ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2557 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้มีคำสั่งที่ 954/2557 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2557 ให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัท ยูเนี่ยนอินเตอร์ ประกันภัย ด้วยบริษัทมีพฤติการณ์ที่หากให้ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไป อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน
ในคำสั่งระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทดำรงเงินกองทุนไม่ครบถ้วนตามกฎหมาย ไม่ยื่นรายงานทางการเงิน และงบการเงิน ไม่บันทึกรายการการรับประกันภัยภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีระบบควบคุมกรมธรรม์ประกันภัยไม่รัดกุม และมีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายที่สูงผิดปกติ
โดยคำสั่งปิดนี้ต่อเนื่องจาก เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2556 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2556 จากนั้น คปภ.ได้ขยายเวลาให้บริษัทแก้ไขปัญหาเพิ่มอีก 3 เดือน แต่บริษัทก็ไม่สามารถทำตามข้อเสนอหานักลงทุนมาเพิ่มทุนได้
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าเคยนำเสนอข่าว“เจาะ 27 ลูกหนี้สมทบความผิดปกติเงินกู้หมื่นล้าน (3) – ยูเนี่ยนอินเตอร์ประกันภัย สมาชิกสหกรณ์คลองจั่นถือหุ้นตรึม” โดยรายงานความผิดปกติของผู้ถือหุ้นบริษัทยูเนี่ยนอินเตอร์ประกันภัย พร้อมข้อสังเกตรายชื่อผู้ถือหุ้นว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับอดีตผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นที่ได้สร้างความเสียหายมากกว่า 15,000 ล้านบาทให้กับสหกรณ์ฯ โดยนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯคลองจั่น ซึ่งถูกดีเอสตั้งข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์มากกว่าหมื่นล้านบาทพร้อมพวกรวม 4 คน มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ร่วมกับพนักงานสหกรณ์และอดีตกรรมการสหกรณ์คลองจั่นหลายรายตามรายละเอียดในข่าวดังกล่าวข้างต้น
ต่อประเด็นนี้นายเผด็จ มุ่งธัญญา ประธานดำเนินการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น กล่าวว่า คณะกรรมการสหกรณ์ฯสอบสวนเจ้าหน้าที่และอดีตกรรมการสหกรณ์ ที่มีชื่อปรากฏว่าเป็นผู้ถือหุ้นของ บริษัทยูเนี่ยนอินเตอร์ประกันภัย ได้ข้อสรุปว่าส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่ได้นำเงินของตนไปซื้อหุ้นของยูเนี่ยนอินเตอร์ฯ แต่ที่ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นเนื่องจากนายศุภชัยขอยืมชื่อไปใช้ เพราะบริษัทมหาชนต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 100 คน
นายเผด็จกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องจะยื่นเรื่องขอชำระหนี้จากการชำระบัญชีบริษัทยูเนี่ยนอินเตอร์หรือไม่ ต้องหารือฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปของเงินที่นำไปลงซื้อหุ้นยูเนี่ยนอินเตอร์ว่าเป็นก้อนเดียวกับที่นายศุภชัยถูกข้อกล่าวหาว่ายักยอกจากสหกรณ์ไปมากกว่าหมื่นล้านบาทหรือไม่ เพราะมีธุรกรรมทางการเงินที่ซับซ้อน ซึ่งต่างจากกรณีนายศุภชัยนำเงินสหกรณ์ไปบริจาคให้วัดพระธรรมกายกว่า 900 ล้านบาท ที่ปรากฏเช็คสหกรณ์จ่ายให้วัดพระธรรมกายโดยตรงและมีลายเซ็นของนายศุภชัยอนุมัติ
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
