ThaiPublica > เกาะกระแส > เกษตรกรอเมริกันฆ่าตัวตายสูงกว่าทหารผ่านศึกสองเท่า อินเดียฆ่าตัวตายวันละ 45 คน ฝรั่งเศส 1 คน ทุก 2 วัน

เกษตรกรอเมริกันฆ่าตัวตายสูงกว่าทหารผ่านศึกสองเท่า อินเดียฆ่าตัวตายวันละ 45 คน ฝรั่งเศส 1 คน ทุก 2 วัน

14 พฤศจิกายน 2018


สุนิสา กาญจนกุล

เจ้าชายแฮรี่ตรัสให้กำลังใจแก่เกษตรกรในออสเตรเลียซึ่งมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง ว่าไม่ควรทนทุกข์อยู่ตามลำพัง ควรหาแรงสนับสนุนและกำลังใจจากเพื่อนบ้านหรือเพื่อนเกษตรกร
ที่มาภาพ: https://www.news.com.au/lifestyle/health/mind/prince-harrys-powerful-speech-about-mental-health/news-story/d20b116e8b46d39e9f396d5aecacb58f

เกษตรกรรมเป็นอาชีพที่มีความเครียดสูงเนื่องจากมีปัจจัยภายนอกหลายอย่างที่อยู่นอกเหนือการควบคุม สภาพจิตใจของคนในครอบครัวเกษตรกรจึงผันแปรไปตามความเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเหล่านั้น

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้ที่อยู่ในอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งรวมทั้ง เกษตรกร ผู้ใช้แรงงานเพื่อการเกษตร ชาวไร่ปศุสัตว์ ชาวประมงและคนตัดไม้ มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าอาชีพอื่นๆ โดยข้อมูลที่รวบรวมจาก 17 รัฐ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าประชากรทั่วไปถึง 5 เท่า สูงกว่าทหารผ่านศึก 2 เท่า

รายงานของซีดีซีระบุว่าสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดการฆ่าตัวตายได้แก่ สภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม ความสูญเสียทางการเงิน การไม่ได้รับบริการด้านสุขภาพจิต (ซึ่งมีน้อยเนื่องจากอยู่ห่างไกล) หรือการปฏิเสธไม่ยอมรับบริการ รวมถึงการเข้าถึงช่องทางการฆ่าตัวตายได้ง่ายกว่า (เช่น ปืน อุปกรณ์การเกษตรและสารพิษ ฯลฯ)

นิวส์วีคเสนอความเห็นว่าตัวเลขอัตราการฆ่าตัวตายของซีดีดีอาจต่ำกว่าความเป็นจริงด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่มีการเก็บข้อมูลในรัฐเกษตรกรรมขนาดใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯ รวมถึงไอโอวา ซึ่งเป็นรัฐเกษตรกรรมที่ใหญ่มาก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายรายเชื่อว่าตัวเลขน่าจะสูงกว่านี้ เพราะเกษตรกรจำนวนหนึ่งจงใจฆ่าตัวตายโดยจัดฉากให้เหมือนกับเกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน

หาทางรับมือ

ตัวเลขการฆ่าตัวตายของเกษตรกรสหรัฐฯ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อัตราการฆ่าตัวตายของเกษตรกรชาวฝรั่งเศสคือเฉลี่ยราว 1 คน ทุก 2 วัน ออสเตรเลีย 1 คน ทุก 4 วัน อังกฤษ 1 คนต่อสัปดาห์ ส่วนในอินเดีย สูงถึงวันละ 45 คน ขณะที่ในสวิตเซอร์แลนด์ เกษตรกรมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าอาชีพอื่นๆ ถึง 37 %

นักจิตวิทยาเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง เป็นเพราะผู้อยู่ในชนบท โดยเฉพาะผู้ชาย ไม่นิยมพูดคุยหรือเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพจิตของตนเอง หลายฝ่ายจึงริเริ่มหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรที่ตกอยู่ในความเครียดเพิ่มเติมจากช่องทางให้คำปรึกษาเรื่องการฆ่าตัวตายโดยทั่วไป

รัฐวอชิงตันมีการออกร่างกฎหมายวิลค็อกซ์เพื่อลดการฆ่าตัวตายของเกษตรกร และเตรียมเสนอรัฐบัญญัติอีกสองฉบับ คือ The Stress Act และ The Farmers First Act ในเทนเนสซีมีการก่อตั้งกองกำลังป้องกันการฆ่าตัวตายของเกษตรกร

ในออสเตรเลียมีการรณรงค์ให้เกษตรกรกล้าที่จะระบายความคับข้องใจของตนเองออกมาเพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย โดยในการเสด็จเยือนออสเตรเลียเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าชายแฮรี่แห่งอังกฤษทรงตรัสให้กำลังใจแก่เกษตรกรและแนะนำให้ขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น โดยทรงกล่าวว่า “การขอความช่วยเหลือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยทำ” เนื่องจากเจ้าชายแฮรี่ทรงเคยเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์เรื่องพระมารดามาก่อน

อย่างไรก็ตาม การให้คำปรึกษาหรือการป้องกันดูเหมือนจะเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ เพราะเมื่อสืบย้อนกลับไปเรื่อยๆ ต้นตอที่แท้จริงของความเครียดในหมู่เกษตรกรมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำลงนั่นเอง

นับตั้งแต่ปี 2013 รายได้ของเกษตรกรสหรัฐฯ ลดลงราวๆ 50 % สินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เมื่อเดือนสิงหาคม 2017 ทอม กีเซล ประธานสหพันธ์เกษตรกรของพอว์นีเคานตี้ในแคนซัส เผยแพร่วิดีโอชื่อ “ของสิบอย่างที่ข้าวสาลี 1 บูเชลซื้อไม่ได้” ตัวอย่างของสิ่งที่อยู่ในวิดีโอ คือ กระดาษชำระ 4 ม้วน ถ่านไฟฉายอัลคาไลน์ 2 ก้อน มัฟฟิน 6 ก้อน ฯลฯ แต่สิ่งที่ชวนให้สะท้อนใจที่สุดคือ ขนมปังโฮลวีต 1 ก้อน เนื่องจากข้าวสาลี 1 ถัง สามารถทำขนมปังได้ถึง 70 ก้อน โดยในช่วงนั้น ข้าวสาลีราคาบูเชลละ 3.27 เหรียญ (1 บูเชล = 27.12 กิโลกรัม โดยประมาณ)

แหล่งข้อมูล
1. https://www.theguardian.com/us-news/2017/dec/06/why-are-americas-farmers-killing-themselves-in-record-numbers
2.https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/65/wr/mm6525a1.htm
3.https://www.euractiv.com/section/agriculture-food/news/one-french-farmer-commits-suicide-every-two-days-survey-says/
4.http://www.newspressnow.com/news/local_news/level-of-farmer-suicides-draws-concern/article_a96a9568-38a2-577f-a969-ce9202bb58f2.html