ThaiPublica > เกาะกระแส > สหภาพยาสูบฯ แจงเกษตรกร จี้รับซื้อใบยา 100% ชี้ “รับไม่ได้” ใบยาล้นสต๊อก-โบนัสหาย

สหภาพยาสูบฯ แจงเกษตรกร จี้รับซื้อใบยา 100% ชี้ “รับไม่ได้” ใบยาล้นสต๊อก-โบนัสหาย

29 กันยายน 2018


เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2561 ภาคคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ที่มาภาพ: www.facebook.com/ภาคียาสูบประเทศไทย

หลังจากที่ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดลำปาง, สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงใหม่, สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดน่าน, สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดแพร่, สมาคมผู้บ่มผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบจังหวัดเชียงรายและพะเยา, สามคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ สุโขทัย, สมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ เพชรบูรณ์, สมาคมพัฒนาชาวไร่บ่มเอง จังหวัดเชียงใหม่, ชมรมชาวไร่ยาสูบสามัคคี นครพนม บึงกาฬ, ชมรมชาวไร่บ่มเอง จังหวัดแพร่, ชมรมชาวไร่บ่มเอง จังหวัดเชียงราย และเครือข่ายชาวไร่ยาสูบภาคอีสาน รวบรวมรายชื่อชาวไร่ยาสูบ 30,000 ราย ไปยื่นหนังสือถึงนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 เรียกร้องให้ปลดผู้ว่าการ การยาสูบแห่งประเทศไทย เนื่องจากไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาวิกฤติครั้งนี้ จนต้องมีการปรับลดปริมาณการรับซื้อยาสูบจากเกษตรกรลง 50%

  • แกะซองราคาบุหรี่ตลาดบน ตลาดล่าง หลังปรับโครงสร้างภาษี ทั้งระบบรายได้หายกำไรหด – บุหรี่ 1 ซอง เงินภาษีไปไหนบ้าง?
  • ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 นายคณุตม์ ฤทธิสอน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ออกหนังสือแจ้งสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบถึงความคืบหน้าในการปรับขึ้นเงินเดือนของพนักงานยาสูบทุกระดับชั้น 20% รวมทั้งแสดงความเห็นคัดค้าน กรณีชาวไร่ยาสูบเรียกร้องให้ “การยาสูบแห่งประเทศไทย” (โรงงานยาสูบ) รับซื้อใบยาสูบเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ของโควตาที่ได้รับจัดสรร

    ตามเอกสารประชาสัมพันธ์ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ระบุว่า จากการประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2561 เพื่อขอทราบความคืบหน้าการประเมินค่างาน (ผลงาน) ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล และการปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานทุกระดับชั้น 20% นั้น

    ทางสหภาพฯ ได้รับคำชี้แจงจากฝ่ายทรัพยากรบุคคล ในฐานะผู้ประเมินค่างาน เพื่อขอปรับเพิ่มเงินเดือน 20% ทุกระดับชั้น มีกรอบระยะเวลานานเท่าไหร่นั้น ได้รับคำชี้แจงว่า “อย่างเร็วไม่น่าเกินเดือนธันวาคม 2561 และอย่างช้าไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หลังจากนั้น ถ้าค่างานเสร็จแล้ว จึงนำเสนอคณะกรรมการอำนวยการยาสูบแห่งประเทศไทย (บอร์ด) เพื่อขอความเห็นชอบ และส่งให้กระทรวงแรงงาน โดยผ่านคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครรส.) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การขยายโครงสร้างเงินเดือน และปรับเพิ่มเงินเดือน 20% ทุกระดับชั้น เป็นอำนาจ ครม. พิจารณา ซึ่งแต่ละรัฐวิสาหกิจจะได้เท่ากันหรือไม่ก็ได้ ส่วนเรื่องการขยายโครงสร้างเงินเดือนปรับขั้นสูงสุดไปอยู่ที่ 140,000 บาท ได้รับแจ้งจากฝ่ายทรัพยากรบุคคลว่าทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ค่างานอย่างเดียวเท่านั้น”

    ส่วนเรื่องโบนัสประจำปี 2561 คาดว่าการยาสูบฯ จะมีกำไร 1,500-2,000 ล้านบาท แต่มีข่าวชาวไร่ยาสูบเรียร้องให้การยาสูบฯ รับซื้อใบยาเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ตามที่ให้โควตาไว้ ทั้งที่ความเป็นจริงใบยาสูบในสต๊อกมีปริมาณเกินความจำเป็น แต่การยาสูบก็ช่วยเกษตรกรในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจ และผูกพันกับการยาสูบฯมาช้านาน

    “กรณีที่ชาวไร่ยาสูบมาบีบให้การยาสูบซื้อใบยาตามโควตาเดิมนั้น สหภาพฯ รับไม่ได้ เพราะจะทำให้โบนัสของพนักงานการยาสูบฯ หายไปทันที สหภาพฯ ยอมรับไม่ได้ที่จะให้เป็นเช่นนั้น จึงขอให้ชาวไร่ยาสูบเห็นใจหัวอกพนักงานการยาสูบฯ ที่ทำงานมาทั้งปี ก็หวังจะได้ค่าตอบแทนพิเศษ (โบนัส) เช่นกัน”

  • 6 เดือน หลังปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ โรงงานยาสูบรายได้หาย-กำไรหด เกษตรกร 5 หมื่นราย ถูกตัดโควตา – ขายใบยา
  • เอกสารประชาสัมพันธ์ของสหภาพยาสูบฯ ระบุว่า กรณีการยาสูบฯ รับซื้อใบยา 50% ถือเป็นการแบ่งเบาภาระต่างๆ ของเกษตรกรบางส่วน แต่ถ้าจะให้ซื้อใบยาสูบ 100% การยาสูบฯ ก็คงไม่ไหวเช่นกัน จึงอยากจะให้พี่น้องเกษตรกรเข้าใจในสถานการณ์ความเป็นจริงนี้ด้วยว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการยาสูบฯ แต่เกิดจาก พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2560 ทำให้เกิดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ชาวไร่ยาสูบร่วมมือกับการยาสูบฯ ไปถามผู้มีอำนาจในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 เพื่อเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน

    “สุดท้ายนี้ ไม่มีใครผิด ใครถูก แต่เราต้องจับมือแล้วเดินไปต่อด้วยกันให้ได้ เพื่อความมั่นคง และยั่งยืนของพนักงานยาสูบ และเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบทุกท่าน นี่จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและตรงจุด”