ThaiPublica > เกาะกระแส > ดีเอสไอแจ้งความคืบหน้า 7 คดี “ศุภชัย ศรีศุภอักษร”สหกรณ์คลองจั่น – คดีเข้าข่ายฟอกเงินขายที่ดินให้ “อลิสา อัศวโภคิน” คาดสรุปสำนวนธค.นี้

ดีเอสไอแจ้งความคืบหน้า 7 คดี “ศุภชัย ศรีศุภอักษร”สหกรณ์คลองจั่น – คดีเข้าข่ายฟอกเงินขายที่ดินให้ “อลิสา อัศวโภคิน” คาดสรุปสำนวนธค.นี้

14 ธันวาคม 2015


กว่า 2 ปี ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่อดีตผู้บริหาร นำโดยนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานคณะกรรมการดำเนินการและพวกได้ยักยอกเงินสหกรณ์ฯจนเป็นเหตุให้ผู้ฝากเงินไม่สามารถถอนเงินได้และมีหลายคดีที่อยู่ในระหว่างการฟ้องร้อง รวมทั้งได้รับพิจารณาให้ฟื้นฟูกิจการจากศาลล้มละลายกลางได้ และวันที่ 15 ธันวาคม 2558 จะมีการแถลงข่าวเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการและการประชุมเจ้าหนี้เพื่อลงมติโหวตแผนฯในวันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม 2558

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดีต่างๆ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ได้รายงานว่าขณะนี้การดำเนินคดีที่เกี่ยวกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ทั้งหมด 7 คดีมีรายละเอียดดังนี้

1.คดีพิเศษที่ 146/2556 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2556 กรณีนายพิษณุ ชีวะสิทธิ์ กับพวก ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด กับพวก ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย จำนวน 13,334.15 ล้านบาท  

ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้สรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร นางสาวศรัณยา มานหมัด นายลภัส โสมคำ และนายกฤษฎา มีบุญมาก ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนฯ ได้สอบสวนเพิ่มเติมและทยอยส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการ ประเด็นสำคัญคือ รายละเอียดของผู้รับเช็คจำนวน 878 ฉบับ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จและจัดส่งให้พนักงานอัยการในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

เช็ค878สหกรณ์คลองจั่น

2.คดีพิเศษที่ 63/2557 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 กรณีที่ นายสมาน ครองเมืองกับพวก รวม 2,205 คน ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด และนายไพโรจน์ จำลองราษฎร์ ผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด (ชุดปัจจุบัน) ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ 6,866.06 ล้านบาท

ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ กับพวก รวม 12 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และมาตรา 343 และได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2558

3.คดีพิเศษที่ 64/2557 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2557 นางสาวสุดาภรณ์ กองธรรม ผู้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด(ชุดชั่วคราว) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ในข้อหายักยอกทรัพย์ มูลค่าความเสียหาย 27.64 ล้านบาท

ผลการดำเนินการ  คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนมีความเห็นให้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ ในข้อหายักยอกทรัพย์ และได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการแล้ว โดยพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องนายศุภชัยฯ ในข้อหายักยอกทรัพย์ผู้อื่นและจัดการทรัพย์สินผู้อื่นโดยทุจริต ในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 และมาตรา 354 ต่อศาลอาญา เลขคดีดำที่ อ.1739/2558 นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 8 มีนาคม 2559 เวลา 09.00 น. โดยนายศุภชัยฯ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางกรุงเทพ

4.คดีสืบสวนที่ 110/2558 กรณีที่นายอริยะ เอี่ยมดิลกวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจจากสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ได้กล่าวหาให้ดำเนินคดีกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้นายศุภชัยฯ ประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น จำกัด สามารถยักยอกเงินของสหกรณ์ไปได้

ผลการดำเนินการ จากการสืบสวนพบว่าเป็นเรื่องที่นายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงมีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ เสียหาย เข้าข่ายเป็นความผิดที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการต่อไปแล้วเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558

5.คดีพิเศษที่ 68/2558 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 กรณีที่พบว่านายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้ทำการโอนเงินที่ยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยสั่งจ่ายเช็คให้แก่นายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล และต่อมานายสถาพรฯ ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและสังหาริมทรัพย์ (รถยนต์ ,ปืน) ในนามตนเองและในนามของบริษัท เอสดับบลิวโฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด การกระทำของนายศุภชัยฯ และนายสถาพรฯ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ  250 ล้านบาท

ผลการดำเนินการ สอบพยานไปแล้วจำนวน 19 ปาก คงเหลือประมาณ 5 ปาก คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558

6.คดีพิเศษที่ 70/2558 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2558 กรณีที่พบว่านายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้นำเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้จากการยักยอกมาจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด ไปซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดินในช่วงระหว่างปี 2552 จำนวนหลายแปลง ในพื้นที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ในนามตนเองและได้ถือครองกรรมสิทธิ์เรื่อยมาต่อมาเมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษในคดีพิเศษที่ 164/2556 นายศุภชัยฯ ได้ขายที่ดิน จำนวน 8 แปลง ให้กับ น.ส.อลิสา อัศวโภคิน และอีก 1 แปลง ให้กับ นางวรรณา จิรกิตติ ซึ่งการกระทำของนายศุภชัยฯ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงินมูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ 300 ล้านบาท

ผลการดำเนินการ  สอบพยานไปแล้ว 14 ปาก คงเหลือประมาณ 5 ปาก คาดว่าสำนวนคดีพิเศษที่ 70/2558 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558 

7.คดีพิเศษที่ 99/2558 รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2558 กรณีที่พบว่านายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้นำเงินจำนวน 321.4 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็ค 10 ฉบับ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการยักยอกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ไปซื้อหุ้นของบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน มูลค่าความเสียหาย จำนวนประมาณ 320 ล้านบาท ผลการดำเนินการ  อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนธันวาคม 2558