ThaiPublica > เกาะกระแส > ครม. แบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ “สมคิด” คุม 7 กระทรวงเศรษฐกิจ โยกย้ายบิ๊ก ขรก. ลอตใหญ่ ตั้ง “สมชัย สัจจพงษ์” นั่งปลัดคลัง

ครม. แบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ “สมคิด” คุม 7 กระทรวงเศรษฐกิจ โยกย้ายบิ๊ก ขรก. ลอตใหญ่ ตั้ง “สมชัย สัจจพงษ์” นั่งปลัดคลัง

26 สิงหาคม 2015


580825ครม_ประยุทธ์
รัฐมนตรีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าในรัฐบาลของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ่ายภาพร่วมกันเป็นครั้งแรกก่อนการประชุม ครม. ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งแรก หลังจากมีการปรับ ครม. ครั้งใหญ่ โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ซึ่งก่อนการประชุมมีการถ่ายรูปร่วมกันของ ครม. ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

นายกฯ มอบนโยบาย ครม. ใหม่ เน้นทำตามโรดแมป

พล.อ. ประยุทธ์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังมีการปรับ ครม. ตนก็ได้กล่าวแสดงความยินดีกับรัฐมนตรีใหม่ และได้มอบนโยบายว่าอยากให้ทุกอย่างดำเนินการตามโรดแมปที่จะจบสิ้นภายในปี 2559 โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่จะต้องมีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะจะส่งผลตามมาทั้งหมด เร่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อย ส่งเสริมการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้จ่ายงบประมาณตามที่จำเป็นเท่านั้น และอยากขอร้องสื่อมวลชนอย่าไปติติงรัฐมนตรีใหม่มากนัก ต้องให้เวลาคิดกันบ้าง

“การทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกคนต้องช่วยใช้จ่ายเงิน ใครมีมากให้ใช้มาก มีน้อยให้ใช้น้อย เพราะการไม่ใช้จ่ายจะทำให้สถานการณ์รุนแรงไปกว่าเดิม” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

ให้ “สมคิด” คุม 7 กระทรวงเศรษฐกิจ

สำหรับการแบ่งงานรองนายกฯ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงหลักที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเศรษฐกิจ ทั้ง 7 กระทรวง งานจะได้มีการบูรณาการมากขึ้น ส่วน พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ที่ตอนแรกมีข่าวว่าจะให้ดูแลงานด้านเศรษฐกิจด้วย ที่ประชุมได้มอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวถึงเสียงวิจารณ์ กรณี ครม. ชุดใหม่มีทหารมากถึง 14 คน ว่า ทหารทุกวันนี้ไม่ใช่ทหารแบบเดิม เหมือนตนเองก็ไม่เคยคิดว่าจะมาอยู่ตรงนี้ ซึ่งต้องศึกษาหาข้อมูล รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ก่อนตัดสินใจเพื่อจะสั่งการใดๆ

เมื่อถามว่า การเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จากทหารเป็นพลเรือนมีข้อดีอย่างไร พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเวลาไปต่างประเทศก็ไม่มีผลอะไร เขาอาจจะมองอยู่บ้าง แต่ก็มีการค้าขายกันตามปกติ เพราะทุกประเทศก็ต้องรักษาประโยชน์ของตัวเอง

เดินหน้า “สัมปทานปิโตรเลียม-เศรษฐกิจดิจิทัล”

ส่วนการผลักดันนโยบายที่คั่งค้าง พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 21 ตนได้สั่งการให้ พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไปทำให้เกิดความชัดเจน กรณีเศรษฐกิจดิจิทัลจะทำต่อให้เสร็จ ครั้งแรกเราทำเรื่องโครงสร้างสร้างและกฎหมายก่อน แต่หลังจากนี้อะไรที่เคยขัดแย้งหรือเห็นต่าง จะต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุย เพราะการเดินหน้านโยบายของรัฐบาลต้องอาศัยความเข้าใจและความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการประมูล 4G จะเดินหน้าต่อ เพราะยังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปหยุดหรือชะลอ

นายกฯ กล่าวว่า ตนยังสั่งให้ ครม. นำพิมพ์เขียวการปฏิรูปประเทศที่สภาปฏิรูป (สปช.) ส่งมอบ มาพิจารณา ว่าตรงกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะดำเนินการหรือไม่ ส่วนการลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 6 กันยายน 2558 ไม่ว่าที่ประชุม สปช. จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ ก็จะมีการจัดตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ จำนวน 200 คน มาสานต่อ หากเรื่องใดจำเป็นต้องออกกฎหมายก็จะเสนอไปยังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้พิจารณา

ทูลเกล้าฯ ชื่อ ผบ.ทบ. ใหม่แล้ว

ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะตำรวจหรือทหาร พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสมและกฎระเบียบ ไม่มีการต่อรองผลประโยชน์ หรือเป็นการแชร์อำนาจ หรือตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องตน เพราะตนไม่ได้ทำเลวอะไร และยังมีประชาชนบางกลุ่มให้กำลังใจ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าจะสืบทอดอำนาจ เพราะรัฐบาลที่มาภายหลังก็ย้ายหมด คนที่ถูกตั้งเองก็รู้ดีว่าจะไปพร้อมกับรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้ ได้นำรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับสูง ที่รวมถึงผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่ ทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งไปแล้ว

“น้องผม (พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.) จะได้เป็น ผบ.ทบ. หรือไม่ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องที่กรรมการเสนอขึ้นมา ผมเห็นชอบ ถ้าเห็นว่าเหมาะสม ผมก็เซ็น เรื่องก็จบ” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

ส่วนการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ (คตร.) คนใหม่แทน พล.อ. อนันตพร ที่ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า รอตั้งคนที่เกี่ยวข้องกับการเงินการบัญชีอยู่ เบื้องต้นน่าจะเป็นทหารมากกว่าพลเรือน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่มาภาพ: www.thaigov.go.th

สั่ง “วิษณุ” ปรับเกณฑ์เยียวยาเหยื่อบึ้มราชประสงค์ให้ใกล้เคียงกัน

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวถึงคดีระเบิดสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2558 ว่า เจ้าหน้าที่ยังพยายามตามจับคนร้ายอยู่ มีการเผยแพร่ภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยไปทั่วโลกแล้ว ส่วนจะหนีออกนอกไปนอกประเทศแล้วหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่ขออย่าเพิ่งไปต่อว่าเจ้าหน้าที่ ส่วนการจัดหาเครื่องมือเชื่อมโยงฐานข้อมูล โดยเฉพาะของสำนักงานการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตนจะเร่งให้เร็ว เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง

ด้าน พล.ต. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกฯ ได้กล่าวในที่ประชุม ครม. เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดสี่แยกราชประสงค์ ที่ยังมีความแตกต่างกันระหว่างชาวต่างประเทศกับชาวไทย โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เข้าไปดูให้ทั้ง 2 กลุ่ม ให้ได้รับการช่วยเหลือที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเงินที่ต้องมากพอ ไม่ทำให้รู้สึกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความสูญเสีย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่พิการหรือทุพพลภาพจะต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ให้ รมต. เลิกนั่งควบ ขรก. ประจำ

สำหรับวาระการประชุม ครม. อื่นๆ ที่น่าสนใจ

พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ ได้กล่าวปรารภในที่ประชุม ถึง ครม. ชุดเก่าว่า ได้ร่วมทำงานด้วยกันมาด้วยความเสียสละ และวางรากฐานเรื่องต่างๆ ไว้พอสมควร บางเรื่องที่ยังไม่เสร็จก็ต้องดำเนินการต่อไป จึงหวังว่า ครม. ชุดใหม่จะร่วมกันตั้งใจดำเนินการเรื่องต่างๆ และขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อ เวลานี้ช่วงฮันนีมูนไม่มีแล้ว จะต้องเริ่มลงรายละเอียดกันเลย โครงการอะไรที่มีความสำคัญ จะต้องเล่าและชี้แจงให้สังคมเข้าใจได้ด้วย นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่จะทำงาน ที่รัฐบาลอาจได้ทำงานไปจนถึงช่วงต้นปี 2560 ว่าในช่วงเวลาที่มีจะทำอะไรสำเร็จบ้าง และต้องรายงานความคืบหน้าโครงการต่างๆ เป็นระยะให้สังคมได้รับทราบ

“นายกฯ ยังได้ปรารถในที่ประชุม ครม. ว่า ภายในเดือนกันยายน 2558 นี้ น่าจะไม่มีรัฐมนตรีคนใดควบตำแหน่งข้าราชการประจำอีก บางคนอาจจะเกษียณอายุหรือลาออกจากตำแหน่ง ก็แล้วแต่กรณี ไม่ว่าจะเป็นเลขาธิการ เพื่อป้องกันข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน” พล.ต. สรรเสริญกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรัฐมนตรีที่ยังควบตำแหน่งข้าราชการประจำใน ครม. ชุดปัจจุบันมีด้วยกันหลายคน อาทิ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พล.อ. อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เป็นต้น

แบ่งงาน 6 รองนายกฯ “ประวิตร” ดูมั่นคง “สมคิด” คุมเศรษฐกิจ

พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. วันนี้ได้มีมติแบ่งงานของรองนายกฯ ทั้ง 6 คน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีก 2 คน ว่ารับผิดชอบงานด้านใดและกำกับดูแลหน่วยงานใดบ้าง ประกอบด้วย

  1. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง จำนวน 10 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอบต.) และสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์กรมหาชน)
  2. พล.อ. ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ จำนวน 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์กรมหาชน) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์กรมหาชน)
  3. พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการจำนวน 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
  4. พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ จำนวน 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงพลังงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์กรมหาชน) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์กรหมาชน) สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
  5. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเศรษฐกิจ จำนวน 9 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
  6. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จำนวน 11 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์กรมหาชน) รวมไปดูถึงเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ และการขอแปลงสัญชาติไทย
  7. ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ จำนวน 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
  8. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการ จำนวน 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ

“พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้ส่งมอบนโยบายสำคัญต่อ ครม. ชุดใหม่ แบ่งเป็น 4 กลุ่มนโยบายใหญ่ ประกอบด้วย 1. ต้องให้ความสำคัญในการสร้างความเข้าใจควบคู่ไปกับการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ภารกิจใดเมื่อทำออกไปแล้วจะต้องยึดการทำความเข้าใจกับประชาชนเป็นหลัก 2. เร่งช่วยเหลือประชาชนรากหญ้าให้มีรายได้สำหรับการจับจ่ายใช้สอยเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น และเร่งการการลงทุน โดยมอบหมายให้นายสมคิดไปดูเรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะจูงในนักลงทุนจากต่างชาติ 3. พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้เป็นคนที่ทั้งมีความสามารถและมีคุณธรรม โดยต้องผลิตแรงงานที่ตรงกับความต้องการของตลาด และ 4. ประสานการทำงานด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาล สื่อมวลชน และประชาชน โดยยกเหตุการณ์ระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์มาเป็นบทเรียนในการบริหารจัดการสถานการณ์” พล.ต. สรรเสริญกล่าว

แต่งตั้ง ขรก. ระดับสูง 12 ตำแหน่ง “สมชัย สัจจพงษ์” เป็นปลัดคลัง

พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. วันนี้ ได้มีมติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนระดับสูง จำนวน 12 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1. ตั้งนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นปลัดกระทรวงการคลัง 2. ตั้งนายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 3. นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม 4. ตั้ง ม.ล.ปุณฑริก สมิติ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน 5. ตั้งนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม 6. ตั้งนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตรวจราชการพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี

7. ตั้งนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นอธิบดีกรมศุลกากร 8. ตั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นผู้อำนวยการ สคร. 9. ตั้งนายวิสูตร ประสิทธิ์ศิริวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นเลขาธิการ ก.พ. 10. ตั้ง น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นเลขาธิการ สกอ. 11. ตั้งนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ (สงป.) เป็นรองผู้อำนวยการ สงป. และ 12. ตั้งนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.)

สตช. แจ้งคืบหน้าเตรียมใช้ กม. ชุมนุมสาธารณะ

พล.ต. สรรเสริญ กล่าวว่า หลังจากร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ในวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้เสนอแผนการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้ หรือ Action Plan ให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ผู้จัดการชุมนุม และประชาชน ได้รู้ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อย่างไรบ้าง นอกจากนี้ ยังมีการเสนอร่างประกาศสำนักนายกฯ จำนวน 2 ฉบับ ที่ออกมาเพื่อรองรับ พ.ร.บ. นี้ ได้แก่ ร่างประกาศสำนักนายกฯ เกี่ยวกับวิธีแจ้งการชุมนุมสาธารณะ และร่างประกาศสำนักนายกฯ เกี่ยวกับเครื่องมือควบคุมฝูงชน ซึ่งที่ประชุม ครม. ก็อนุมัติในหลักการและส่งร่างประกาศสำนักนายกฯ ทั้ง 2 ฉบับนี้ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

ชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลอตใหม่ สัปดาห์หน้า

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ และและนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเตรียมที่จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่เข้าที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้า โดยมาตรการดังกล่าวจะให้ความช่วยเหลือครอบคลุมเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั้งหมด

ทั้งนี้ วงเงินที่จะนำมาใช้สำหรับมาตรการดังกล่าวจะนำมาจาก 3 ส่วน คือ จากงบกลาง ซึ่งขณะนี้มีวงเงินคงเหลือเกินกว่า 5 หมื่นล้านล้าน จากเงินกู้ และจากเงินงบประมาณที่เบิกจ่ายไม่ทันจำนวนหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคลังจะใช้เงินจากส่วนไหน