ThaiPublica > คอลัมน์ > ช่วยด้วยฉันติดกับดักการพนัน

ช่วยด้วยฉันติดกับดักการพนัน

4 กันยายน 2020


ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน

คนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปกว่า 75% มีประสบการณ์การเล่นพนัน บ้างเล่นน้อย บ้างเล่นมาก บ้างเล่นเป็นครั้งคราว บ้างเล่นประจำ บ้างนานๆ เล่นที หรือบ้างก็เลิกแล้วครับ หนูเลิกพนันแล้วค่ะ

พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 ระบุชื่อการพนันไว้ในบัญชีแนบท้ายกฎหมายกว่า 50 ชนิด จำนวนหนึ่งเป็นการพนันที่ห้ามเล่นโดยเด็ดขาด เช่น พวกไฮโล โปปั่นต่างๆ อีกจำนวนหนึ่งซึ่งมากพอๆ กันเป็นการพนันที่อนุโลมให้เล่นได้หากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ เช่น แข่งม้า ชกมวย และการละเล่นเสี่ยงโชคในงานวัดหรืองานกุศลต่างๆ รวมถึงสลากสารพัด ทั้งสลากกาชาด สลากการกุศล และสลากกินแบ่ง

หากเอาการพนันทั้งกว่า 50 ชนิดนี้มาจัดเป็นกลุ่มๆ อาจพอจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม

1. พนันจำพวกทายผลตัวเลขหรือสัญลักษณ์ (lotto) ซึ่งได้แก่ หวยต่างๆ ทั้งหวยสัตว์ หวยกล่อง หวยปิงปอง หวยตัวเลขไม่ว่าจะบนดินหรือใต้ดิน หรือหวยสัญชาติต่างๆ ที่ชวนเล่นกันเกลื่อนทางออนไลน์

2. พนันจำพวกทายผลเหตุการณ์ต่างๆ (betting) ซึ่งกลุ่มใหญ่ ได้แก่ การทายผลการแข่งขันทั้งหลาย เช่น การแข่งกีฬา ทั้งกีฬาสากลอย่างฟุตบอล มวย หรือการแข่งการละเล่นพื้นบ้านพวกตีไก่ กัดปลา วัวชน และอื่นๆ และยังรวมถึงการทายผลเหตุการณ์สารพัด เช่น ฝนจะตก แดดจะออก เด็กจะคลอด ซึ่งสามารถยกมาเป็นหัวข้อการท้าทายเพื่อเล่นการพนันได้ทั้งสิ้น

3. พนันจำพวกเกม (gaming) ซึ่งได้แก่การพนันที่มีการออกแบบให้เป็นเกม มีกฎกติการมารยาท เช่น ไพ่ต่างๆ หรือกลุ่มเกมบ่อนเกมคาสิโนทั้งไฮโล รูเลตต์ รวมทั้งการพนันกับเครื่องเกม เช่น สลอตแมชชีน ตู้ม้า และอื่นๆ

การพนันทั้งสามจำพวกนี้ผู้เล่นสามารถเข้าเล่นได้ด้วยวิธีการหรือช่องทางที่หลากหลาย ทั้งการเล่นกันเองในกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว เล่นกับเจ้ามือ เล่นฝากผ่านคนกลาง เช่น คนเดินโพยหวย โพยบอล ซึ่งนับเป็นช่องทางดั้งเดิมในการเล่นพนัน และปัจจุบันได้เกิดพัฒนาการใหม่ คือ การเล่นผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเล่นกับเว็บพนันผู้เป็นเจ้ามือได้อย่างไม่ต้องเห็นหน้าเห็นตา

แต่ไม่ว่าจะเล่นพนันจำพวกไหน เล่นผ่านช่องทางใด พนันก็ยังคงเป็นพนันเช่นเดิม ที่ยั่วยวนและจูงใจผู้เล่นด้วย “รางวัล” (reward system) หากพนันใดที่ดูเหมือนวางเดิมพันน้อย แต่มีรางวัลใหญ่ และดูเล่นง่ายๆ ได้ไม่ยาก ยิ่งมีแรงดึงดูดมากให้อยากเล่น ธุรกิจการพนันเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงพยายามออกแบบเกมพนันที่จูงใจให้คนอยากเล่น เช่น เป็นเกมที่เล่นง่ายๆ แค่ตัดสินใจแทงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือเลือกเลขใดเลขหนึ่ง หรือแค่กดปุ่มแบบสุ่มๆ ก็มีโอกาสได้รางวัล เท่านี้ก็จูงใจให้คนจำนวนหนึ่งตัดสินใจลองเล่น

แต่ความเข้าใจที่มากกว่านั้น คือ ธุรกิจพนันก็เข้าใจด้วยว่า “รางวัลคือสิ่งที่ทุกคนโหยหา” จึงหาวิธีที่จะเพิ่มขนาดของรางวัลให้ยั่วใจยิ่งขึ้น เช่น กำหนดให้มีรางวัลใหญ่ มีการสมทบรางวัล หากไม่ถูกตอนแรกๆ แต่ไปถูกตอนหลังๆ รางวัลจะกลายเป็นขนาดใหญ่จำพวกรางวัลแจ็กพอต ซึ่งยิ่งรางวัลใหญ่มากผู้เล่นก็ยิ่ง “ว้าว” มาก

ที่แยบยลที่สุดของการออกแบบเกมพนันก็คือ การออกแบบให้ผู้เล่นพนันเกิดความรู้สึก “เกือบชนะ” ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วไม่ได้ชนะพนัน แต่ผู้เล่นมีความรู้สึกว่าใกล้จะชนะอยู่แล้ว และรู้สึกเสียดาย จึงมิอาจตัดใจเลิกเล่น จึงเล่นต่อเพราะคิดว่าใกล้จะชนะพนันในไม่ช้า

ฉะนั้น เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ต้องสะดุดหยุดรอ ธุรกิจพนันจึงเต็มใจจะให้ผู้เล่นที่รู้สึก “เกือบชนะ” นี้ได้มีโอกาส “แก้มือ” ยิ่งทันทีทันใดเท่าไรยิ่งดี ซึ่งระบบออนไลน์ได้มาช่วยตอบโจทย์นี้อย่างลงตัว เพราะผู้เล่นพนันสามารถเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากทุกมุมเมืองที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่สำคัญคือ เราจะพบว่าผู้เล่นพนันส่วนใหญ่มักจะเล่นด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้นๆ ทุกทีๆ ในระยะยาว จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นพัน เป็นหมื่น และเป็น…

ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นพนันจึงมักจะไม่ค่อยรอดพ้นจาก “กับดัก” ของการพนัน จากการไม่รู้ทันความแยบยลของเกมพนันที่ฝ่ายธุรกิจสร้างขึ้น และรู้ไม่เท่าทันความคิด และอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง

“กับดักการพนัน” ตัวใหญ่ๆ ที่ผู้ชื่นชอบเล่นพนันทั้งหลาย ทั้งคอหวย คอมวย คอบอล และคอบ่อน มักไม่ค่อยรอด เช่น

1. กับดัก “โลกสวย” เพราะเกมพนันถูกออกแบบให้ดูง่ายๆ และสร้างความเข้าใจว่า “เล่นง่ายๆ ได้เงินง่ายๆ” คอหวย คอมวย คอบอล และคอบ่อนทั้งหลายจึงก้าวเข้าหาการพนันด้วยความคิดนี้ โดยหาเข้าใจว่าแท้จริงธุรกิจพนันเขาออกแบบไว้แล้ว “ให้เล่นง่ายๆ ได้ยากๆ” … อยากโลกสวยก็เข้ามาลองเล่นดูสิ

2. กับดัก “ติดใจ” บอกแล้วว่า “รางวัล” คือตัวทำงานของการพนัน ฉะนั้น ใครก็ตามที่เคยได้รางวัล จึงมักจะเกิดอาการติดใจ ใครเคยถูกหวย เคยได้ป๊อกเด้ง เคยได้สลอต เคยได้บอล ย่อมอยากได้อีก ฉะนั้นจึงอยากเล่นอีก โดยลืมไปว่า “โลกของการพนันมันไม่สวยอย่างที่คิด” ยิ่งเล่นอีกก็เสียอีก โดยอาจจะไม่ได้อีกอย่างที่หวังไว้

3. กับดัก “เพื่อนโชค” ความเชื่อเรื่องโชคเรื่องดวงเป็นเรื่องปกติของคนส่วนใหญ่ และนักพนันมักจะมีความเชื่อที่เป็นอมตะว่า “โชคต้องเข้าข้างเราสักครั้งนึง” จึงต้อง “เปิดประตูดวง” รอโชคที่จะมา ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดประตูแต่ละครั้งนั้นต้องมีรายจ่าย ยิ่งเปิดนาน ยิ่งเปิดหลายบาน ยิ่งมีรายจ่ายมาก โดยไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อไร “โชค” ที่เราคิดว่าเขาเป็นเพื่อนเรา จะมาเยี่ยมเราสักครา

4. กับดัก “ทีเด็ด” ใครว่าในโลกพนันไม่มี “ไอโอ” (information operation) หรือ “ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร” เพราะผู้เล่นพนันต่างต้องการความเชื่อมั่นในการตัดสินใจเดิมพัน จึงพยายามอ้างอิงข้อมูลจากสารพัดแหล่ง ทั้งข้อมูลจากผู้รู้หรือ “กูรู” ทั้งหลาย ข้อมูลจากแหล่งศักดิ์สิทธิ์ พิสดาร อภินิหารต่างๆ เชื่อแม้กระทั่งข้อมูลที่ “ลอยมาในอากาศ” อย่างปราศจากต้นทาง เหล่านี้ด้านหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่เป็นไปเองตามสภาพ แต่ในอีกด้านหนึ่งเรื่องนี้มีกระบวนการบริหารจัดการโดยธุรกิจการพนันที่หวังผลประโยชน์จากความเชื่อมั่นที่มากขึ้นของผู้เล่นพนัน เพราะแน่นอนว่า ยิ่งผู้เล่นพนันเชื่อมั่นในข้อมูลนั้นมาก การลงเดิมพันมากย่อมตามมา โดยหารู้ไม่ว่า “ข้อมูลทีเด็ด” เหล่านั้นมีเจตนาปั่นมาจากต้นทาง

5. กับดัก “เฉียด” เฉียดคือใกล้ และใกล้คือไม่ใช่ แต่ความรู้สึกเสียดายได้นำมาซึ่งการปรุงแต่งทางอารมณ์สารพัด ทำไมมันไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเราทำอย่างนั้นอย่างนี้เราคงได้ไปแล้ว พยายามคิดทุกตลบที่จะไปเปลี่ยนแปลงอดีตที่ทำให้พลาดหวังไป และสุดท้ายก็จะให้กำลังใจตัวเองว่า “ไม่เป็นไร พลาดไปแล้วลุ้นใหม่ได้” เพราะเชื่อโชค หลงว่าเฉียดคือใกล้ โดยหารู้ไม่ว่า แท้จริงธุรกิจพนันเขาออกแบบเกมเพื่อสร้างความรู้สึกนี้ เพราะเขาเข้าใจดีว่า “คนหัวร้อน” มีอาการอย่างไร

6. กับดัก “ไล่ล่า” นี่คือบทสุดท้ายของคนเล่นพนัน ที่เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางด้วยความคิดแบบโลกสวยและมีโชคคอยช่วย แต่ก็เจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับความรู้สึกเฉียด และเจ็บใจมากกับจำนวนเงินที่เสียไปที่พอกพูนมากขึ้นๆ สุดท้ายคนเล่นพนันจึงคิด “ไล่ล่าจะเอาเงินที่เสียไปคืน” มารู้ว่า “โลกไม่สวยเมื่อสายเสียแล้ว” และจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา กว่าจะหยุดไล่ล่าก็แทบจะหมดตัว

นี่คือสัจจธรรมแห่งโลกการพนันที่หลายคนไม่เข้าใจ