ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 มิ.ย. 2560
รวบ “ผู้ต้องสงสัย” บึม รพ.พระมงกุฎ

วันที่ 16 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้สนธิกำลังเข้าจับกุมชายวัย 62 ปี ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นผู้วางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมา โดยจากการเข้าจับกุมและตรวจค้นทั้งที่บ้านพักและคอนโดมิเนียมอีก 2 จุดนั้น พบวงจรประกอบระเบิด ตะปูเกลียว เชื้อปะทุหรือดินระเบิด บัตรพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตพร้อมสายคล้องคอ รวมถึงนาฬิกาแบบแขวนที่เป็นรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบต่อไป และได้นำตัวไปสอบสวนที่กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11) โดยที่เจ้าตัวยังคงปฏิเสธ ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำคนเดียว คาดว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการด้วย
ส่วนที่มาของการเข้าจับกุมและตรวจค้นนั้น เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานว่า เกิดจากการตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดของ รพ.พระมงกุฎเกล้าในวันเกิดเหตุ ซึ่งพบบุคคลต้องสงสัยเดินผ่านเข้ามาทางประตูทางเข้าของ รพ. มุ่งหน้ามาที่ห้องวงษ์สุวรรณ มีลักษณะผอมสูงประมาณ 160-165 ซม. ใส่เสื้อสีน้ำตาลอ่อน กางเกงสีเทา ใส่หน้ากากอนามัย รองเท้าหนัง โดยมือซ้ายถือถุงหิ้วคล้ายถุงผ้าสีขาว มีสิ่งของโผล่ออกมาลักษณะคล้ายดอกไม้ใส่แจกัน เดินตรงเข้ามาแล้วเลี้ยวเข้าไปในห้องวงษ์สุวรรณ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินออกมา แต่กลับไม่ถือสิ่งของออกมาด้วย
สนช. ยกร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ “ขาดลงมติได้ไม่จำกัด”

15 มิ.ย. 2460 เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ในการประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 16 มิ.ย. 2560 จะมีการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม สนช. ใหม่ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยมีสาระำคัญประการหนึ่งคือการตัดข้อบัลคับที่ว่าสมาชิก สนช. ต้องมาแสดงตนลงมติในการประชุมสภามากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนครั้งที่มีการลงมติทั้งหมด
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช. ยอมรับว่ามีการตัดเนื้อหาดังกล่าวออกไป เนื่องจากไม่ได้มีการระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการช่วยเหลือให้ สมาชิก สนช. ขาดประชุมได้ ทั้งยังสั่งให้ประธานกรรมาธิการคณะต่างๆ กำชับกับสมาชิกว่าแม้ไม่มีเนื้อหาดังกล่าวก็ขอให้มาประชุมลงมติทุกครั้งเพื่อรักษามาตรฐาน
ทุ่ม 971 ล้าน จ้าง นศ. สำรวจ 14 ล้านคนจน
เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า วันที่ 13 มิ.ย.2560 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบรายงานความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 โดยมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 14,180,336 คน หลังจากนี้กระทรวงการคลังจะร่วมกับหน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน ได้แก่ กรมการปกครองและกรมที่ดิน กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่รับฝากเงินจากประชาชน คาดว่าจะตรวจสอบหลักเกณฑ์ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ก.ค. 2560 นอกจากนี้ยังอนุมัติงบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินปี 2560 วงเงิน 971 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าดำเนินการว่าจ่างนักศึกษาจำนวน 7 หมื่นคน ในการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ลงทะเบียนภายในวันที่ 31 ส.ค. 2560
ฟันทีมวิศวกรอิตาเลียนไทยพ้นหน้าที่ หลังเกิดเหตุซ้ำซาก

13 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า นายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังเชิญตัวแทน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มาชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเกิดเหตุ อุปกรณ์ก่อสร้างโครงการตกใส่กระจกรถประชาชนจนได้รับความเสียหายว่า สาเหตุเกิดจากผู้รับเหมาไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการก่อสร้างและขั้นตอนความปลอดภัยในการทำงานที่กำหนดไว้ จึงเป็นทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
เบื้องต้นจะลงโทษโดยการสั่งให้ทีมวิศวกรงานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลียนไทย และทีมที่ปรึกษาพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างและควบคุมงานก่อสร้างในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยให้มีการส่งเจ้าหน้าที่ก่อสร้าง วิศวกร และทีมที่ปรึกษาชุดใหม่มาปฏิบัติงานแทนชุดเดิม ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายนั้นอิตาเลียนยินดี ยอมชดใช้ค่าเสียหายเปลี่ยนกระจกใหม่ให้แล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาตกลงค่าทำขวัญให้เจ้าของรถด้วย
อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้ออกมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในการก่อสร้างเพิ่มเติมโดย 1. กำหนดให้ผู้รับเหมาต้องตรวจสอบความปลอดภัยและความพร้อมของอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างในทุกๆ เช้าก่อนปฏิบัติงาน จากนั้นต้องเชิญที่ปรึกษางานก่อสร้างเข้ามาตรวจสอบรับรองและต้องทำการแขวนป้ายมีข้อความแสดงว่าตรวจสอบผ่านแล้วอนุญาตก่อนทุกครั้ง 2. จะจัดชุดลาดตระเวนออกไปตรวจสอบว่าผู้รับเหมาได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยตามที่บริษัทที่ปรึกษารายงานหรือไม่ ทั้งในพื้นที่ที่กำลังปฏิบัติงานและในพื้นที่ที่เตรียมที่จะมีการปฏิบติงาน
นอกจากนี้ ให้ผู้รับเหมาแสดงความพร้อมด้านความปลอดภัยในการทำงานเชิงรุก โดยให้มีการจัดทำแผนเพื่อรอรับการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย ด้านบุคคลกร และเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง และเชิญให้ รฟท. เข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยหากรายใดเชิญให้เข้าไปตรวจสอบบ่อย จะถือว่ามีสำนึกที่ดี หากไม่เชิญเลย ถือว่าไม่มีสำนึกซึ่ง รฟท. จะต้องเรียกตัวแทนมาพูดคุยสอบถาม
ไอเอสแฝงตัวทุกจังหวัดอินโดฯ
14 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า พล.อ. กาต็อต นูร์มันตโย ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560 ว่า การข่าวด้านความมั่นคงพบว่ามีสาวกกลุ่มไอเอสและเครือข่ายที่รอเวลาและโอกาสในการออกปฏิบัติการโดยไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งภายใต้โครงสร้างที่มีสายการบังคับบัญชา หรือที่เรียกว่า “เซลล์ที่นอนหลับ” แทรกซึมเป็นวงกว้างในแทบทุกพื้นที่ของ 34 จังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้นเพียงไม่กี่จังหวัด เช่น จังหวัดปาปัวที่อยู่ทางตะวันตกและมีพลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์
ผู้บัญชาการกองทัพอินโดนีเซียระบุว่า แม้กลุ่มไอเอสและแนวร่วมในอินโดนีเซียยังไม่เคลื่อนไหวมากในตอนนี้ แต่มีโอกาสที่เซลล์ที่นอนหลับนี้จะยกระดับกลายเป็นเซลล์หัวรุนแรงได้ทุกเมื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเฝ้าระวังขั้นสูงสุดตลอดเวลา
นอกจากนี้ พล.อ. นูร์มันตโย เปิดเผยว่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย อยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองกำลังลาดตระเวนทางทะเลร่วมกัน บริเวณน่านน้ำที่เป็นพรมแดนรอยต่อระหว่างทั้งสามประเทศด้วย
กลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตื่นตัวเรื่องภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธมอเต้ที่เป็นแนวร่วมของกลุ่มไอเอสปะทุขึ้นในเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา และยังคงยืดเยื้อจนถึงขณะนี้โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักรบกลุ่มติดอาวุธ
ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (12 มิ.ย. 2560) ทางการสิงคโปร์ได้จับกุมหญิงสาวต้องสงสัยเตรียมเดินทางไปแต่งงานกับสมาชิกกลุ่มไอเอสในซีเรีย ซึ่งถือเป็นหญิงสิงคโปร์รายแรกที่ต้องสงสัยว่ามีแนวคิดหัวรุนแรง ท่ามกลางความกังวลว่ากลุ่มไอเอสจะขยายเครือข่ายมากขึ้นในภูมิภาค