ThaiPublica > เกาะกระแส > คิม จองอึน จิ้งจอกแห่งเปียงยาง หรือ CEO บริษัท เกาหลีเหนือ จำกัด

คิม จองอึน จิ้งจอกแห่งเปียงยาง หรือ CEO บริษัท เกาหลีเหนือ จำกัด

19 มีนาคม 2018


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : https://www.standard.co.uk/news/world/donald-trump-s-meeting-with-north-koreas-kim-jongun-won-t-be-piece-of-theatre-says-cia-boss-a3787511.html

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม คณะผู้แทนของเกาหลีใต้ ที่นำโดยนายชุง เอีย-ยอง (Chung Eui-yong) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เดินทางมาพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ หลังจากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เดินมาที่ห้องแถลงข่าว ทำเนียบขาว และแจ้งกับสื่อมวลชนว่า เกาหลีใต้จะมีประกาศครั้งสำคัญเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ

ชุง เอีย-ยอง อ่านข้อความที่เตรียมไว้ว่า เขาเป็นคนนำข้อเสนอของคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เรื่องการประชุมสุดยอดระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ชุน เอีย-ยอง ยังแถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับข้อเสนอการประชุมดังกล่าว และเตรียมที่จะจัดการประชุมสุดยอดนี้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ทางเกาหลีเหนือเห็นด้วยกับ “การทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด” และจะระงับการทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์

ทันทีที่มีข่าวการประชุมสุดยอดดังกล่าว ก็เกิดคำถามที่สำคัญสุดคือ เกาหลีเหนือต้องการอะไร เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด เช่น การยุติการซ้อมรบทางทหารของสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ การถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากคาบสมุทรเกาหลี สนธิสัญญาสันติภาพเพื่อยุติสงครามเกาหลี การฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต หลักประกันเรื่องการไม่รุกราน การยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และอาจรวมถึงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ

แต่การริเริ่มที่กล้าหาญของ คิม จองอึน เรื่องการประชุมสุดยอดกับสหรัฐฯ ก็สร้างความประหลาดใจอย่างมากแก่โลกเราเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดคิดได้เลย ที่จะมีการประชุมของผู้นำ 2 ประเทศ เพราะเกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นระยะๆ เพื่อพัฒนาขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ ที่สามารถยิงไปถึงสหรัฐฯ การริเริ่มของเกาหลีเหนือดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามเช่นเดียวกันว่า คิม จองอึน เป็นผู้นำแบบไหน?

คิม จองอึน ผู้นำสไตล์ CEO

ที่มาภาพ : weforum.org

ในบทความชื่อThe Wolf of Pyongyangในวารสาร Foreign Affairs ผู้เขียนคือ David Kang กล่าวว่า นักวิจารณ์ในประเทศตะวันตก มักจะมองคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ว่าเป็นตัวตลก และเรียกคิม จองอึน ไปต่างๆ นานา เช่น เด็กอ้วน ตัวตลก หรือเพลย์บอยหนุ่ม เป็นต้น การไปเรียกผู้นำเกาหลีเหนือแบบนั้นเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ในยามที่เกิดความตรึงเครียดเป็นระยะๆ ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ การมองผู้นำเกาหลีเหนือแบบนี้เป็นการมองข้ามความสามารถด้านการเป็นผู้นำของเขา

David Kang บอกว่า วิธีที่ดีที่สุดในการประเมินคิม จองอึน คือเห็นเขาเป็น CEO หรือหัวหน้าฝ่ายบริหาร ที่เข้ามามีอำนาจใน บริษัท เกาหลีเหนือ จำกัด การมองผู้นำเกาหลีเหนือแบบนี้ จะช่วยให้ข้ามประเด็นที่ว่า คิม จองอึน มีสภาพจิตอย่างไร หรือเป็นผู้นำเผด็จการแบบไหน แต่จะช่วยให้วิเคราะห์ได้ว่า คิม จองอึน เป็นผู้นำสไตล์แบบไหน

ในทางธุรกิจ บทบาทของ CEO ถือเป็นศูนย์กลางความสำเร็จของบริษัท คนที่ขึ้นมาเป็น CEO คนใหม่ของบริษัทที่กำลังประสบปัญหาต่างๆ จะต้องเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมและดูแลบริษัท CEO จะต้องเสนอวิสัยทัศน์ และชี้นำการดำเนินงาน เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

CEO คนใหม่จะต้องสร้างแรงดลใจแก่พนักงาน อธิบายคนในองค์กรให้เห็นว่า บริษัทกำลังมุ่งไปทิศทางไหนและอย่างไร มีการประเมินผลงานเพื่อให้สิ่งที่เป้าหมายนั้นชัดเจนแก่คนในองค์กร CEO จะต้องปลดพนักงานระดับกลางที่ไร้ประโยชน์หรือต่อต้านการนำ ในเวลาเดียวกัน ก็ส่งเสริมสนับสนุนพนักงานที่เห็นด้วยกับวิสัยทัศน์และช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า เพราะฉะนั้น CEO ที่ดี คือผู้นำที่สามารถทำให้พนักงานทุกคนก้าวเดินไปทิศทางเดียวกัน

ที่มาภาพ : onceinlifetimejourney.com

นับจากก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเกาหลีเหนือในปี 2011 ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา คิม จองอึน บริหารประเทศเป็นขั้นเป็นตอนในสไตล์ผู้นำแบบ CEO สร้างวิสัยทัศน์แก่เกาหลีเหนือ รัฐบาลของเขาไม่แสดงอาการให้เห็นว่ากำลังจะล้มพังลง แต่กลับมีความมั่นคงมากกว่าสมัยของคิม จองอิล ผู้เป็นพ่อ การมองคิม จองอึน เป็น CEO ที่ไม่ใช่ผู้นำการเมืองแบบธรรมดาๆ ช่วยให้เห็นความเป็นผู้นำองค์กรในด้านอื่นๆ ที่สามารถสร้างความหวังและเสถียรภาพของประเทศ

เมื่อองค์กรมี CEO คนใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเสนอวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกระตุ้นคนในองค์กร ในเดือนเมษายน 2013 คิม จองอึนเรียกร้องให้เกาหลีเหนือมีการพัฒนา 2 ด้าน คือ การพัฒนาเศรษฐกิจและอาวุธนิวเคลียร์ แนวทางนี้มาแทนแนวทางเดิมของคิม จองอิล ที่เรียกว่า นโยบายการทหารมาก่อน คิม จองอึน ประกาศว่า คนเกาหลีเหนือจะไม่อดอยากอีกต่อไป การเน้นชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน นับเป็นแนวทางที่แตกต่างจากเดิม

การให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ หมายความว่า คิม จองอึน ทำให้ความชอบธรรมของเขาไปเชื่อมโยงกับการสร้างผลงาน ในเรื่องการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นอกเหนือจากเรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ บทความ The Wolf of Pyongyang กล่าวว่า ในการสวนสนามเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2013 นักวิเคราะห์ตะวันตกสนใจแต่เรื่องการแสดงอาวุธต่างๆ ของเกาหลีเหนือที่กินเวลาแค่ 20 นาที ส่วนอีก 2 ชั่วโมง เกาหลีเหนือเน้นความสำเร็จทางเศรษฐกิจ เช่น การเปิดแหล่งชอปปิ้งใหม่บนถนนชื่อ เรียมยอง (Ryomyong)

แม้จะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ Bank of Korea ของเกาหลีใต้ก็คาดการณ์ว่า ในปี 2016 เศรษฐกิจเกาหลีเหนือเติบโต 3.9% ประเทศไม่ประสบกับภาวะอดอยาก กลุ่มวิจัยชื่อ Beyond Parallel กล่าวว่า ครัวเรือนของเกาหลีเหนือมีรายได้ 75% จากเศรษฐกิจตลาด การค้าต่างประเทศก็เพิ่มขึ้น อินเดียเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 การค้ากับรัสเซียเพิ่ม 73% ช่วง 2 เดือนแรกของปี 2017

ชุง เอีย-ยอง นำคณะจากเกาหลีใต้ไปพบคิม จองอึนที่มาภาพ : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/7/73/Chung_Eui-yong_and_Kim_Jong-un.jpg

เมื่อชุง เอีย-ยอง นำคณะจากเกาหลีใต้ไปพบคิม จองอึน นั้น เขาประทับใจที่คิม จองอึน เป็นผู้นำที่มีความเชื่อมั่นสูงมาก เมื่อเริ่มเจรจากัน ชุง เอีย-ยอง ยังไม่ทันจะพูดประเด็นที่เตรียมไว้ คิม จองอึน เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า “ผมรู้ และผมเข้าใจ” แล้วก็กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการเจรจากับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเลิกล้มอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และระงับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ในช่วงที่มีการเจรจากัน นอกจากนี้ คิม จองอึน ยังแสดงออกถึงความเข้าใจที่เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ จะยังมีการซ้อมรบประจำปีร่วมกันต่อไป

คิม จองอึน ยังกล่าวตลกกับผู้แทนเกาหลีใต้ เรื่องที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธว่า “ผมเสียใจที่ได้ยินข่าวว่าประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ต้องเรียกประชุมสภาความมั่นคงแต่เช้า เพราะการยิงขีปนาวุธของเรา จากนี้ไป เขาไม่ต้องตื่นแต่เช้าอีกแล้ว”

ผลงานความสำเร็จของทรัมป์

การประชุมสุดยอดสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ หลายฝ่ายยอมรับว่า ต้องถือเป็นผลงานของโดนัลด์ ทรัมป์เช่นเดียวกัน ชุน เอีย-ยอง กล่าวกับนักข่าวที่ทำเนียบขาวว่า “ที่เรามาได้ไกลขนาดนี้ สำคัญสุดก็เพราะประธานาธิบดีทรัมป์” การที่ทรัมป์ตอบรับทันทีที่จะมีการประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือทำให้ทุกฝ่ายประหลาดใจมาก ไม่ว่าจะเป็นคณะผู้แทนเกาหลีใต้ หรือแม้แต่บรรดาที่ปรึกษาความมั่นคงของทรัมป์เอง

New York Times รายงานว่า ข้อเสนอให้มีการประชุมสุดยอดไม่ใช่เรื่องที่สร้างความประหลาดใจเลยทีเดียวกับคณะทำงานของทรัมป์ หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ ทราบเรื่องนี้ก่อนที่คณะผู้แทนเกาหลีใต้จะเดินทางมาถึงสหรัฐฯ สิ่งนี้สะท้อนความสามารถของงานข่าวกรองสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่หาข่าวยากเพราะไม่ติดต่อกับโลกภายนอก นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเป็นคนเสนอให้ผู้แทนเกาหลีใต้เป็นฝ่ายแถลงข่าวในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

การประชุมสุดยอดที่จะมีขึ้นระหว่างทรัมป์-คิม จองอึน จะช่วยลดความเสี่ยงของสงครามที่ผ่านมา ความเสี่ยงมากสุดคือ การคาดการณ์ผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้เหตุการณ์บานปลายกลายเป็นสงคราม หรือแม้กระทั่ง การโจมตีทางทหารอย่างจำกัดของสหรัฐฯ ก็สามารถลุกลามจนคุมสถานการณ์ไม่อยู่ แต่การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้จะทำให้แต่ละฝ่ายเริ่มมองอีกฝ่ายหนึ่งว่าเป็นคู่เจรจาเพื่อสันติภาพ

เอกสารประกอบ
The Wolf of Pyongyang, David Kang, Foreign Affairs, August, 2017.