ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสเศรษฐกิจ > ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ เจาะภาวะตลาดที่อยูอาศัยตามแนวรถไฟฟา ชี้สายสีแดง-สีม่วงสต๊อกเยอะขายได้ช้า แนะผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการ

ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ เจาะภาวะตลาดที่อยูอาศัยตามแนวรถไฟฟา ชี้สายสีแดง-สีม่วงสต๊อกเยอะขายได้ช้า แนะผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการ

16 พฤศจิกายน 2015


English Version

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์”เจาะสภาวะตลาดที่อยูอาศัยตามแนวรถไฟฟา”

จากโครงการรถไฟฟ้าที่มีกำหนดเปิดดำเนินการเพิ่มเติมอีก 4 สาย ในระยะ 5 ปีข้างหน้า ส่งผลให้บริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีแดงครองแชมป์จำนวนยูนิตที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง เปิดตัวรวมกันสูงสุด 58,900 และ 48,800 ยูนิต หรือเฉลี่ย 8,400 และ 7,000 ยูนิตต่อปี ตามลำดับ นับตั้งแต่ปี 2551 -2557 ในขณะที่บริเวณรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายเส้นทางหัวลำโพง-บางแค มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยน้อยที่สุด 10,700 ยูนิต หรือเฉลี่ย 1,500 ยูนิตต่อปี ซึ่งถือว่าตลาดนี้ยังมีศักยภาพจากยอดขายที่ค่อนข้างสูงแต่ติดข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย

สถานการณ์ปัจจุบันตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่บริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีเขียว มีปริมาณยูนิตที่ค่อนข้างสูง แต่โครงการที่เปิดตัวใหม่มีแนวโน้มขายได้ในอัตราที่ช้าลง โดยสะท้อนจากอัตราดูดซับที่ปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 30% และ 44% ณ สิ้นปี 2557 ซึ่งราคาของยูนิตที่เปิดใหม่ในปัจจุบันนั้นต่างเน้นเจาะตลาดระดับกลางถึงล่างด้วยราคาขายที่ 3-10 ล้านบาท ผู้ประกอบการจึงควรชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพื่อให้ตลาดปรับสมดุลกับปริมาณยูนิตเหลือขายในปัจจุบัน

อีไอซีมองว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจะช่วยดูดซับจำนวนยูนิตเหลือขาย ซึ่งบริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดงนั้นมียูนิตเปิดใหม่ที่ประมาณการว่าจะทันใช้มาตรการดังกล่าวมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ทั้งผู้ซื้อและผู้ประกอบการควรคำนึงถึงคุณภาพและดำเนินการควบคุมมาตรฐานการก่อสร้างของผู้รับเหมาหากมีการเร่งก่อสร้างโครงการให้เสร็จทันมาตรการกระตุ้นดังกล่าว (อ่านฉบับเต็ม)

SCB EIC -16-11-2015