาง่ายเท่าในอัมสเตอร์ดัม นอกจากกัญชาและเห็ดแล้ว ถ้าไม่ได้อยากสูบ ก็มีทางเลือกเป็นขนมหรือของกินดื่มต่าง ๆ หาซื้อได้ทั่วเมือง เช่น ช็อกโกแลต ลูกอม บราวนี่ เจลลี่บีน คุ้กกี้ มัฟฟิ่น หรือชา ใครที่ไฮตั้งแต่หัววัน หลายสถานที่ในอัมสเตอร์ก็เป็นทางเลือกในการเยี่ยมชมที่ดี เช่น Eye Film museum ที่ดูจะออกแบบไว้เพื่อภารกิจนี้โดยเฉพาะ
“การรณรงค์กัญชา ไม่ใช่แค่สิทธิในการดูดปุ๊น แต่คือสิทธิในการมีทางเลือกโดยไม่ถูกจับ”
– โจดี้ เอเมอรี่ นักการเมืองและแอคทิวิสต์กัญชาชาวแคนาดา วัย 34 ปีว่าไว้เช่นนั้น