ThaiPublica > เกาะกระแส > “อภิศักดิ์” ยันไม่เคยเห็นร่าง กม.เก็บภาษีบุหรี่เพิ่มซองละ 2 บาทโปะ “บัตรทอง” – ระบุก่อนชง ครม. ต้องผ่านคลัง

“อภิศักดิ์” ยันไม่เคยเห็นร่าง กม.เก็บภาษีบุหรี่เพิ่มซองละ 2 บาทโปะ “บัตรทอง” – ระบุก่อนชง ครม. ต้องผ่านคลัง

2 ตุลาคม 2018


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ต่อกรณีที่มีกระแสข่าวกระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.จัดเก็บเงินสมทบ เพื่อสนับสนุนการจัดบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการภาครัฐในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. …. ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็วๆนี้ โดยเสนอให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร เก็บเงินสมทบจากผลิตภัณฑ์ยาสูบมวนละ 10 สตางค์ หรือ ซองละ 2 บาท ส่ง “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อนำไปจัดสรรให้โรงพยาบาลในเขตพื้นที่เฉพาะ หรือ พื้นที่ยากลำบาก ซึ่งได้รับสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลไม่เพียงพอ

  • แกะซองราคาบุหรี่ตลาดบน ตลาดล่าง หลังปรับโครงสร้างภาษี ทั้งระบบรายได้หายกำไรหด – บุหรี่ 1 ซอง เงินภาษีไปไหนบ้าง?
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “ขณะนี้ตนยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตามมาตรา 25 และ 26 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ 2561 ก่อนนำเสนอให้ที่ประชุม ครม. ต้องผ่านความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อน ตอนนี้ตนยังไม่เห็นเรื่องเลย”

    ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการมีความคิดเห็นว่าร่างกฎหมายฯดังกล่าวไม่เป็นธรรม เนื่องจากให้กรมศุลกากร หรือ กรมสรรพสามิต จัดเก็บเงินสมทบเฉพาะยาสูบเท่านั้น แต่ไม่ได้เก็บสุรา เหมือนหลักการจัดเก็บเงินบำรุงทั่วไป (Earmarked Tax) นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นร่างกฎหมายฯ ดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุขเลย

    ก่อนหน้านี้น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการ การยาสูบแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้มีการหารือกับกระทรวงคลัง และได้ข้อสรุปจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีเป็น 40% สำหรับบุหรี่ราคาไม่เกินละ 60 บาท/ซอง ออกไปอีก 2 ปี (เลื่อนจากวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2564) กระทรวงการคลังจะทำเรื่องเสนอ ครม. เมื่อไหร่ นายอภิศักดิ์ ตอบว่า “ยังเหลือเวลาที่จะพิจารณาอีกนาน เพราะกว่ากรมสรรพสามิตจะปรับขึ้นภาษีเป็น 40% ช่วงเดือนตุลาคม 2562 ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา หากกระทรวงการคลังมีความจำเป็นต้องขยายเวลาการขึ้นภาษียาสูบ ก็ไปพิจารณากันในช่วงปลายปีหน้า และตนก็ยังไม่เคยหารือกับผู้ว่าการ การยาสูบฯ เรื่องการขยายเวลาปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ส่วนเรื่องการรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกร เป็นหน้าที่ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ในฐานะที่เป็นกิจการผูกขาดของรัฐ (Monopoly) ซึ่งได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ผลิตบุหรี่ออกจำหน่ายได้เพียงรายเดียว หากไม่ช่วยเหลือเกษตรกร ก็ควรต้องเปิดให้ผู้ประกอบการรายอื่นผลิตบุหรี่ได้ด้วยเช่นกัน

    ด้านนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้ตนก็ยังไม่เห็นร่างกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข กรณีเสนอให้กรมสรรพสามิต เก็บเงินสมทบจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ นำส่ง “กองทุนสปสช.” ซึ่งในความเห็นส่วนตัว มองว่า กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดเป็น กองทุนหมุนเวียนทั่วไป ดังนั้น ในกรณีการยกร่างกฎหมายกำหนดให้กรมสรรพสามิตไม่ต้องนำเงินรายได้ หรือ เงินอื่นใด ส่งคลัง น่าจะเข้าข่ายพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 มาตรา 25 ก่อนเสนอ ครม. ต้องได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง และ นำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐด้วย