ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 30 ก.ค. – 5 ส.ค. 2559
ล่าไม่ได้ใช้เกาะแทน คลังชูโมเดล “เห็บสยาม”
วันที่ 2 ส.ค. 2559 เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวในระหว่างเปิดงานและปาฐกถาเรื่อง “เศรษฐกิจโลกขยับก้าว…เศรษฐกิจไทยขยับไกล:กบข.เดินหน้าอย่างไร” ซึ่งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดขึ้นว่า จากการสำรวจข้อมูลพบว่าที่ผ่านมาอัตราการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนลดลง แต่หากเข้าไปดูในข้อมูลพบว่าบัญชีที่มีเงินฝากเกิน 1 ล้านบาท มีมูลค่าเงินออมเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหลักทรัพย์มีการลงทุนลดลง โดยมูลค่าการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเหลือ 4.3 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสที่ 1/2559 จากช่วงไตรมาส 4/2558 มีมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 5.3 หมื่นล้านบาท แต่กลับพบว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 1/2559 เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน จากข้อมูลดังกล่าวแสดงว่าคนไทยมีเงินแต่ยังไม่ลงทุน หากอ้างอิงเหตุผลที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างมูดี้ส์และฟิทช์ เรทติ้งส์ พบว่านักลงทุนและคนไทยยังรอให้สถานการณ์การเมืองนิ่งก่อนจึงจะเริ่มลงทุน ดังนั้น หากการเมืองในช่วงที่เหลือเป็นไปอย่างเรียบร้อย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยที่เปรียบเสมือนท่อน้ำที่ปัจจุบันน้ำยังไหลเอื่อย หากการเมืองนิ่งจะมีน้ำไหลแรงได้อย่างแน่นอน
นายสมชัยกล่าวว่า สำหรับโมเดลเศรษฐกิจไทย ส่วนตัวมองว่าควรเป็น “เห็บสยามโมเดล” คือเติบโตไปกับประเทศต่างๆ แต่ไม่ทรุดตัวไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือเราจะไปเกาะประเทศที่โตดี เช่น จีน อินเดีย หรือแอฟริกาใต้ หากประเทศเหล่านี้โตเราจะโตตามไปด้วย กินจนเราอ้วน แต่เมื่อเกิดเศรษฐกิจขาลง เราจะย้ายไปโตกับประเทศอื่นแทน คือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับทุกประเทศ ไม่ใช่เป็นคู่แข่ง
สถานทูตตุรกีกล่าวหา “สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี” เอี่ยว รปห. 15 ก.ค.
วันที่ 2 ส.ค. 2559 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยโพสต์เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2559 ว่า กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี” มีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มนี้มีเครือข่ายในโรงเรียน บริษัท ธนาคาร และสื่อมวลชนจำนวนมาก เพื่อใช้ฟอกเงินและประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม
ประกาศของสถานทูตฯ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีพยายามเปิดโปงและระงับการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ที่สำคัญมีการเข้ามาดำเนินการในประเทศไทย โดยอ้างว่าเป็นสมาคมเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับตุรกี
นอกจากนี้ รัฐบาลตุรกียืนยันว่า กลุ่มนี้ไม่ได้เป็นผู้แทนของเอกชนตุรกี และไม่ได้รับการรับรองจากรัฐบาล ดังนั้น การทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศ จึงขอให้สมาคมเอกชน และหอการค้าของไทย ติดต่อกับสำนักงานส่งเสริมการค้าของสถานทูตโดยตรง
อย่างไรก็ตาม สมาคมธุรกิจไทย-ตุรกี ออกแถลงการณ์ตอบโต้ยืนยันว่า สมาคมไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายตามที่ถูกกล่าวหา และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายของไทย จึงไม่จำเป็นต้องได้รับการรับรองจากรัฐบาลตุรกี อีกทั้งได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้ามาโดยตลอด โดยนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของตุรกี นายบินาลี ยิลดิริม ได้ร่วมทำพิธีเปิดสมาคมเมื่อปี 2550 ด้วย
เทือกด่าแม้ว “โอหัง-หวังยกพวกไล่บิ๊กตู่”
เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2559 เวลา 10.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) แกนนำ กปปส. โพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ว่า ตนได้ติดตามข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ต่อมาลูกชายนายทักษิณออกมาทำเฟซบุ๊กยืนยันว่านายทักษิณไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยมีการประกาศกันในงานเลี้ยงวันเกิดที่มีคนสำคัญในพรรครักไทยไปรับนโยบายกันหลายคน เรื่องนี้ทุกคนเคยคิดฉงนใจหรือไม่ ว่าทำไมนายทักษิณถึงประกาศไม่รับร่างฯ เป็นเรื่องแปลก เพราะนายทักษิณไม่มีวันได้ลงประชามติ ไม่มีที่ให้ลง เพราะนายทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศไทย หนีคดีไปอยู่ดูไบ และเร่ร่อนไปอยู่ประเทศนั้นประเทศนี้ ใครเขาจะตามไปทำหน่วยเลือกตั้งรองรับนายทักษิณได้ จึงไม่มีทางได้ลงประชามติอยู่แล้ว
นายสุเทพกล่าวต่อว่า เรื่องนี้นายทักษิณก็รู้ แต่การที่ประกาศไม่รับร่างฯ เป็นการส่งสัญญาณ บอกสมุนบริวารให้ดำเนินการทุกวิถีทางที่จะคว่ำร่างฯ ฉบับนี้ และแกนนำพรรคเพื่อไทยก็ออกมาขานรับ ล่าสุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ประกาศก่อนไปขึ้นศาลในคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งคนในระบอบทักษิณเขาทำทุกอย่างเพื่อที่จะคว่ำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ ถึงขนาดพิมพ์รัฐธรรมนูญปลอม ทำจดหมายฝ่าฝืนกฎหมายประชามติ บิดเบือนข้อเท็จจริง พวกนี้ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รัฐธรรมนูญผ่าน เพราะพวกเขาเสียประโยชน์ ขาดทุน เพราะถ้ารัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติไปได้ ต่อไปคนชั่ว คนโกง คนทุจริตคอร์รัปชัน คนที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ไม่มีทางกลับเข้ามาเป็นนักการเมืองได้ และนายทักษิณก็เป็นบุคคลต้องห้าม ไม่มีสิทธิ์มาสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้ตลอดชีวิต และไม่มีวันที่จะรอราชรถมาเกยให้ใครเสนอชื่อเป็นนายกฯ ได้ เพราะในรัฐธรรมนูญระบุว่าให้พรรคการเมืองเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ได้ 3 ชื่อ และต้องไม่ใช่บุคคลต้องห้ามตามมาตรา 160 แต่นายทักษิณยังไม่เลิก ยังคงพยายามทำตัวเป็นผู้บงการประเทศไทย ส่งสัญญาณให้บริวารทำทุกอย่างเพื่อให้คว่ำรัฐธรรมนูญ
“ขอบอกเลยว่า นายทักษิณ โอหังมาก มีการเคลื่อนไหวว่า ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ พวกเขาจะออกมาขับไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ คสช. โดยอ้างว่าไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไป คนเหล่านี้เขามีแผนมีความตั้งใจที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น เพราะยังอยากที่จะกลับมามีอำนาจในประเทศไทยอีก เหตุที่คนเหล่านี้เคลื่อนไหว ยิ่งทำให้คนอย่างผมมีพลัง มีความตั้งใจ ที่จะไปทำหน้าที่ประชาชน เพื่อกำหนดอนาคตของประเทศไทยด้วยมือของเรา พาประเทศให้รอดพ้นจากอำนาจของนักการเมืองเลวในระบบทุนสามานย์ ไม่ให้ประเทศจมอยู่ในวังวนอุบาทว์อย่างที่แล้วมา ผมจึงจะไปลงประชามติรับรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง” นายสุเทพกล่าว
ย้ายแน่ “รถตู้อนุสาวรีย์” เข้าขนส่งหมอชิต-สายใต้-เอกมัย
30 ก.ค. 2559 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า พ.อ. สุวิทย์ เกตุศรี รองผบ.พล.ม.2 รอ. ในฐานะประธานคณะทำงานจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ยืนยันถึงการดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารระหว่างกรุงเทพมหานครไปต่างจังหวัด [รถตู้ประจำทางมาตรฐาน 2 (จ.), (ต.), (ช.) หมวด 2] ซึ่งให้บริการตามจุดต่างๆ ใน กทม. โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าจะทำการย้ายรถตู้เหล่านี้ไปอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 สถานี คือ หมอชิต สายใต้ และเอกมัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นไปตามงื่อนไขใบอนุญาตฯ ที่กรมการขนส่งทางบก และ บขส. กำหนดไว้ คือ รถที่เข้าร่วม บขส. จะต้องเริ่มต้นที่สถานีของ บขส.
ทั้งนี้ ในจุดบริการใหม่ตามสถานนีขนส่งฯ ต่างๆ นั้น จะมีการตั้งชื่อจุดบริการตามชื่อเกาะต่างๆ รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้แก่ เกาะพญาไทย เกาะพหลโยธิน เกาะดินแดง เกาะราชวิถี เพื่อผู้ใช้บริการสามารถจดจำได้ว่าหากต้องการใช้บริการรถตู้สายเดิมต้องไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งฯ แห่งใด
ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการกังวลว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางไปยังจุดบริการใหม่นั้น พ.อ. สมบัติ ธัญญะวัน เสนาธิการ พล.ม.2รอ. กล่าว่าจะมีรถ ขสมก.บริการฟรี ไปส่งสถานนีขนส่งฯ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการในระดับหนึ่ง โดย พ.อ. สมบัติ ยอมรับว่าก็คงบรรเทาได้ไม่ครบทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์
ส่วนความคิดเห็นจากทางด้านของผู้ประกอบการนั้น นางธัญญา อิ่มพร ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะสายอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ระยอง กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบการยินดีให้ความร่วมมือ คสช. แต่ต้องฟังปัญหาของเราบ้าง คือ อีก 2 ปีข้างหน้าสถานีขนส่งหมอชิตก็จะถูกยุบ เมื่อย้ายเราออกจากอนุสาวรีย์ชัยฯ อีกไม่ถึง 2 ปีก็ย้ายเราอีก รวมถึงที่เอกมัยเช่นกัน อีกทั้งการที่บอกว่าจะแก้ไขปัญหารถติดรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ ตนถามว่าจะแก้ไขได้จริงหรือไม่ เพราะจะแก้จากตรงนี้ไปติดตรงนั้นหรือไม่ ทั้งนี้ สถานีขนส่งเอกมัยเป็นสถานีที่ภาคตะวันออกที่รับผิดชอบจังหวัดน้อยมาก มีเพียง จ.จันทบุรี จ.ระยอง และ จ.ตราด ที่มีลูกค้าน้อยมาก หากไปแยกลูกค้าออกแบบนี้ ผู้ประกอบการแบบตนก็ตายพอดี อีกทั้งยังไม่ให้เพิ่มจุดขายตั๋วเมื่อออกจากหมอชิตและเอกมัย ผู้ประกอบการมองว่าอยู่ลำบาก
“เราอยากให้ทบทวนเรื่องของอนาคต ตอนนี้เราอาจจะยอมย้าย แต่อยากให้อนาคตทางรัฐสร้างศูนย์รวมรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งไม่ใช่เพื่อผู้ประกอบการแต่เพื่อประชาชนเองจะได้รับความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดที่มาต่อรถตู้โดยสารไปอีกจังหวัด รวมถึงคนแก่ที่มาหาหมอด้วย ทุกวันนี้มีผู้โดยสารมาบ่นกับผู้ประกอบการว่าไม่ย้ายได้หรือไม่ เราอยากให้เจ้าหน้าที่ถามความคิดเห็นของผู้ใช้บริการจริงๆ ด้วยว่าเขาเดือดร้อนหรือไม่ แนวความคิดนี้จะเหมือนกับการแก้ไขปัญหาอีกที่หนึ่ง แต่ไปโปะอีกที่หนึ่งหรือไม่” นางธัญญากล่าว
จีนเอาจริง เปิดตัวรถเมล์ยักษ์ลอยฟ้า
วันที่ 3 ส.ค. 2559 เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า เพื่อแก้ปัญหาการจราจร ประเทศจีนได้เปิดตัวรถเมล์ยังลอยฟ้า (Transit Elevated Bus) หรือ TEB-1 ซึ่งมีขนาดห้องผู้โดยสารกว้างประมาณ 11 เมตร (26 ฟุต) ยาวประมาณ 21 เมตร (72 ฟุต) สามารถรองรับผู้โดยสารประมาณ 300 คน โดยตัวรถจะสูงจากพื้นประมาณ 5 เมตร (16 ฟุต) ลักษณะการวิ่งเป็นการคร่อมถนนโดยที่รถยนต์อื่นๆ สามารถสัญจรไปมาตามปรกติผ่านที่ว่างใต้ท้องรถเมล์ยักษ์ลอยฟ้านี้ได้ ทำให้สามารถขนส่งผู้โดยสารจำนวนมากโดยไม่เสียพื้นที่การจราจร
ทั้งนี้ ตามรายงานของวอชิงตันโพสต์ รถเมล์ยักษ์ลอยฟ้าดังกล่าวจะวิ่งไปตามรางที่ออกแบบไว้ ซึ่งการวางรางตามถนนหลวงที่มีความคดเคี้ยวบ้างบางจุดหรือทางเลี้ยวนั้นทำได้ในทางปฏิบัติ แต่ปัญหาที่น่าคิดคือกรณีที่เป็นถนนแคบๆ หรือทางแยก