พลันที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐบาลชุดปัจจุบันและรัฐบาลชุดที่แล้ว โฟกัสความสนใจย่อมจับอยู่ “ตู้เซฟ” ของผู้นำคนปัจจุบัน “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อย่างเลี่ยงไม่ได้
เอกสารแสดงรายการทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีที่รายงานต่อ ป.ป.ช. มีรายการที่ยาวเหยียด 35 หน้า อัดแน่นไปด้วยทรัพย์สิน ทั้งที่เป็นเงินสด เงินฝาก อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ เครื่องประดับมีค่าและทรัพย์สินในรูปแบบอื่นๆ อีกจำนวนหนึง รวมแล้ว “ยิ่งลักษณ์” มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 541 ล้านบาท อันเป็นสมบัติส่วนตัวล้วนๆ ไม่นับรวมทรัพย์สินและหนี้สินของคู่สมรส “อนุสรณ์ อมรฉัตร” ซึ่งแม้จะไม่ได้จดทะเบียน และไม่มีความจำเป็นต้องนับรวมด้วย แต่เธอได้แนบรายการทรัพย์สินของสามีมาด้วย
ทรัพย์สินในครอบครองประกอบด้วยมีเงินสด 13 ล้านบาท เงินฝากสถาบันการเงิน 13 บัญชีรวม 38 ล้านบาท แยกเป็นธนาคารกรุงเทพ สาขาซอยอารี 4 บัญชีและเงินลงทุน 5 รายการ ได้แก่ การลงทุนในเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น 5.5 ล้านหุ้น(ราคา ณ 28 กย.2554 ปิดที่ 11.10 บาท/หุ้น ) และเงินลงทุนกองทุนต่างๆ 4 รายการ รวม 81 ล้านบาท
มีเงินกู้ที่ให้พี่ชาย “พายัพ ชินวัตร” ยืมเป็นจำนวน 80.3 ล้านบาท และปล่อยกู้ให้กับบริษัทแอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ซึ่ง “อนุสรณ์ อมรฉัตร” คู่สมรส (ไม่ได้จดทะเบียน) ถือหุ้นอยู่ 4.01 ล้านหุุ้น 3 ครั้ง โดยครั้งแรก 20 ล้านบาท และอีก 2 ครั้งต่อมาครั้งละ 5 ล้านบาท
ยิ่งกว่านั้น ยิ่งลักษณ์ยังถือครองโฉนดที่ดินรวม 13 แปลงรวมมูลค่า 65 ล้านบาท กระจายอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ
รายการทรัพย์สินอื่นๆ ที่น่าสนใจอยู่ในรายการโรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง 36 รายการและยานพาหนะ 8 รายการ มูลค่ารวม 18 ล้านบาท โดยนอกเหนือจากบ้านพัก 2 หลัง หลังหนึ่งอยู่ในซอยนวมินทร์ 111 พร้อมสนามฟุตบอล มูลค่า 110 ล้านบาท และอีกหลังอยู่ที่หมู่บ้านสุดจิตต์นิเวศน์ 1.38 ล้านบาทแล้ว ยิ่งลักษณ์ยังครอบครองห้องชุด 28 รายการ เป็นห้องชุดอาคารชุด ยูคอมเพล็กซ์ คอนโดมิเนียม จังหวัดสมุทรปราการ 27 ห้อง มูลค่าตั้งแต่ 9.5 แสนบาทถึง 1.93 ล้านบาท และอีก 1 ห้องเป็นห้องชุดอาคารเซนทริค ซีน อารีย์ 2 มูลค่า 3.4 ล้านบาท
รถยนต์ 8 รายการประกอบด้วยเบนซ์ 3 คัน แลนด์โรเวอร์ ปอร์เช โฟล์คสวาเก้น บีเอ็มดับเบิลยู และโตโยต้า วีออส ยี่ห้อละคัน ราคาสูงสุด 5.2 ล้านบาท ต่ำสุด 4.4 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย อัญมณีเครื่องประดับและของใช้ส่วนตัว โดยมี 57 รายการ ตั้งแต่แหวนเพชร ไพลิน มรกต และแหวนมีค่าอื่นๆ รวม 21 วง มูลค่าสูงสุด 4 ล้านบาท คือแหวนเพชรเหลือง (2 กะรัต) พร้อมเพชรขาว (3 กะรัต) และมูลค่าต่ำสุด 7 หมื่นบาทเป็นแหวนทองพลอย Blue Sapphire กับ Pink Sapphire
จี้เพชร 3 รายการ รายการที่แพงที่สุดคือ จี้เพชร 13.5 กะรัต มูลค่า 7.7 ล้านบาท รองลงมาเป็นจี้บุษราคัม 26 กะรัตพร้อมเพชร 7 กะรัต มูลค่า 2.15 ล้านบาท รายการที่ถูกสุด 4 หมื่นบาทเป็นจี้ทรงสี่เหลี่ยมฝังเพชร
ต่างหู 19 รายการ ทั้งต่างหูเพชร บุศราคัม ทอง มุกและต่างหูอื่นๆ ราคาแพงสุดเป็นต่างหูไพลิน (ข้างละ 9 กะรัต) พร้อมเพชร คู่ละ 2.5 ล้านบาท และมูลค่าถูกสุด 7 หมื่นบาทมี 2 คู่ ได้แก่ ต่างหูบุศราคัมล้อมเพชรรูปหยดน้ำ และต่างหูเพชร CHANEL
เข็มกลัด 4 รายการเป็นเข็มกลัดเพชร 2 รายการได้แก่ เข็มกลัดเพชร 20 กะรัตมูลค่า 9.9 แสนบาทและเข็มกลัดเพชรมูลค่า 6 แสนบาท ที่เหลือเป็นเข็มกลัดลายดอกไม้ตูมประดับมุกฝังเพชร ราคา 8 หมื่นบาท และเข็มกลัดลายไทยราคา 1 แสนบาท
สร้อยคอและกำไลข้อมือ 5 รายการ เป็นทั้งสร้อยมุกขาวเม็ดเล็กหลายเส้นพันเกลียว สร้อยมุกขาวเม็ดใหญ่ และสร้อยคอทองลายจุดติดกันฝังเพชร ราคา 7 หมื่นถึง 2 แสนบาท พร้อมด้วยสร้อยข้อมือเพชร 2.7 แสนบาท และกำไลสีเงินยี่ห้อ Cartier ราคา 1.5 แสนบาท
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับอัญมณีที่เป็นชุดอีก 5 ชุด ได้แก่ ชุดสร้อยคอทับทิมล้อมเพชรและต่างหูทับทิมล้อมเพชร ราคาแพงที่สุด 1.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4 ชุด เป็นชุดสร้อยคอเพชรล้วน 2 ชุด ชุดสร้อยคอเพชรทองคำขาว และชุดเครื่องเพชรประดับมุกอีกอย่างละชุด มูลค่าถูกสุด 2 แสนบาทถึง 7 แสนบาท
เฉพาะเครื่องประดับอัญมณีราคารวมกัน 41,780,000 บาท
นาฬิกาข้อมือเป็นเครื่องประดับอีกประเภทหนึ่งที่ยิ่งลักษณ์สะสมมีทั้งสิ้น 9 รายการ เป็นนาฬิกา ROLEX สายทองคำฝังเพชร และสายโลหะสีทองสลับสีเงินฝังเพชรอย่างละเรือน ราคา 4 แสนบาทและ 1.2 แสนบาทตามลำดับ
นาฬิกายี่ห้อ PATEK PHILIPPE อีก 2 เรือน สายโลหะสีเงินฝังเพชรและสายยางสีเทาดำ ราคา 2.5 แสนบาท และ 2.8 แสนบาท ที่เหลือเป็นนาฬิกายี่ห้อ FRANCK MULLER ยี่ห้อ TAG HEUER และยี่ห้อ PIAGET อย่างละเรือน ราคา 2 แสนบาท 1.2 แสนบาท และ 1 หมื่นบาท รวมกับนาฬิกายี่ห้อ CARTIER อีก 2 เรือน สายโลหะสีเงินและสายโลหะสีทองสลับเงิน ราคา 1.5 แสนบาท และ 2.8 แสนบาท
ทรัพย์สินอื่นๆ ที่มาเป็นอันดับสุดท้าย คือ กระเป๋าถือ 7 ใบ ทุกใบเป็นกระเป๋ายี่ห้อ HERMES รวมมูลค่า 2.1 ล้านบาท ราคาถูกสุด 2.4 แสนบาท และราคาแพงสุด 3.5 แสนบาท
เมื่อรวมทรัพย์สินอื่นๆ ทั้ง 73 รายการ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 45,690,000 บาท
เครื่องเพชรอภิสิทธิ์-คู่สมรสแค่ 4.4 ล้านบาท
ส่วนรายการทรัพย์สินอื่นๆ ของรัฐมนตรีในรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” โดยเฉพาะรายการทรัพย์สินของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ (รวมคู่สมรส ผศ.ดร. พิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ) และนางพรทิวา นาคาศัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาลองเทียบเคียงพบการสะสมอัญมณีและเครื่องประดับซึ่งแตกต่างกันมาก
อดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์และคู่สมรสมีเครื่องประดับอัญมณีและนาฬิการวมกัน 29 รายการ อาทิ นาฬิกา 8 เรือน เป็นยี่ห้อ PATEK PHILIPPE และยี่ห้อ Jaeger-LaCoultre รุ่น Reverso อย่างละเรือน ที่เหลือไม่ปรากฎว่าเป็นยี่ห้อใด ราคาสูงสุด 4.2 แสนบาท และราคาต่ำสุด 2.5 หมื่นบาท
เครื่องประดับอัญมณี มีแหวนเพชร 2 วง ราคา 2 แสนบาทและ 3 แสนบาท มีสร้อยคอมุก 10 เส้น ราคาแพงสุด 6.5 แสนบาทและราคา 5 หมื่นบาท สร้อยคอและสร้อยคอทองคำ 2 เส้นราคา 2 หมื่นบาทและ 2.5 หมื่นบาท ต่างหู 7 คู่ ราคารวม 6.3 แสนบาท จี้และเข็มกลัดอย่างละอัน ราคา 6 หมื่นบาทและ 3 หมื่นบาทตามลำดับ
รวมแล้วอดีตนายกฯ และคู่สมรสมีมูลค่า 4,463,000 บาท
พรทิวาสะสมอัญมณี 11 รายการ 30 ล้านบาท
ขณะที่พรทิวาสะสมเครื่องประดับอัญมณี 11 รายการ ประกอบด้วยจี้ทับทิม จี้มุก 2 อันมูลค่ารวม 7.95 แสนบาท แหวนเพชร แหวนทับทิม แหวนมุก แหวนไพลิน แหวนบุศราคัม และแหวนยี่หร่า 9 วง มูลค่ารวม 7.19 ล้านบาท กำไลทับทิมฝังเพชร 1 อัน มูลค่า 3.5 แสนบาท สร้อยข้อมือทับทิม 5 เส้น มูลค่า 1.24 ล้านบาท สร้อยข้อมือฝังเพชร 4 เส้น มูลค่ารวม 2.69 ล้านบาท สร้อยข้อมือมุก 1 เส้น ราคา 2.4 แสนบาท ต่างหูทับทิม ต่างหูเพชร ต่างหูมุก 6 คู่ มูลค่ารวม 16.04 ล้านบาท สร้อยคอเพชร 1 เส้น มูลค่า 1.8 แสนบาท สร้อยเพชรฉลุ 1 เส้น มูลค่า 4.7 แสนบาท ชุดเครื่องมุก (ต่างหู แหวน สร้อยคอ) มูลค่า 6.7 แสนบาท ชุดเครื่องมุก (ต่างหู แหวน จี้) มูลค่า 5.2 แสนบาทพระมรกต 1 องค์มูลค่า 1.3 ล้านบาท
รวมแล้วอดีตรัฐมนตรีพรทิวามีทรัพย์สินอื่นๆ ในรูปเครื่องประดับอัญมณีและพระมรกตรวมมูลค่า 31,690,000 บาท
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
