ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 17-23 มิ.ย. 2560
ม.44 ปลดล็อกที่ สปก. ใช้ประโยชน์ธุรกิจพลังงาน
ที่มาภาพ: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (https://goo.gl/an9XGF)
วันที่ 20 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ในการเปิดทางให้ 3 กิจการ บนที่ดินของ ส.ป.ก. ประกอบด้วย 1. การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2. การวางกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้า และ 3. การทำเหมืองแร่ ที่ได้ดำเนินการไปแล้วสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยถือว่าไม่เป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
อย่างไรก็ตาม กิจการทั้ง 3 กิจการที่กำลังจะขออนุญาตใหม่นั้น จะต้องพิจารณาเป็นกรณี และต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ คือ กิจการที่จะใช้บังคับมาตรา 44 ได้ ต้องเป็นกิจการที่สอดคล้องกับยุทธศาตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งต้องกำหนดชัดเจนว่าจะนำค่าตอบแทนที่ได้จากการใช้ที่ดินนี้ไปใช้ในการสาธารณประโยชน์ กำหนดเงื่อนไขการทำ CSR ให้ชัดเจน และกำหนดแผนการฟื้นฟูที่ดินเป็นระยะ
“ที่ประชุมมีคำสั่งใช้ม.44 เพื่อปลดล็อคที่ของ ส.ป.ก. ไปใช้ในกิจการสาธารณะได้ 3 อย่าง แต่จะต้องเป็นกิจการที่ได้เคยขออนุญาตไปแล้ว แต่หากกำลังจะขออนุญาตต้องสอดคล้องกับเงื่อนไข” พล.ท. สรรเสริญ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ มีความเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า การประกอบกิจการปิโตรเลียมนับเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลให้มีการแสวงหาและพัฒนาแหล่งพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งหากมีการใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ที่เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรมมาดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องพิจารณาถึงประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับนอกเหนือไปจากการทำเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะการชดเชยโดยตรงให้กับเกษตรกรผู้ถือครองสิทธิ์ในพื้นที่นั้นๆ และหากมีการนำผลประโยชน์ที่ได้ส่งเข้ากองทุนเพื่อเกษตรกรตามข้อเสนอของ ส.ป.ก. กรมฯ ก็ไม่ขัดข้อง
กสทช. “เป็นห่วง” เฟซบุ๊ก-กูเกิล ไม่จดทะเบียน OTT จะทำธุรกิจลำบาก
ที่มาภาพ: เว็บไซต์ กสทช. (https://goo.gl/BjD1i9)
เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า พ.อ. นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ OTT (Over The Top) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2560 สภานักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เดินทางมาพบคณะกรรมการ กสทช. เพื่อสอบถามเรื่องการกำกับ OTT ซึ่งตนเองได้อธิบายไปถึงขั้นตอนการดำเนินการที่ทำมาตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2560 มีการรับฟังความคิดเห็น 10 ครั้ง และมีการเชิญทั้งเฟซบุ๊กและกูเกิลทั้งในประเทศไทยและสิงคโปร์มาร่วมรับฟังความคิดเห็นด้วย 3-4 ครั้ง แต่ทั้ง 2 บริษัทก็ส่งเพียงตัวแทนฝ่ายกฎหมายมาบ้าง ตัวแทนผ่านทางสมาคมธุรกิจมาบ้าง จนกระทั่งวันนี้เองก็ไม่เห็นว่า บริษัททั้ง 2 รายมาพูดคุยด้วยแต่อย่างใด จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจมาก เพราะตนเองได้แจ้งผ่านทางสภาฯ ดังกล่าวว่า หากทั้ง 2 บริษัทไม่มาแจ้งลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ OTT กับ กสทช. แม้ว่าจะยังให้บริการต่อไปได้ก็ตาม แต่ในเรื่องของการประกอบธุรกิจอาจลำบาก ซึ่งตนและคณะอนุกรรมการยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าลำบากอย่างไร เพราะอยู่ระหว่างการหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนก่อน
ที่มาภาพ: https://goo.gl/ttnWqU
วันที่ 23 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์วอยซ์ทีวีรายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงขั้นตอนในการดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้ในคดีอาญาอยู่ที่ศาลฏีกา แผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และในคดีแพ่งอยู่ในศาลปกครอง ขณะเดียวกัน กรมบังคับคดีก็สามารถดำเนินการยึดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่ดำเนินการ เพราะยังไม่พบว่ามีทรัพย์สินอยู่ที่ใดบ้าง ดังนั้นต้องตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมด และยังไม่มีคำสั่งทางปกครองทุเลาการยึดทรัพย์ออกมาด้วย รวมถึงคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมณ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก แต่จะแตกต่างจากนางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะมีคดีอยู่ในศาลฎีกาและคดียึดทรัพย์ทางแพ่งในศาลปกครอง และคดีการทุจริตจำนำข้าวในลอตอื่นๆ ที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.
ขณะที่ความคืบหน้าคดีที่มีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง 800 คดีที่อยู่ในการพิจารณาของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ว่า ได้มีการรายงานความคืบหน้าให้ตนรับทราบมาโดยตลอด และยังไม่สามารถตอบได้ว่าคดีดังกล่าวนั้นแล้วเสร็จไปแล้วกี่คดี เนื่องจากมีการแบ่งจำแนกในหลายประเภท
ธปท. เตรียมปรับเกณฑ์สายรูด รายได้น้อย-วงเงินต่ำ
วันที่ 22 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสถาบันการเงินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เตรียมออกประกาศถึงธนาคารพาณิชย์ และบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล (personal loan) ภายใต้กำกับ โดยจะกำหนดเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันทุกประเภท เช่น บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับผู้สมัครบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสด สินเชื่อผ่อนชำระ 0% ต่าง ๆ สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน โดยจำกัดการอนุมัติสินเชื่อเหลือเพียง 1.5 เท่าของรายได้ จากเดิมที่มีการกำหนดเกณฑ์การให้สินเชื่อไม่เกิน 5 เท่าของรายได้ การจำกัดวงเงินสินเชื่อดังกล่าวจะส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวด และปฏิเสธการให้สินเชื่อใหม่ กับผู้ที่มีสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพราะนอกจากสถาบันการเงินจะต้องปรับเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ ตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. ที่ไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้แล้ว ธนาคาร หรือบริษัทบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคลอาจจะต้องมีการปรับฐานการอนุมัติการให้สินเชื่อภายในธนาคารลงด้วย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการบังคับใช้ภายในกลางเดือน ก.ค. นี้
เกลียดมุสลิม เหยียบมิดชนคนหน้ามัสยิดในลอนดอน
วันที่ 19 มิ.ย. 2560 เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า เกิดเหตุคนขับรถตู้พุ่งเข้าชนคนบริเวณหน้ามัสยิดในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 8 ราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นชายวัย 48 ปีได้ในบริเวณใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ผู้หนึ่งเผยกับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า ผู้ต้องสงสัยลงจากรถหลังก่อเหตุ แล้วร้องตะโกนว่า “พวกมุสลิมไปอยู่ไหนกันหมด ฉันอยากจะฆ่าพวกมันให้หมด”
สำนักงานตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรง เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีผู้สัญจรไปมาพลุกพล่านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่มาร่วมศาสนกิจในคืนวันศุกร์และละศีลอดที่มัสยิดฟินส์บรี ส่วนการสืบสวนในขณะนี้ ตำรวจระบุว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเหตุก่อการร้าย และกำลังดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปในแนวทางดังกล่าว
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
