ตามที่สมาชิกโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ ได้ยื่นฟ้องบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ “โรงพยาบาลกรุงเทพ” เป็นจำเลย ในข้อหาผิดสัญญา ละเมิด และเรียกค่าสินไหมทดแทน กรณีจำเลยบอกเลิกสัญญาโครงการไลฟ์พริวิเลจคลับ (Life Privilege Club) หรือยกเลิกสิทธิของสมาชิก ในการรักษาพยาบาลฟรีตลอดชีพ โดยอ้างว่าเป็นสัญญาประกันภัย และโรงพยาบาลไม่มีใบอนุญาต ซึ่งสมาชิกชนะในทุกคดี(อ่านรายละเอียดได้ที่นี่)
อย่างไรก็ตามแม้มีคำพิพากษาให้จำเลย(โรงพยาบาลกรุงเทพ)เปิดให้บริการสมาชิกตามสัญญา แต่ปรากฏว่าโรงพยาบาลกรุงเทพปฏิบัติได้ไม่ครบตามเงื่อนไขสัญญา และมีสมาชิกที่ชนะคดีเท่านั้นที่สามารถไปใช้บริการได้ ทำให้สมาชิกบางรายยกร่างคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป
ดังนั้นจากคำพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2560 ศาลแพ่งรัชดาได้พิพากษา “ให้จำเลยปฏิบัติต่อโจทก์ตามข้อตกลงของโครงการเอกสิทธ์คุณภาพชีวิต และเปิดสโมสรไลฟ์พริวิเลจคลับ กับปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของคลับ และตามแผ่นพับโฆษณา……จำเลยยังคงประกอบธุรกิจโรงพยาบาล จึงยังไม่เป็นการพ้นวิสัยที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำพิพากษาได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องจากจำเลยเลือกปฏิบัติตามคำพิพากษาเพียงบางส่วน โจทก์ 6 คน นำโดยนางจุฑาทิพย์ สนิทพันธุ์ จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับคดี ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2561 ศาลได้พิจารณาคำร้องฯ และพิพากษา “ให้นัดกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยมาศาลในวันที่ 24 เม.ย.2561 เพื่อสอบถามการปฏิบัติตามคำพิพากษา หากไม่มาโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะพิจารณาออกหมายจับ”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.2561 จำเลยส่งนายประดิษฐ์ ทีฆกุล กรรมการฯมาชี้แจงศาล โดยยืนยันที่จะปฏิบัติตามคำพิพากษาเพียงบางส่วนเท่านั้น ศาลจึงพิพากษาว่า “เพื่อให้เกิดความชัดแจ้ง เห็นควรให้เลื่อนไปไต่สวนจำเลยว่าได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามคำร้องขอออกหมายจับของโจทก์ 6 คนดังกล่าวหรือไม่ โดยให้นัดไต่สวนจำเลยในวันที่ 15 พ.ค.2561 เวลา 13.30 น. หากการไต่สวนพบว่าจำเลยยังไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จะพิจารณาออกหมายจับกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยทุกคน”
อนึ่งโจทก์ทั้ง 6 คือ นางจุฑาทิพย์ สนิทพันธุ์ เป็นโจทก์ที่ 1 และพวกอีก 5 คนนั้น เป็นโจทก์ “กลุ่มแรก” ที่ศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2560 ต่อมาก็มีโจทก์อีก 5 กลุ่มที่ฟ้องเช่นกลุ่มแรก และศาลได้พิพากษา ใจความเหมือนกลุ่มแรก
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
