ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2557
- แก๊งทวงหนี้กลับใจ! ขอปฏิบัติตามค่านิยม 12 ประการ พร้อมร้องเพลงชาติไถ่บาป
- แค่รอบสัปดาห์ เกิด 5 เหตุสยองรถไฟไทย! คอขาด-ชนดับ-ร่างแยก-โดนลาก
- วันเดียวผลตรวจลูกผู้ใหญ่วอออกแล้ว! ดีเอ็นเอไม่ตรงคดีเกาะเต่า
- อย. เตรียมหยุดความเชื่อคนไทยใช้ยาพาราฯ เกินจำเป็น
- “แจ็ค หม่า” อดีตครูสอนภาษาอังกฤษมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน
แก๊งทวงหนี้กลับใจ! ขอปฏิบัติตามค่านิยม 12 ประการ พร้อมร้องเพลงชาติไถ่บาป
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ไทยรัฐออนไลน์ รายงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเลย จ.เลย ร่วมกันจับกุม นายประสาน ภาคโพธิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 5 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ลูกน้องนายทุนเงินที่ขี่รถตระเวนเก็บเงินจากลูกหนี้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดมากหรือที่เรียกว่า “ดอกโหด”
จากการสอบสวนนายประสานให้การว่า ตนได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้มาขี่รถ จยย. เก็บเงินกู้ที่ จ.เลย เพราะมีรายได้ดี โดยเฉพาะการได้เงินพิเศษ จากการไปเก็บเงินลูกหนี้เป็นรายหัว ซึ่งยังไม่รวมเงินเดือนที่ได้เดือนละ 5,000 บาท ทำให้ตนมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 หมื่นบาท แต่ทำได้ไม่ถึงเดือนก็มาถูกจับเสียก่อน
นอกจากนี้ นายประสานยังบอกด้วยว่า ในสายงานพนักงานเก็บเงินกู้ของตนนั้น มีอยู่ไม่ต่ำกว่า 30 คน มีนายทุนชื่อนายบัวขาว ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนมาจาก จ.อุทัยธานี มาหากินอยู่ที่ จ.เลย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ อ.เมืองเลย ได้นำตัวนายประสานเดินทางมาบริเวณศาลากลางจังหวัดเลย เพื่อพบกับนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เนื่องจากนายประสานรู้สึกสำนึกผิด และอยากจะแสดงออกถึงความรู้สึกดังกล่าวโดยการร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรค์กับทางราชการ เจ้าหน้าที่จึงจัดให้มาร่วมร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสำนึกและไถ่บาป พร้อมกันนี้นายประสานยังได้กล่าวคำปฏิญาณตน ปฏิบัติตามหลักค่านิยม 12 ประการของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ชมคลิป1 และ ชมคลิป2)
แค่รอบสัปดาห์ เกิด 5 เหตุสยองรถไฟไทย! คอขาด-ชนดับ-ร่างแยก-โดนลาก
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับรถไฟไทยมีมากถึง 5 ครั้งด้วยกัน โดยมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์สนุกรายงานว่า เมื่อเวลา 12.35 น. ศูนย์วิทยุธารน้ำใจ มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจ อ. สุไหงโก-ลก รับแจ้งรถไฟทับคนเสียชีวิต สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่เกิดเหตุภายในชานชาลารถไฟ สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส บริเวณจุดเกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ใต้รถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 172 สุไหงโก-ลก ปลายทางกรุงเทพฯ สภาพศพคอขาดออกจากร่างกาย โดยที่ร่างและศีรษะกระเด็นไปคนละทาง ทีมกู้ภัยจึงทำการเก็บกู้มาเพื่อส่งศพไปชันสูตร
จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุรพล ถนอมกาย อายุ 45 ปี ที่อยู่ 42/1 ม.10 ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่า ขณะที่รถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชลา จู่ๆ ผู้เสียชีวิตก็วิ่งก้าวกระโดดจะขึ้นรถไฟ แต่พลาดท่าตกลงมาถูกดูดเข้าไปใต้รางรถไฟ ก่อนจะเป็นเหตุสลดดังกล่าว ทั้งนี้ ทีมกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรต่อไป
จากนั้นวันที่ 28 ต.ค. 3 วันถัดมาจากเหตุกาณ์ที่ จ.นราธิวาส ประชาชาติออนไลน์ รายงาน เมื่อเวลา 13.00 น. ศูนย์กู้ภัยสว่างสรรญเพชญ ได้รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ จนเกิดไฟลุกไหม้ในเขตพื้นที่สว่างสรรเพชญ ม.4 ต.ต้นม่วง อ.เมือง จ.เพชรบุรี โดยกู้ภัยสว่างสรรญเพชญ พร้อมรถพยาบาล รถอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปที่เกิดเหตุ พบรถไฟหัวหิน-กทม. ชนกับรถโตโยต้า คัมรี่ สีดำทะเบียน 4498 สงขลา ได้พยายามเร่งนำผู้เสียชีวิตออกมา เนื่องจากอยู่ใต้ท้องรถไฟ ในขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าวได้ตกราง โดยพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย
เบื้องต้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ตายชื่อนายวิทยา รัตนะ อายุ 54 ปี หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งคาดว่าเป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ พบเป็นศพไหม้เกรียมอยู่ที่นั่งคนขับ ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคนคือ นางรชตวรรณ รัตนะ อายุ 53 ปี นั่งอยู่ข้างคนขับ ถูกไฟไหม้เสียชีวิตเช่นเดียวกัน และมีการตรวจสอบพบว่า รถเก๋งคันดังกล่าวจอดนิ่งอยู่ใกล้กับทางรถไฟเป็นเวลานานกว่า 20 นาที อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้สืบสวนหลักฐานให้แน่ชัดเพื่อความคืบหน้าของคดีต่อไป
ในวันเดียวกันนั้นเอง เวลา 13.30 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2557 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ร.ต.อ. อุฤทธิ์ ขรรค์แก้ว พนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการประสานจากนายเทียนชัย นิลแสง นายตรวจทางประจวบคีรีขันธ์ ว่ามีอุบัติเหตุคนถูกรถชนไฟชน จึงประสานกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุบริเวณทางรถไฟ กิโลเมตรที่ 309 หลักที่ 9-10 หมู่ 2 บ้านหนองหิน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี สวมกางเกงจีนสีดำ เสื้อยืดสีน้ำเงิน สภาพศพ ร่างกายขาดเป็น 2 ทอน ตั้งแต่ช่วงเอวลงไป อยู่บริเวณทางวิ่งรถไฟฝั่งตะวันออก ร่างอยู่นอกรางทั้งสองท่อนอยู่ห่างกันประมาณ 2 เมตร เป็นที่สยดสยองแก่ผู้พบเห็น
ใกล้กันพบถุงพลาสติกใส่ใบกระท่อมจำนวน 2 ถุง ใบจาก และยาเส้น ไม่พบเอกสารทางราชการใดๆ สอบถามคนละแวกใกล้เคียงพบว่าเป็นคนเร่ร่อนมาจากที่อื่นและชอบอาศัยใกล้บริเวณทางรถไฟ โดยก่อนหน้านี้มีคนเห็นว่าผู้เสียชีวิตชอบเดินเล่นบนทางรถไฟเป็นประจำ
ส่วนสาเหตุ สอบถามจากเจ้าหน้าที่รถไฟทราบว่า รถไฟขบวนหลังสุดที่ผ่านสถานีรถไฟหนองหิน เมื่อเวลา 13.01 น. คือ รถไฟโดยสารขบวน 43 กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี จากลักษณะของศพ เป็นการถูกชนจากด้านข้างโบกี้ตู้รถไฟ หากชนจากหัวขบวนร่างจะตกไปอยู่ในร่องกลางระหว่างทางรถไฟ แต่ร่างกายขาดเป็นสองท่อนอยู่ด้านข้าง คาดว่าผู้ตายขึ้นมาจากป่าละเมาะโดยไม่ได้มองว่ามีขบวนรถไฟวิ่งผ่านหรือไม่ จึงถูกแรงลมดูดเข้าหาตัวตู้รถไฟและถูกเหยียบจนเสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมา 29 ต.ค. เกิดเหตุรถไฟขบวนที่ 108 เด่นชัย-กรุงเทพฯ ขณะขบวนถึงกิโลเมตรที่ 413/16 ระหว่างสถานีพรหมพิราม-สถานีแควน้อย จ.พิษณุโลก ชาวบ้านเรียกบริเวณที่เกิดเหตุว่า “โค้งน้องนิว” ได้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาวเลขทะเบียน กน-2745 พิษณุโลก ส่งผลให้คนขับได้รับบาดเจ็บ ชื่อ น.ส.ภักดิ์รัศมี มากระดี อายุ 35 ปี อยู่ ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งหน่วยกู้ภัยเร่งช่วยเหลือ และนำส่งโรงพยาบาลพรหมพิราม
เว็บไซต์สนุกรายงานว่า จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า น.ส.ภักดิ์รัศมี ผู้ได้รับบาดเจ็บ กำลังขับรถข้ามทางรถไฟดังกล่าวเพื่อกลับบ้านพัก แต่เครื่องยนต์เกิดดับคาทางรถไฟพอดี ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่รถไฟขบวนดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวออกจากสถานีพรหมพิราม ไปสถานีพิษณุโลก ด้วยความเร็วและพุ่งชนเข้าอย่างจัง ทำให้รถไฟลากไปกว่า 100 เมตร โดยน.ส.ภักดิ์รัศมีได้รับบาดเจ็บ
ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้เข้ามาทำการช่วยเหลือ ตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อนำส่งโรงพยาบาลพรหมพิราม ขณะที่ชาวบ้านต้องช่วยกันนำซากรถออกจากทางรถไฟ เพื่อให้รถไฟสามารถเดินขบวนต่อไปได้ตามปกติ
เหตุการณ์สุดท้ายของสัปดาห์ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานเมื่อสายของวันที่ 30 ต.ค. เกิดอุบัติเหตุรถไฟดีเซลรางขบวนที่ 413 นครราชสีมา-หนองคาย ชนกับรถบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 81-2864 ชัยนาทที่บริเวณถนนข้ามทางรถไฟบ้านหนองกุงบ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ประกอบด้วย นายเพชร แพงดี พนักงานขับรถไฟ นายดำริ โกศาราภ ช่างเครื่องประจำขบวน อีก 3 รายเป็นผู้โดยสาร คือ นายณรงค์ เดชมา อายุ 72 ปี นายสมจิตร ทองอุทัยศิริ อายุ55 ปี และพระวีระชาติ ถานมีโร
ขณะที่ผู้โดยสารอีกร่วม 25 คนที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์และโรงพยาบาลกรุงเทพ-ขอนแก่น รวมทั้งนายภัทรพล พะระสี อายุ 25 ปี คนขับรถบรรทุก ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย
ล่าสุดตลอดช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้นำเชือกมากั้นบริเวณที่เกิดเหตุ หลังพบว่ามีการรั่วของน้ำมันจากขบวนรถไฟ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ามาเก็บกู้ขบวนรถไฟ และป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟจากไทยมุงที่มาดูเหตุการณ์ ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ถึงขั้นต้องส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลและต้องการเดินทางต่อไปยังจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดหนองคาย ทางจังหวัดขอนแก่นได้จัดรถทัวร์โดยสารมารับส่งผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเตรียมเก็บกู้รถไฟที่ตกรางและรถบรรทุกสิบล้อ โดยจะนำรถยกมาถึงในเวลา 17.00 น.วันนี้ (30 ต.ค.) ซึ่งจะเร่งดำเนินการเก็บกู้ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ชั่วโมง ด้านนายวิวัฒน์ เมธีวรรณกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลแล้วก็ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสิ่งของของผู้โดยสาร และนำไปเก็บไว้เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับ และจะได้ประเมินความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
ล่าสุด วันที่ 31 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์ครอบครัวข่าว ระบุ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุจากการสำรวจพบว่ามีหลายพื้นที่กว่า 584 จุดทั่วไทย มักเป็นจุดลักผ่านที่ทางชุมชนตัดถนนผ่านทางรถไฟ ไร้สัญญาณเตือนและไม้กั้น ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจากรถไฟชนแล้ว
วันเดียวผลตรวจลูกผู้ใหญ่วอออกแล้ว! ดีเอ็นเอไม่ตรงคดีเกาะเต่า
วันนี้ 30 ต.ค. เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ รายงาน เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ เจ้าของร้านเอซีบาร์ พานายวรท ตู้วิเชียร หรือโดโด้ บุตรชาย ซึ่งถูกโจมตีทางโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเป็นผู้มีอิทธิพลและเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ. จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. เพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจและชี้แจงต่อสังคม พร้อมทั้งขอตรวจดีเอ็นเอเพื่อเปรียบเทียบกับตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บได้ในตัวผู้เสียชีวิต เนื่องจากคดีนี้เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อครอบครัว รวมถึงส่งผลต่อภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
พล.ต.อ. สมยศกล่าวว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก 4 สถาบัน ประกอบด้วยสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช และ รพ.รามาธิบดี มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอโดยมีการเจาะเลือดและเก็บเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้มเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอกับวัตถุพยาน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนการสอบสวนเนื่องจากสำนวนอยู่ในชั้นอัยการ โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมาไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอนายวรท เนื่องจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์ทราบว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุจึงไม่ได้สอบสวนและตรวจพิสูจน์
พล.ต.อ. สมยศกล่าวต่อไปว่า ในการสืบสวนสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานเอกสาร รวมทั้งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ แล้วนำเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติหมายจับแล้วเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ในขณะเดียวกัน ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ส่งต่อข้อมูลหรือข้อความซึ่งบางครั้งมีทั้งที่เป็นความจริง และบางครั้งเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ ลักษณะเป็น “มโนโซเชียล” นำเสนอต่อสังคมออนไลน์ ที่สามารถแพร่กระจายไปได้อย่างรวดเร็ว และผู้ที่รับข้อมูลเหล่านี้บางครั้งไม่ได้ใช้วิจารณญาณหรือการไตร่ตรองตัดสินใจที่รอบคอบแล้วมีการวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งส่งต่อข้อมูลเหล่านั้นต่อไป โดยเฉพาะมีการนำเสนอผ่านทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ต่อไปอีก ซี่งยิ่งทำให้มีการแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบต่อสังคมและประชาชนให้รับทราบข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความเคลือบแคลง สงสัย และนำไปสู่การแตกแยกในสังคม นอกจากนี้ยังเป็นการทำลายเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศไทยและบนเกาะเต่าด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ต.ค. รายงานข่าวของไทยรัฐออนไลน์ แจ้งว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอนายวรท ตู้วิเชียร ลูกชายผู้ใหญ่วอ ล่าสุดในส่วนของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบว่าไม่ตรงกับวัตถุพยานใดๆ ในที่เกิดเหตุ รวมถึงน้ำเชื้ออสุจิในร่างผู้เสียชีวิตด้วย ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเออีก 3 สถาบัน ได้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยังไม่มีรายงานความคืบหน้า และคาดว่าน่าจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐว่า พ่อแม่ของ 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ เตรียมที่จะเดินทางกลับประเทศแล้ว นอกจากนี้ ทางสถานทูตเมียนมาร์ก็ยังได้ส่งตัวแทนเข้าพบเจ้าหน้าที่สภาทนายความ เพื่อมอบอำนาจให้รับผิดชอบในเรื่องของคดี โดยร้องขอมาในนามรัฐบาลและประชาชนชาวเมียนมาร์
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องของคดี นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังคงต้องรอให้อัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องก่อน ที่ผ่านมาจากการพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้งสอง ก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ส่วนเรื่องที่ผู้ใหญ่วอพาบุตรชายมาตรวจดีเอ็นเอนั้น ก็เป็นสิทธิ์ในการแสดงความบริสุทธิ์ใจ คงจะไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดีแต่อย่างใด และก็ต้องรอผลการตรวจต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานจากทางอัยการภาค 8 ว่า ทางอัยการจะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวน และยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลได้ทัน ก่อนจะครบกำหนดการฝากขังทั้ง 7 ฝากได้อย่างแน่นอน
อย. เตรียมหยุดความเชื่อคนไทยใช้ยาพาราฯ เกินจำเป็น
30 ต.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ไอเอ็นเอ็น ระบุ นายประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และในฐานะโฆษก อย. เปิดเผยว่า ยาพาราเซตามอลเป็นยาที่ควรเลือกใช้เป็นอันดับแรกสำหรับบรรเทาอาการปวดลดไข้ เป็นยาที่ได้ผลดี ปลอดภัย ทั้งในผู้ใหญ่ เด็ก ผู้ป่วยโรคไต โรคแผลในกระเพาะอาหาร ไข้หวัดใหญ่ ตลอดจนผู้ป่วยหอบหืดซึ่งอาจแพ้ยาในกลุ่มแอสไพรินได้ แต่ในปัจจุบันพบรายงานการเกิดพิษจากยาพาราเซตามอล โดยเฉพาะพิษต่อตับจากการได้รับยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือ การกินยาซ้ำซ้อน การกินยาเกินขนาดไม่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว หรือเกินขนาดสูงสุดที่ควรได้รับในแต่ละวัน จึงเร่งออกมาตรการเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวการกินยาซ้ำซ้อนนั้น เป็นเพราะมียาที่นิยมใช้ทั่วไปหลายชนิด เพื่อป้องกันปัญหานี้ อย. จึงออกมาตรการแก้ไขฉลากยา โดยเพิ่มข้อความ “ยานี้มีพาราเซตามอล” ตามด้วยความแรงของยาไว้ให้เห็นเด่นชัด และไม่ให้ใช้ชื่ออื่นๆ ของยาพาราเซตามอล เช่น อะเซตามิโนเฟน จึงขอให้ประชาชนอ่านฉลากยาให้ละเอียด และสอบถามเภสัชกรให้แน่ใจว่ายาทุกชนิดที่ใช้อยู่ไม่มีตัวยาซ้ำซ้อนกัน
ทั้งนี้ อย. ได้ออกมาตรการแก้ไขขนาดยาที่ระบุบนฉลากของยาเม็ดและยาน้ำพาราเซตามอลทุกชนิด โดยให้แนะนำขนาดยาตามน้ำหนักตัวของแต่ละคน ขนาดที่แนะนำบนฉลากในผู้ใหญ่และเด็กอยู่ในช่วง 10-15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เพราะน้ำหนักตัวเฉลี่ยของคนไทยต่ำกว่าชาวตะวันตกมาก ประชาชนควรเลือกใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 325 มิลลิกรัม แทนขนาด 500 มิลลิกรัม ซึ่งนิยมจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย เพราะปลอดภัยในการใช้มากกว่าการใช้ยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ในขนาดครั้งละ 2 เม็ด นั้นจะเหมาะสมกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 66.7 กิโลกรัมขึ้นไป โดยกินได้ไม่เกินวันละ 4 กรัม หรือ 8 เม็ดเท่านั้น
“แจ็ค หม่า” อดีตครูสอนภาษาอังกฤษผงาดเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีน
28 ต.ค. เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ เผยว่า ฟอร์บส์ นิตยสารทางการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ รายงานการจัดอันดับความมั่งคั่งประจำปี 2557 ของจีน ที่มีนายแจ็ค หม่า ประธานกรรมการบริหาร อาลีบาบากรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (BABA.N) ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ครองอันดับ 1 ด้วยจำนวนสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นจาก 7,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2556 มาอยู่ที่ 19,500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ผลจากการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
อันดับ 2 ตกเป็นของนายโรบิน ลี ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ไป่ตู ซึ่งเทียบได้เท่ากับกูเกิลภาคภาษาจีน ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด 14,700 ล้านดอลลาร์ โดยมีนายโพนี หม่า แห่งบริษัทเทนเซนต์ เจ้าของแอปพลิเคชันส่งข้อความยอดนิยม “วีแชท” อยู่ในอันดับ 3 ด้วยสินทรัพย์มูลค่า 14,400 ล้านดอลลาร์
การจัดอันดับครั้งนี้ พบว่า มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยสุด 10 คนแรกของจีน มาจากภาคเทคโนโลยีถึงครึ่งหนึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ภาคเทคโนโลยียังมีรายได้ดีกว่าภาคธุรกิจแบบดั้งเดิมมาก ฟอร์บส์ระบุด้วยว่า ในปีนี้จีนมีจำนวนมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 242 คน จากจำนวน 168 คนเมื่อปีก่อน
นอกจากนี้ 29 ต.ค. ผู้จัดการออนไลน์ ระบุ รอยเตอร์สเผยว่า แจ็ค หม่า เผย พร้อมเปิดทางสำหรับการทำงานร่วมกับแอปเปิ้ลอิงค์ (AAPL.O) ในการชำระเงินผ่านมือถือ ขณะที่เตรียมความพร้อมที่จะพบปะหารือโอกาสร่วมธุรกิจกับผู้ประกอบการในฮอลลีวู้ดในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวระบุว่า อาลีเพย์ (Alipay) เป็นบริการการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดของจีน ของอาลีบาบา ขณะที่พันธมิตรในอนาคตอย่างแอปเปิล ก็ประสบความสำเร็จจากบริการการชำระเงินผ่านไอโฟน 6 ที่ผู้ใช้สามารถชำระเงินซื้อสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนของพวกเขาอย่างง่ายได้
หม่ากล่าวระหว่างการประชุม Wall Street Journal Digital ในวันจันทร์ว่า เขามีความเลื่อมใสนับถือทิม คุก ผู้บริหารของแอปเปิลอย่างมาก
“ผมหวังว่าเราสามารถทำอะไรบางอย่างด้วยกัน” เขากล่าวเมื่อถูกถามถึง Alipay และ Apple Pay
หม่าซึ่งขณะนี้มีสินทรัพย์มากกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากหุ้นอาลีบาบาของเขาซึ่งเปิดตัวในตลาดที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาบ่อยๆ โดยสัปดาห์นี้เขาวางแผนที่จะเยี่ยมชมสตูดิโอฮอลลีวู้ดเพื่อหาจุดเชื่อมต่อในการขยายธุรกิจของสองโลก
“ผมกำลังมองหาคู่ค้า” เขากล่าว และเสริมเพิ่มเติมว่าประเทศจีนในที่สุดก็จะกลายเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อาลีบาบาซึ่งล่าสุดมีปริมาณการจัดการธุรกรรมอีคอมเมิร์ซมากกว่า Amazon.com Inc (AMZN.O) และอีเบย์อิงค์ (EBAY.O) รวมกันนี้ กล่าวว่ายังไม่ได้มุ่งเน้นลูกค้าในสหรัฐฯ แต่เน้นให้ความสำคัญในการให้บริการ ลูกค้าชาวจีน หม่าเสริมว่า เขาต้องการที่จะสร้างช่องทางการขายไปยังประเทศจีน ให้กับผลิตภัณฑ์ของอเมริกันและยุโรป เพื่อกระตุ้นยอดขายสินค้าของยุโรปที่ตกไปในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลระบุว่า ขณะนี้อาลีบาบามีมูลค่ามากถึง 231,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.45 ล้านล้านบาท หรือเปรียบได้ว่าใหญ่กว่ายักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซของสหรัฐฯ อย่างอะเมซอนและอีเบย์รวมกันเสียอีก นอกจากนี้ยังถือได้ว่าใหญ่เทียบยักษ์ใหญ่ระดับท็อป 10 ของดัชนีเอสแอนด์พี 500 อีกด้วย จากการอ้างอิงของบลูมเบิร์ก