ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2560: “รวบ ‘ผู้ต้องสงสัย’ บึม รพ.พระมงกุฎ” และ “ไอเอสแฝงตัวทุกจังหวัดอินโดฯ”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2560: “รวบ ‘ผู้ต้องสงสัย’ บึม รพ.พระมงกุฎ” และ “ไอเอสแฝงตัวทุกจังหวัดอินโดฯ”

17 มิถุนายน 2017


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2560

  • รวบ “ผู้ต้องสงสัย” บึม รพ.พระมงกุฎ
  • สนช. ยกร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ “ขาดลงมติได้ไม่จำกัด”
  • ทุ่ม 971 ล้าน จ้าง นศ. สำรวจ 14 ล้านคนจน
  • ฟันทีมวิศวกรอิตาเลียนไทยพ้นหน้าที่ หลังเกิดเหตุซ้ำซาก
  • ไอเอสแฝงตัวทุกจังหวัดอินโดฯ
  • รวบ “ผู้ต้องสงสัย” บึม รพ.พระมงกุฎ

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ไทยโพสต์ (https://goo.gl/dWh12k)

    วันที่ 16 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังเข้าจับกุมชายวัย 62 ปี ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยจากการเข้าจับกุมและตรวจค้นทั้งที่บ้านพักและคอนโดมิเนียมอีก 2 จุดนั้น พบวงจรประกอบระเบิด ตะปูเกลียว เชื้อปะทุหรือดินระเบิด บัตรพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตพร้อมสายคล้องคอ รวมถึงนาฬิกาแบบแขวนที่เป็นรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป และได้นำตัวไปสอบสวนที่กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11) โดยที่เจ้าตัวยังคงปฏิเสธ ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำคนเดียว คาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการด้วย

    ส่วนที่มาของการเข้าจับกุมและตรวจค้นนั้น เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า เกิดจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.พระมงกุฎเกล้าในวันเกิดเหตุ ซึ่งพบบุคคลต้องสงสัยเดินผ่านเข้ามาทางประตูทางเข้าของ รพ. มุ่งหน้ามาที่ห้องวงษ์สุวรรณ มีลักษณะผอมสูงประมาณ 160-165 ซม. ใส่เสื้อสีน้ำตาลอ่อน กางเกงสีเทา ใส่หน้ากากอนามัย รองเท้าหนัง โดยมือซ้ายถือถุงหิ้วคล้ายถุงผ้าสีขาว มีสิ่งของโผล่ออกมาลักษณะคล้ายดอกไม้ใส่แจกัน เดินตรงเข้ามาแล้วเลี้ยวเข้าไปในห้องวงษ์สุวรรณ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินออกมา แต่กลับไม่ถือสิ่งของออกมาด้วย

    สนช. ยกร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ “ขาดลงมติได้ไม่จำกัด”

    ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (https://www.matichon.co.th/?p=582423)

    15 มิ.ย. 2460 เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ในการประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 16 มิ.ย. 2560 จะมีการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม สนช. ใหม่ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยมีสาระำคัญประการหนึ่งคือการตัดข้อบัลคับที่ว่าสมาชิก สนช. ต้องมาแสดงตนลงมติในการประชุมสภามากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนครั้งที่มีการลงมติทั้งหมด

    นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ยอมรับว่ามีการตัดเนื้อหาดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ได้มีการระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วยเหลือให้ สมาชิก สนช. ขาดประชุมได้ ทั้งยังสั่งให้ประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ กำชับกับสมาชิกว่าแม้ไม่มีเนื้อหาดังกล่าวก็ขอให้มาประชุมลงมติทุกครั้งเพื่อรักษามาตรฐาน

    ทุ่ม 971 ล้าน จ้าง นศ. สำรวจ 14 ล้านคนจน

    เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า วันที่ 13 มิ.ย.2560 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบรายงานความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 โดยมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 14,180,336 คน หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะร่วมกับหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน ได้แก่ กรมการปกครองและกรมที่ดิน กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงินจากประชาชน คาดว่าจะตรวจสอบหลักเกณฑ์ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ก.ค. 2560 นอกจากนี้ยังอนุมัติงบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินปี 2560 วงเงิน 971 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการว่าจ่างนักศึกษาจำนวน 7 หมื่นคน ในการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ส.ค. 2560

    ฟันทีมวิศวกรอิตาเลียนไทยพ้นหน้าที่ หลังเกิดเหตุซ้ำซาก

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (https://goo.gl/9bY3Ce)

    13 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังเชิญตัวแทน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุ อุปกรณ์ก่อสร้างโครงการตกใส่กระจกรถประชาชนจนได้รับความเสียหายว่า สาเหตุเกิดจากผู้รับเหมาไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการก่อสร้างและขั้นตอนความปลอดภัยในการทำงานที่กำหนดไว้ จึงเป็นทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

    เบื้องต้นจะลงโทษโดยการสั่งให้ทีมวิศวกรงานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลียนไทย และทีมที่ปรึกษาพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างและควบคุมงานก่อสร้างในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยให้มีการส่งเจ้าหน้าที่ก่อสร้าง วิศวกร และทีมที่ปรึกษาชุดใหม่มาปฏิบัติงานแทนชุดเดิม ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายนั้นอิตาเลียนยินดี ยอมชดใช้ค่าเสียหายเปลี่ยนกระจกใหม่ให้แล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาตกลงค่าทำขวัญให้เจ้าของรถด้วย

    อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้ออกมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในการก่อสร้างเพิ่มเติมโดย 1. กำหนดให้ผู้รับเหมาต้องตรวจสอบความปลอดภัยและความพร้อมของอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างในทุกๆ เช้าก่อนปฏิบัติงาน จากนั้นต้องเชิญที่ปรึกษางานก่อสร้างเข้ามาตรวจสอบรับรองและต้องทำการแขวนป้ายมีข้อความแสดงว่าตรวจสอบผ่านแล้วอนุญาตก่อนทุกครั้ง 2. จะจัดชุดลาดตระเวนออกไปตรวจสอบว่าผู้รับเหมาได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยตามที่บริษัทที่ปรึกษารายงานหรือไม่ ทั้งในพื้นที่ที่กำลังปฏิบัติงานและในพื้นที่ที่เตรียมที่จะมีการปฏิบติงาน

    นอกจากนี้ ให้ผู้รับเหมาแสดงความพร้อมด้านความปลอดภัยในการทำงานเชิงรุก โดยให้มีการจัดทำแผนเพื่อรอรับการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ด้านบุคคลกร และเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง และเชิญให้ รฟท. เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยหากรายใดเชิญให้เข้าไปตรวจสอบบ่อย จะถือว่ามีสำนึกที่ดี หากไม่เชิญเลย ถือว่าไม่มีสำนึกซึ่ง รฟท. จะต้องเรียกตัวแทนมาพูดคุยสอบถาม

    ไอเอสแฝงตัวทุกจังหวัดอินโดฯ

    14 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า พล.อ. กาต็อต นูร์มันตโย ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560 ว่า การข่าวด้านความมั่นคงพบว่ามีสาวกกลุ่มไอเอสและเครือข่ายที่รอเวลาและโอกาสในการออกปฏิบัติการโดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งภายใต้โครงสร้างที่มีสายการบังคับบัญชา หรือที่เรียกว่า “เซลล์ที่นอนหลับ” แทรกซึมเป็นวงกว้างในแทบทุกพื้นที่ของ 34 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นเพียงไม่กี่จังหวัด เช่น จังหวัดปาปัวที่อยู่ทางตะวันตกและมีพลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์

    ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซียระบุว่า แม้กลุ่มไอเอสและแนวร่วมในอินโดนีเซียยังไม่เคลื่อนไหวมากในตอนนี้ แต่มีโอกาสที่เซลล์ที่นอนหลับนี้จะยกระดับกลายเป็นเซลล์หัวรุนแรงได้ทุกเมื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเฝ้าระวังขั้นสูงสุดตลอดเวลา

    นอกจากนี้ พล.อ. นูร์มันตโย เปิดเผยว่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย อยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลังลาดตระเวนทางทะเลร่วมกัน บริเวณน่านน้ำที่เป็นพรมแดนรอยต่อระหว่างทั้งสามประเทศด้วย

    กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตื่นตัวเรื่องภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธมอเต้ที่เป็นแนวร่วมของกลุ่มไอเอสปะทุขึ้นในเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา และยังคงยืดเยื้อจนถึงขณะนี้โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักรบกลุ่มติดอาวุธ

    ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย. 2560) ทางการสิงคโปร์ได้จับกุมหญิงสาวต้องสงสัยเตรียมเดินทางไปแต่งงานกับสมาชิกกลุ่มไอเอสในซีเรีย ซึ่งถือเป็นหญิงสิงคโปร์รายแรกที่ต้องสงสัยว่ามีแนวคิดหัวรุนแรง ท่ามกลางความกังวลว่ากลุ่มไอเอสจะขยายเครือข่ายมากขึ้นในภูมิภาค