ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 29 มิ.ย. – 5 ก.ค. 2562
วิษณุเผย ทูลเกล้าฯ แล้ว ‘ประยุทธ์ 2’ ไม่ทราบตรงโผหรือไม่
เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ภายใต้รัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขณะนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ได้นำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว เพื่อรอโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา ก่อนที่จะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยคาดว่าจะเสร็จภายในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งก็เป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวขอให้รอ พล.อ. ประยุทธ์ ตอบคำถามในเรื่องนี้อีกครั้ง แต่เมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาแล้ว ทางรัฐบาลจะทำหนังสือเพื่อขอเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนในการเข้ารับตำแหน่งก่อน ส่วนรายชื่อจะตรงตามโผที่ออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่ารายชื่อบุคคลที่คาดว่าจะมีชื่อใน ครม.ประยุทธ์ 2 นั้นประกอบด้วย
1. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม
2. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
3. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ
4. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย
5. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.พาณิชย์
6. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.สาธารณสุข
7. พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย
8. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย
9. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย
10. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม
11. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง
12. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง
13. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม
14. นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม
15. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม
16. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน
17. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม
18. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์
19. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์
20. นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์
21. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ
22. คุณหญิงกัลยาโสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ
23. น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ
24. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
25. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
26. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม
27. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ
28. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
29. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
30. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
31. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.แรงงาน
32. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
33. นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์
34. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข
35. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
36. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล จะได้ตำแหน่ง รมว.แรงงาน แต่ล่าสุดเป็น ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ
ส.ส. ปชป.จ่อฟ้องกลับ “อนาคตใหม่” ละเมิดสิทธิ์ทำให้ได้รับความเสียหายกรณีหุ้นสื่อ
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า วันที่ 4 ก.ค. 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะทีมทนายความคดีถือครองหุ้นสื่อ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ 7 คน ได้เรียกประชุมคณะทีมทนายความเตรียมยกร่างคำร้องของแต่ละคนแยกรายสำนวน หลังจากวันที่ 3 ก.ค. 25562 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ส่งสำเนาคำร้องให้ ส.ส.ทั้ง 7 คน ซึ่งตามกฎหมายจะต้องทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
ทั้งนี้ นายราเมศกล่าวว่า ขอยืนยันว่า ส.ส. 3 ใน 7 คน คือ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสมชาติ ประดิษฐ์พร และ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้โอนหุ้นก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีหลักฐานทางราชการยืนยันชัดเจน จึงถือว่า สำนวนคำร้องของพรรคอนาคตใหม่หละหลวมไม่มีการตรวจสอบก่อนยื่น และถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ทำให้ได้รับความเสียหาย และทั้งสามคนสามารถใช้สิทธิ์ทางกฎหมายในทางแพ่งและอาญา ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค. นี้จะมีการหารือว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรตามกฎหมายต่อไป
นายราเมศกล่าวต่อว่า คณะทนายฯ ต่อสู้คดีนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหนักใจในส่วนอีก 4 คนที่ถูกร้องว่าถือครองหุ้นสื่อ และยังไม่ได้มีการโอนก่อนการสมัครรับเลือกตั้ง แต่ละคนก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อยกร่างคำชี้แจง พร้อมทั้งเห็นว่า คดีนี้มีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือทางการเมือง
จ่อเช็คบิล “อุตตม” พัวพันปล่อยกู้กฤษฎานคร เจ้าตัวปฏิเสธ ลั่น “ผมไม่ผิด อย่าบิดเบือน!”
วันที่ 3 ก.ค. 2562 เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2546 นายอุตตม สาวนายน ในฐานะกรรมการบริหารธนาคารกรุงไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการทั้ง 4 คน ลงนามอนุมัติสินเชื่อให้บริษัทในกลุ่มเครือกฤษดานคร จำนวน 9,900 ล้านบาท จากนั้นมีการฟ้องร้องว่าเป็นการอนุมัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และมีการไต่สวนพิจารณาคดี ซึ่งนายอุตตมถือเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา
แต่เมื่อถึงขั้นตอนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กลับไม่มีชื่อของนายอุตตม เหลือเพียงคณะกรรมการ 3 คนที่ถูกส่งชื่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจนถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่นายอุตตมกลับรอด เพราะมีข้อกล่าวอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับการอนุมัติ ทั้งที่มีลายเซ็นนายอุตตมเป็นผู้ร่วมอนุมัติ ดังนั้นจะถูกกันไว้เป็นพยานไม่ได้ เพราะนายอุตตมลงนามอนุมัติไปแล้ว และการกระทำของนายอุตตมเหมือนกับการทิ้งคนอื่นให้ติดคุกแต่ตนเองรอดคนเดียว
ด้วยเหตุดังกล่าว นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า “หาก พล.อ. ประยุทธ์ ตั้งนายอุตตมเป็น รมว.คลัง ก็จะเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ชอบโดยรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามต่อไป และทำหน้าที่ตรวจสอบในสภาฯ อีกทั้งจะดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่เราจะทำต่อไป”
ต่อมา วันที่ 5 ก.ค. 2562 เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า นายอุตตมได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้เรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า
“ผมไม่ผิด อย่าบิดเบือน! เพื่อนที่รักและพี่น้องประชาชนที่เคารพ ความจริงผมไม่คิดว่าต้องมาเขียนชี้แจงอธิบายกรณีการปล่อยสินเชื่อธนาคารกรุงไทยอีกครั้ง แต่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตีผมโดยตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา เจตนาหวังผลทางการเมืองให้ผมเป็นผู้ผิด ทั้งโดยข้อเท็จจริง การตรวจสอบ ไต่สวนทุกกระบวนการ ผมไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดหรือมีส่วนร่วมในการกระทำผิด”
การปล่อยสินเชื่อธนาคารกรุงไทยให้กลุ่มบริษัทในเครือกฤษดามหานคร แรกเริ่มในการประชุมบอร์ดบริหารปล่อยสินเชื่อบริษัทนี้ ตนได้ท้วงติงในบอร์ดบริหารว่าสินเชื่อนี้ไม่สามารถอนุมัติให้ได้ หลังจากนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยฝ่ายตรวจสอบ เข้าตรวจสอบรายงานการประชุม การพิจารณาอนุมัติ ไม่พบว่าตนมีส่วนร่วมปล่อยสินเชื่อนี้ จึงไม่กล่าวโทษ ขณะเดียวกัน ธปท.กล่าวโทษผู้มีส่วนร่วมปล่อยสินเชื่อนี้ ทั้งนักการเมือง เอกชนและผู้บริหารธนาคารต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ปี 2549
หลังจากคดีถูกโอนให้ คณะกรรรมการตรวจสอบการกระทำที่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ไต่สวนข้อเท็จจริง รวบรวมพยาน หลักฐาน ซึ่ง คตส.ไม่ชี้มูลว่าตนมีความผิด หลังจากเรียกตนไปให้การหลายครั้งเกี่ยวกับสินเชื่อก้อนนี้ จึงมีมติตีตกข้อกล่าวหา โดยพิจารณาแล้วเห็นตนไม่ได้มีส่วนร่วมกระทำความผิด จึงไม่ได้ส่งไปอัยการให้ฟ้อง
กอบศักดิ์เผย ขึ้นค่าแรง 400-425 “ไม่ด่วน” จ่อทยอยขยับขึ้นเป็นขั้นบันได
วันที่ 5 ก.ค. 2562 เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้กล่าวถึงนโบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400-425 บาทต่อวัน ซึ่งเป็นนโยบายที่ทางพรรคใช้หาเสียงเอาไว้ โดยระบุว่าตอนนี้ยังไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน เพราะการขยับขึ้น 400-425 บาทในทีเดียวจะมีผลกระทบต่อภาคเอกชนแน่นอน พรรคพลังประชารัฐ จึงจะเสนอให้ขึ้นค่าแรงในลักษณะเป็นขั้นบันได และทุกจังหวัดก็ไม่ใช่ว่าจะได้ค่าแรงเหมือนกัน ขึ้นกับทักษะ การประกอบอาชีพ ทั้งนี้วิธีการขึ้นค่าแรงแบบขั้นบันได ก็จะใช้กับนโยบายค่าแรงของปริญญาตรีขั้นต่ำที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้ 20,000 บาท/คน ส่วนผู้ที่จบอาชีวะ 18,000 บาท/คน
ชื่นมื่น ทรัมป์เหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือ หารือยุติโครงการนิวเคลียร์
วันที่ 30 มิ.ย. 2562 เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้พบกับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่เขตปลอดทหารระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ที่หมู่บ้านปันมุนจอมแบบไม่คาดคิดแล้ว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 มิ.ย. 2562 ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นการพบกันครั้งที่ 3 ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ กับคิม จองอึน เพื่อหารือในเรื่องการยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม เมื่อปลายเดือน ก.พ. 2562 ต้องยุติการประชุมกลางคันแบบไม่มีข้อตกลงใดๆ
ภาพประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์เดินก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือ ก้าวย่างเข้าไปในเขตดินแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งคิม จองอึน รอต้อนรับอยู่ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ได้เหยียบย่างรอยเท้าลงไปบนแผ่นดินเกาหลีเหนือ ก่อนที่ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะจับมือ และหันมาถ่ายรูปคู่กันด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี โดยคิม จองอึน กล่าวว่า เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้พบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่นี่