หลังจากที่ธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ลอตแรก 5,000 ล้านบาท ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ผ่านตลาดกู้ยืมเงินระหว่างธนาคาร หรือ “อินเตอร์แบงก์” เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ปรากฏว่ามีกระแสข่าวลือต่างๆ แพร่สะพัดในสังคมออนไลน์ อาทิ ออมสินปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส. ไปแล้ว 20,000 ล้านบาท เป็นเวลา 9 เดือน
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ผู้ฝากเงิน และป้องกันไม่ให้ผู้ฝากเงินเกิดการตื่นตระหนกแห่มาถอนเงิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน จึงเปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ผ่านตลาดอินเตอร์แบงก์ว่า ถือเป็นการทำธุรกรรมตามปกติของธนาคาร (normal practice) ทั้งนี้เนื่องจากออมสินมียอดเงินฝากประมาณ 1.87 ล้านล้านบาท สินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 2.17 ล้านล้านบาท จึงมีสภาพคล่องส่วนเกินกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งธนาคารนำไปลงทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ เพื่อหาผลตอบแทน

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557
“ที่ผ่านมาออมสินลงทุนในตลาดอินเตอร์แบงก์ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธนาคาร บางครั้งมีสถานะเป็นผู้กู้และบางครั้งก็เป็นผู้ให้กู้เงินกับสถาบันการเงิน 35 แห่ง ปัจจุบันมียอดคงค้างกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการให้กู้ยืมเงินในระยะสั้น มีทั้ง 5 วัน, 7 วัน, 14 วัน, 30 วัน, 45 วัน และ 60 วัน กรณีที่มีข่าวว่าออมสินปล่อยกู้ ธ.ก.ส. นานถึง 9 เดือนนั้น ผมขอปฏิเสธ”นายวรวิทย์กล่าว
นายวรวิทย์อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ออมสินเคยปล่อยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ผ่านตลาดอินเตอร์แบงก์มาอย่างต่อเนื่อง ต่อมากระทรวงการคลังจัดตั้ง “สภาสถาบันการเงินเฉพาะกิจ” ของรัฐขึ้นมาช่วงเดือนตุลาคม 2556 ที่ประชุมสภาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีมติให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ หรือ “แบงก์รัฐ” ที่มีสภาพคล่องเหลือ เช่น ธนาคารกรุงไทย และออมสิน นำสภาพคล่องส่วนเกินปล่อยกู้ให้กับแบงก์รัฐที่ขาดสภาพคล่อง
จากนั้น วันที่ 8 มกราคม 2557 ที่ประชุมกรรมการธนาคารออมสิน (บอร์ด) มีมติให้ธนาคารนำสภาพคล่องส่วนเกินปล่อยกู้เสริมสภาพคล่องให้แบงก์รัฐแห่งละไม่เกิน 20,000 ล้านบาท แบงก์รัฐแต่ละแห่งจะได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของสินทรัพย์ และเครดิตของแต่ละแบงก์
“วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 ธ.ก.ส. ได้ยื่นความจำนงขอกู้เงินกับออมสิน 5,000 ล้านบาท ผ่านตลาดอินเตอร์แบงก์ ซึ่งฝ่ายบริหารเงินของธนาคารได้อนุมัติและโอนเงินให้ ธ.ก.ส. ตั้งแต่วันนั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ออมสินคิดกับ ธ.ก.ส. เป็นความลับของลูกค้า ผมไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการกู้เงินครั้งต่อไป ธ.ก.ส. ยังไม่ได้ยื่นเรื่องเข้ามา ขณะนี้มียอดหนี้คงค้างอยู่ที่ 5,000 ล้านบาทเท่านั้น” นายวรวิทย์กล่าว

ส่วนข้อเท็จจริงกรณีที่มีข่าวกระทรวงการคลังทำบันทึกข้อตกลงค้ำประกันเงินกู้ให้กับ ธ.ก.ส. หรือ letter of comfort นายวรวิทย์ชี้แจงว่า “ผมไม่ทราบและไม่เคยเห็น letter of comfort ที่กระทรวงการคลังทำไว้กับ ธ.ก.ส. ผมเห็นแต่ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ ธ.ก.ส. ออกให้กับออมสิน ระบุว่าออมสินมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วน ธ.ก.ส. เป็นลูกหนี้ ไม่มีใครค้ำประกันทั้งสิ้น และผมไม่เชื่อว่าเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ธ.ก.ส. จะไม่ชำระหนี้ออมสิน เรื่องนี้เป็นเครดิตของแต่ละธนาคาร การปล่อยกู้ในตลาดอินเตอร์แบงก์ที่ผ่านมาไม่เคยพบว่ามีแบงก์ไหนผิดนัดชำระหนี้”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีผู้ฝากเงินบางกลุ่ม อาจจะไม่เข้าใจมาขอถอนเงินฝาก ธนาคารเตรียมแผนรับมืออย่างไร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวว่า “เบื้องต้นผมได้เปิดแถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชน และได้สั่งการให้ผู้จัดการสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทำความเข้าใจแก่ลูกค้า ซึ่งผมขอยืนยัน การปล่อยกู้ผ่านอินเตอร์แบงก์เป็นการทำธุรกรรมตามปกติทั่วไปของธนาคารที่มีสภาพคล่องเหลือ ไม่มีความเสี่ยงใด ขอให้ผู้ฝากเงินมั่นใจได้”
นอกจากนี้ นายวรวิทย์ยังยืนยันต่อสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสินว่า ออมสินจะไม่ปล่อยกู้ให้กับโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง อย่างเช่น เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2557 กระทรวงการคลังเชิญสถาบันการเงิน 35 แห่งมายื่นซองประมูลการให้เงินกู้แก่ ธ.ก.ส. 20,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินก็ไม่ยื่นซองประมูล
แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็อาจจะให้ความช่วยเหลือชาวนาที่ไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายระหว่างรอรับเงินจำนำข้าว โดยในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ประชุมบอร์ดของธนาคารจะมีการพิจารณาเรื่องนี้
วันเดียวกันนั้น สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ผู้บริหารของธนาคารหยุดการปล่อยกู้ให้แก่ ธ.ก.ส. ทันที และขอให้ธนาคารทวงเงินออมสินคืน เนื่องจาก ธ.ก.ส. มีสภาพคล่องมากเพียงพอที่จะนำเงินไปใช้จ่ายในโครงการจำนำข้าวได้ และขอให้ธนาคารงดการปล่อยกู้ทุกรูปแบบแก่ ธ.ก.ส. เพราะเกรงว่าจะกระทบกับความเชื่อมั่นของลูกค้า และอาจจะเกิดความเสียหายต่อธนาคารออมสิน
ขณะที่อนุกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (สร.ธกส.) ภาคใต้ตอนบน ออกแถลงการณ์คัดค้านการกู้ยืมเงินจากธนาคารออมสิน 20,000 ล้านบาท โดยเรียกร้องให้ผู้จัดการออกมาชี้แจง หากเป็นเรื่องจริงจะยกระดับการชุมนุมคัดค้าน โดยขอให้พนักงานแต่งชุดดำมาทำงานวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557