ThaiPublica > เกาะกระแส > อธิบดีกรมสรรพากรดึงร้านขายยากว่า 2 หมื่นราย เข้าสู่ National e-Payment – คิวต่อไปเล็งกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว

อธิบดีกรมสรรพากรดึงร้านขายยากว่า 2 หมื่นราย เข้าสู่ National e-Payment – คิวต่อไปเล็งกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว

8 กันยายน 2016


เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2559 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานในการสัมมนาเรื่อง “ธุรกิจก้าวหน้า ร้านขายยาสู่สากล” โดยมีผู้ประกอบธุรกิจร้านขายยาที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์พัฒนาคุณภาพร้านยาแห่งประเทศไทย (สพย.) เข้าร่วมงานสัมมนาประมาณ 400 คน ทั้งนี้กรมสรรพากรได้ตั้งเป้าหมายที่จะเชิญชวนร้านขายยาทั่วประเทศเกือบ 2 หมื่นราย เปลี่ยนสถานะการประกอบธุรกิจ จากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคลโดยกรมสรรพากรได้ให้คำแนะนำถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการจัดทำบัญชีชุดเดียว รวมทั้งเติมความรู้ให้พร้อมก่อนเข้าสู่ระบบ National e-Payment

นายประสงค์ เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมสรรพากรเร่งขยาย ฐานภาษีตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเชิญชวนให้ผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพิ่มขึ้น มีการแนะนำให้จัดทำบัญชีชุดเดียวพร้อมเสริมความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบ National e-Payment โดยครั้งนี้ได้เชิญผู้ประกอบการร้านขายยาที่เป็นสมาชิกสมาพันธ์พัฒนาคุณภาพร้านยาแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย สมาคมร้านขายยา สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) และชมรมร้านขายยา ซึ่งมีสมาชิกทั่วประเทศจำนวน 21,318 ราย ในจำนวนนี้ประกอบกิจการในรูปแบบของบุคคลธรรมดาประมาณ 90% ที่เหลือ 10% ประกอบธุรกิจในรูปแบบของ Chain Store ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง พยายามสนับสนุนให้เข้ามาจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยกรมสรรพากรได้ประชุมหารือกับสมาพันธ์ฯ เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาให้ร้านขายยาเปลี่ยนผ่านสู่ระบบภาษีนิติบุคคลไว้ ดังนี้(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

ธุรกิจขายยาและมูลค่าทางธุรกิจ

1. ด้านการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยกรมสรรพากรจะนัดประชุมกับ อย. ในปลายเดือนกันยายน 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการโอนใบอนุญาตใบประกอบจากบุคคลธรรมดาไปสู่นิติบุคคล การพัฒนาระบบ e–Signature เพื่อรองรับการรับข้อมูลรายงานแบบ e-filing เกี่ยวกับรายงานควบคุมบัญชียา ซึ่งต้องลงลายมือชื่อของเภสัชกรกำกับไว้ในรายงานด้วย การกำหนดรหัสยาที่เป็นมาตรฐานเพื่อการควบคุมและออกรายงานตามที่ต้องการ และความร่วมมือกับ อย. ในการจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ร้านขายยาทั่วประเทศ

2. การประชุมร่วมกับผู้ผลิตซอฟต์แวร์เฮาส์และสมาคมร้านขายยา เพื่อร่วมกันกำหนด ความต้องการของผู้ใช้งาน (Requirement) ให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์เฮาส์พัฒนาโปรแกรมบันทึกการขายยา โปรแกรมบัญชีทางการเงินรวมเหลือเพียงโปรแกรมชุดเดียว และให้มีระบบแจ้งเตือนการควบคุมเรื่องการหมดอายุของยา แจ้งเตือนเมื่อมีการจ่ายยาบางประเภทที่ไม่สามารถจ่ายยาร่วมกันได้

“เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการสนับสนุนและลดภาระให้ผู้ประกอบการในการเปลี่ยนผ่าน จากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล สำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้แก่ ยกเว้นภาษีทางตรงและทางอ้อม กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ใดๆ หักรายจ่ายค่าจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ค่าทำบัญชี และค่าสอบบัญชี ได้ 2 เท่า เฉพาะนิติบุคคลที่มีทุนจดทะเบียนแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาทและรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท/รอบบัญชี รวมทั้งลดการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจาก 2% เหลือเพียง 0.01% การโอนใบอนุญาตในการประกอบกิจการของบุคคลธรรมดาให้แก่นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นใหม่ได้ และได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนวงเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติแล้ว เป็นต้น”นายประสงค์ กล่าว

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าในการขยายฐานภาษีกับกลุ่มผู้ประกอบการค้าทองคำกรมสรรพากรได้จัดการประชุมร่วมกับสมาคมค้าทองคำ สมาคมธุรกิจทองคำ ชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่งประเทศไทย และผู้ผลิตโปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป ซึ่งได้ร่วมกันสนับสนุนให้ผู้ประกอบ ร้านทองที่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วประเทศ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องแก่สมาชิกทั่วประเทศ ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้แจ้งให้สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ความร่วมมือกับชมรมผู้ค้าปลีกทองคำฯ และจัดเจ้าหน้าที่ไปร่วมเป็นวิทยากรบรรยายตามที่ร้องขอ โดยให้ถือว่าเป็นงานที่มีความสำคัญเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ด้วย

“สำหรับแผนงานการขยายฐานภาษีในระยะต่อไปจะให้ความสำคัญกับธุรกิจการท่องเที่ยว และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร นายหน้ารับจองที่พัก ธุรกิจให้เช่ารถนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ธุรกิจนันทนาการและธุรกิจเพื่อความบันเทิง ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นและได้ประสานงานเป็นการภายในกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแล้ว”อธิบดีกรมสรรพากรกล่าว