ThaiPublica > เกาะกระแส > เตรียมประเมิน ICAO ใหม่เดดไลน์ 30 มิ.ย. สายการบินออก AOC ไม่ผ่าน หยุดบินระหว่างประเทศ

เตรียมประเมิน ICAO ใหม่เดดไลน์ 30 มิ.ย. สายการบินออก AOC ไม่ผ่าน หยุดบินระหว่างประเทศ

24 มีนาคม 2017


นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.)

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2560 ที่กระทรวงคมนาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (กบร.)

สายการบินออก AOC ไม่ทัน 30 มิ.ย. หยุดบิน ตปท.

จากกำหนดเวลาที่ปรับให้องค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO)เข้าตรวจประเมินเร็วขึ้นอาจทำให้ไม่สามารถออกใบอนุญาตการเดินอากาศใหม่(AOC Recertification) ได้ครบทั้ง 23 สายการบิน ก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2560 กพท. จึงปรับแผนการออกใบรับรองการเดินอากาศใหม่

ภายหลังการประชุม นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า ในวันที่ 4 เมษายน 2560 กพท. จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจกับสายการบินทั้งหมด 14 สายการบิน เพื่อให้รับทราบและรับกับสถานการณ์ ว่าหลังจากวันที่ 30 มิถุนายน 2560 เป็นต้น สายการบินเหล่านี้จะอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถบินระหว่างประเทศได้ หากไม่ได้ใบรับรองการเดินอากาศใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงทำการบินในประเทศได้ต่อไป

“หากเราไม่ทำแบบนั้น จะยื่นขอให้ ICAO มาตรวจประเมินใหม่เพื่อปลดธงแดงไม่ได้ เพราะต้องการปลดธงแดงให้ได้ภายในปีนี้ แต่ที่สุดแล้วตามกระบวนการ สมมติเราขีดเส้นใต้วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 จะหยุดให้บริการระหว่างประเทศ ในระหว่างนี้ใครที่ผ่านกระบวนการออกใบรับรองการเดินอากาศใหม่ก็มาบินต่อได้ แต่ถ้าเมื่อไรประเทศปลดธงแดงได้ก็บินได้ทั้งหมด แต่การจะขอตรวจใหม่จาก ICAO การแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concerns: SSC) ก็ต้องเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งตอนนี้คืบหน้าแล้ว 70% ทาง กพท. ได้เตรียมความพร้อมบุคคลที่จะเป็นผู้ชี้แจงและตอบคำถาม ICAO ไว้แล้ว”

ทั้งนี้ การตรวจสอบและประเมินเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ ปัจจุบันมีสายการบินของไทยได้ใบรับรองฯ แล้ว 1 สายการบิน คือ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์

นายจุฬากล่าวว่า ภายในเดือนเมษายน 2560 จะสามารถออกใบรับรองฯ ให้ได้อีก 2 สายการบิน คือ บมจ.การบินไทย (THAI) และสายการบินไทยแอร์เอเชีย และคาดว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2560 จะสามารถออกใบรับรองฯ ให้สายการบินที่ทำการบินต่างประเทศ 12 สายการบิน จากทั้งหมด 23 สายการบิน ก่อนที่ กพท. จะยื่นขอให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศเข้าตรวจสอบ

“ต่อจาก 3 สายการบินแรก สายการบินถัดมาที่จะเข้าดำเนินการตรวจคือ สายการบินนกสกู๊ต สายการบินไทยสมายล์ และสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ ซึ่งสายการบินไทยสมายล์เริ่มเข้ากระบวนการที่ 4.1 แล้ว (การตรวจสอบการปฏิบัติการบิน) ยังมีสายการบินที่ติดค้างในขั้นตอนที่ 3 อยู่คือ สายการบินโอเรียนท์ไทย และสายการบิน เค-ไมล์”

นายจุฬากล่าวต่อไปว่า หลังจากดำเนินการออกใบรับรองฯ ให้แก่ 9 สายการบินหลัก ได้แก่ สายการบินการบินไทย, บางกอกแอร์เวย์, ไทยแอร์เอเชีย, สายการบินไทยสมายด์, เค-ไมล์ แอร์, สายการบินนกแอร์, โอเรียนท์ไทย แอร์ไลน์, สายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ และสายการบินนกสกู๊ต จะมีการจัดลำดับใหม่เพื่อให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น โดยสายการบินใดที่มีความพร้อมสามารถแสดงความจำนงเข้ากระบวนการออกใบรับรองฯ ได้ก่อน และทาง กพท. จะพิจารณาจัดลำดับตามปริมาณผู้โดยสารร่วมด้วย

เบื้องต้นได้มี 10 สายการบินที่เข้าแสดงความจำนงเข้ากระบวนการออกใบรับรองฯ เร็วขึ้น ได้แก่ ไทยไลออน แอร์, สายการบินสบายดี, สยามแอร์, สายการบินเอ็มเจ็ท, สายการบิน เอซี เอวิเอชั่น, ไทย ฟลายอิ้ง เซอร์วิส, สยามแลนด์ ฟลายอิ้ง, สายการบินวีไอพี เจ็ท, สายการบินเอช เอส เอวิเอชั่น และสายการบินไทย เวียดเจ็ท ที่ยื่นแสดงความจำนงเข้ามาช้ากว่ากำหนด และเหลืออีก 4 สายการบินที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงเข้ามา

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ผ่านขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจสอบและได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ตามมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ที่มาภาพ: http://www.bangkokair.com

“เนื่องจากได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะยื่นขอให้ ICAO เข้าตรวจในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เท่ากับเลื่อนขึ้นมา 6 เดือน จากแผนเดิมเป็นเดือนมกราคมปี 2561 ทั้ง 23 สายการบินได้ผ่านขั้นตอนเฟส 1-2 มาแล้ว แต่บางรายอาจยังไม่พร้อม เพราะคิวเดิมของเขาอยู่เดือนตุลาคม ซึ่งในสายการบินที่ยังไม่พร้อมก็จะถูกจัดอยู่ในลำดับหลังโดยทาง กพท. จะเป็นผู้จัดลำดับให้เอง”

มั่นใจผลประเมินเดือน พ.ค. EASA ไม่แบน

สำหรับการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัย (Universal Security Audit Programme: USAP) ในเดือนกรกฎาคม 2560  นายจุฬากล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ในขั้นการเตรียมเอกสารที่จะส่งให้ ICAO เนื่องจากต้องส่งเอกสารไปให้เขาล่วงหน้า 2 เดือน โดยต้องส่งไปในเดือนพฤษภาคม2560

“ตอนนี้ดำเนินการไป 50% แล้ว ในรายงานก็จะแจ้งว่าสถานะปัจจุบันของไทยเป็นอย่างไรแล้ว เขาก็จะเตรียมไว้ตอนมาตรวจเดือนกรกฎาคมอีกที”

ด้านสถานการณ์จากหน่วยงานความปลอดภัยการบินยุโรป (European Aviation Safety Agency: EASA) ยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ภายหลังที่ไทยเข้ารายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาด้านการบินครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา

นายจุฬากล่าวว่า ทาง EASA ค่อนข้างพอใจในความก้าวหน้าของไทย ซึ่งได้รับคำชมว่าเห็นความก้าวหน้าในรอบนี้ค่อนข้างเยอะ เห็นอะไรเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น มั่นใจว่าเมื่อมีการประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ในเดือนเมษายน 2560 จะไม่มีรายชื่อประเทศไทยในกลุ่มที่ถูกแบน

ต่อกรณีกระแสข่าวที่สหรัฐอเมริกาห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่องบิน นายจุฬาระบุว่ากรณีดังกล่าวเป็นรักษาความปลอดภัยที่ทางสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลมาว่าจะมีกรณีการก่อการร้าย จึงตรวจสอบและสั่งห้ามเที่ยวบินที่เห็นว่ามีความเสี่ยง ในเที่ยวบินจาก 10 สนามบิน ใน 8 ประเทศ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อไทย

“ปกติเขาจะไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว ที่จะทำให้คนร้ายรู้ตัว การแบนในลักษณะนี้ หรือการให้ข้อมูลในลักษณะนี้จะเป็นกรณีเฉพาะ ท่าอากาศยานนั้นของประเทศเหล่านั้นไปยังสถานีปลายทางบางสนามบินเท่านั้น เช่น ห้ามจากดูไบไปนิวยอร์ก บนสายการบินนี้เท่านั้น ผลจะไม่กระทบต่อการบินไปไฟลต์อื่นของสายการบินอื่น หรือสนามบินอื่นของอเมริกา ซึ่งของอังกฤษก็มีการติดประกาศตามมาอีกวันหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ต่างไปจากกรณีที่สายการบินแต่ละแห่งห้ามนำ สมาร์ทโฟน ซัมซุง รุ่นกาแล็คซี่ โน๊ต  7 ขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเป็นคำเตือนจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration: FAA) เรื่องความปลอดภัยที่ประกาศโดยทั่วกัน และมีการประกาศตามหลายหน่วยงานของต่างประเทศ

นอกจากนี้ นายจุฬาเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคมจะนำเรื่องการกำหนดเพดานราคาสายการบินชั้นประหยัดรอบใหม่เข้าที่ประชุม กบร. เนื่องจากมีการปรับครั้งสุดท้ายในปี 2553 ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไป จึงต้องทบทวนเรื่องดังกล่าวใหม่

“ปัจจุบันมีเพดานอยู่ที่ 13 บาท ที่เราจะทำอีกอันคือจะมีเพดานสำหรับโลว์คอสต์ที่ไม่มีการบริการอะไรเลย ใครมีบริการเพิ่มจะเป็นอย่างไรก็ว่าอีกที เท่ากับเราจะมี 2 ฐาน Full service และ Non service”