ThaiPublica > คอลัมน์ > “อย่าหาว่าน้าสอน”

“อย่าหาว่าน้าสอน”

27 มีนาคม 2022


ธนากร คมกฤส

“น้าเน็ก” เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง ตามความหมายของสังคมปัจจุบันที่เรียกมักคุ้นกันว่า “influencer” ซึ่งแตกต่างจากความหมายของผู้มีอิทธิพลแบบเดิม ที่มักจะหมายถึงผู้ที่มีอิทธิพลในระบบสังคมอุปถัมภ์ค้ำจุน

Marketing Blog ให้ความหมาย Influencer (อินฟลูเอนเซอร์) ว่า “ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล โดยเป็นผู้ที่ทำคอนเทนต์เผยแพร่ตามแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Blog, Instagram, Facebook, YouTube แล้วมีคนสนใจติดตาม ยิ่งมีผู้ติดตามมากก็ยิ่งมีอิทธิพลมาก ผู้ติดตามส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยทำงาน และมักคล้อยตามเนื้อหาหรือสิ่งที่ Influencer พูดโน้มน้าวใจได้ง่าย เพราะรู้สึกถึงความใกล้ชิดและจริงใจกว่าสื่อโฆษณาของแบรนด์ต่างๆ”

ด้วยความเป็นผู้ใฝ่รู้ อ่านหนังสือมามากมาย ผ่านการทำงานมาหลากหลายบทบาทและอาชีพ และเป็นผู้มีสติปัญญาปฏิภาณไหวพริบเฉียบคม อินฟลูเอนเซอร์อย่างน้าเน็กจึงสามารถตอบคำถามได้สารพัด ทั้งเรื่องงาน ความรัก ครอบครัว เพื่อน การใช้ชีวิต และอื่นๆ อีกจิปาถะ ด้วยลีลาและวาทะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในบรรดาหลากหลายเรื่องราวที่คนรุ่นใหม่โทรมาคุยขอคำแนะนำปรึกษาจากน้าเน็ก มีหลายเคสที่โทรมาปรับทุกข์เรื่อง “การพนัน”

หนุ่มคนหนึ่งโทรมาเล่าเรื่องเพื่อนสมัยมัธยม เป็นเด็กเรียนเก่งที่ดูมีอนาคตไกล แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วไปหลงเล่นพนัน

น้าเน็กตอบว่า “การพนันมันมีสิ่งที่เรียกว่าเสน่ห์ก็ได้ เรียกว่าเวทย์มนต์ก็ได้ เรียกว่าอาถรรพ์ก็ได้ มันเป็นของประหลาดมากๆ อาถรรพ์แรกก็คือเมื่อเริ่มเล่นใหม่ๆ เรามักได้เสมอ เช่น ไม่เคยเล่นป๊อกเด้งมาก่อนเลย นั่งขัดสมาธิลงไปแจม ก็ได้ นี่คืออาถรรพ์ ไม่รู้เป็นอะไร อันนี้ไม่มีคำตอบ ไม่ใช่เรื่องงมงายด้วย แต่เป็นข้อสังเกตที่ประหลาดมาก”

“สอง เสน่ห์ของมันก็คือว่ามันมีความเร้าใจอะไรบางอย่าง มันกระตุ้นสัญชาตญาณอะไรบางอย่าง มันเร่งการเต้นของหัวใจและการสูบฉีดเลือด ทำให้เราตื่นเต้น มันทำให้เรา burn มันทำให้เราแทบไม่ลุกขึ้นไปไหนเลย เวทมนตร์ของมันเปลี่ยนความเชื่อของเราบางอย่าง มันทำให้เรามีความใจกล้าบ้าบิ่น ทำให้รู้สึกว่าเรามีเงิน 1 แสนบาทในมือ มันทำให้เราเชื่อว่าอาจจะมีกลายเป็น 1 ล้านได้ภายในคืนเดียว ซึ่งบางทีมันก็เกิดขึ้น บางทีมันก็ไม่เกิดขึ้น ความเป็นไปได้ในการพนัน มันมีทุกอย่าง นี่คือเวทย์มนตร์ของมัน”

หนุ่มอีกคนโทรมาเล่าว่าตนเล่นพนันออนไลน์หมดเงินไปเป็นล้าน ถึงขั้นคิดจะฆ่าตัวตาย และยังเลิกเล่นพนันไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าควรจะเลิก
น้าเน็กสอนน้องว่า “การพนันมันไม่น่าเล่นตรงไหนรู้ไหม? … ตรงที่ เราไม่มีวันชนะเจ้ามือ!! เพราะเจ้ามือแม่งได้เปรียบเราแทบทุกอย่าง การพนันมันเป็นอะไรที่ไม่แฟร์”

“ในคณิตศาสตร์มันมีหมวดลับๆ อยู่หมวดหนึ่ง เขาเรียกว่า ‘คณิตศาสตร์การพนัน’ เพื่อเอาไว้คำนวณว่าการพนันไหนเอาเปรียบเรา โลกนี้จะมีแต้มต่ออะไรบางอย่างที่บ่อนมันจะได้เปรียบเราในเชิงคณิตศาสตร์ และเราเอาชนะคณิตศาสตร์นี้ไม่ได้ มันคิดกติกาไว้ทุกอย่างที่เราไม่สามารถเอาชนะมันได้ ยังไม่นับเรื่องโกงไม่โกง!!”

สาวคนหนึ่งโทรมาขอกำลังใจจากน้าเน็ก เพราะพี่สาวของเธอผลาญทุกอย่างที่พ่อแม่สร้างไว้ให้ไปกับการพนัน น้าเน็กปลอบใจเธอและใช้เรื่องของพี่สาวเธอเป็นอุทธาหรณ์สอนคนว่า

“มนุษย์เราก็แปลกที่มักจะไม่จำและก็ยังมีคนเชื่ออยู่ว่า จะสามารถร่ำรวยกับการพนันได้ ทั้งๆ ที่วิธีคิดเกี่ยวกับการพนันมันง่ายมากเลย คือ ‘เสียมากกว่าได้เสมอ’

“แต่การได้ 1 ครั้งของเรามันยิ่งใหญ่มาก และการเสีย 10 ครั้งของเรามันดูเล็กน้อยจังเลย ทำไมเราเห็นอย่างนั้นได้วะ? แล้วทุกคนที่เล่นพนัน หวังอย่างเดียวว่า ‘จะเกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นกับกู’ ทุกคนก็ฝากเรื่องนี้ไว้กับโชค ดวง และเชื่อว่ากูจะดวงดี … คำถามคือเอาอะไรมาเชื่อ!!! และการพนันมันก็หากินจากเราตรงความเชื่อนี่แหละ”

“คนเล่นการพนันมีเป็นแสนเป็นล้านคน แล้วการพนันมีคนเสียมากกว่าได้ จึงมีคนเอาเงินมาให้บ่อนเยอะกว่าที่บ่อนจะเสีย บ่อนก็นั่งตบทรัพย์ ยิ่งคนที่เล่นการพนันทุกคนหวังว่ากูจะโชคดี สุดท้ายเป็นไง ลามเลย … โจรขึ้นบ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้าน 1 ครั้ง ไฟไหม้บ้าน 10 ครั้ง ไม่เท่าเสียพนันครั้งเดียว ไปทั้งบ้าน ทั้งโฉนดที่ดิน นี่คือพิษภัยของการพนัน ที่พี่พยายามให้ลูกเพจของเราได้เข้าใจ”

อีกหนุ่มหนึ่งโทรมาขอบคุณน้าเน็กว่า “สิ่งที่น้าทำอยู่มันมีคุณค่ามาก มันทำให้ผมผ่านช่วงเวลาร้ายๆ ช่วงหนึ่งที่ไปข้องเกี่ยวกับการพนันได้ … สิ่งที่น้าพูดมันทำให้ผมตาสว่าง”

น้าเน็กตอบรับคำขอบคุณของหนุ่มคนนี้ว่า “แค่ต้องมีใครเตือน เพราะทุกคนที่เล่นพนันมักจะคิดว่า “กูจะชนะเจ้ามือได้”

“คิดดูนะ เจ้ามือหรือบ่อน เขาไม่ได้เล่นกับน้องคนเดียว เขาเล่นกับคน 100 คนพร้อมกัน ถ้าเจ้ามือคือพี่น้องคือ 1 ใน 100 คนที่กำลังเล่นกับพี่อยู่ แล้วเกมที่น้องเล่นกับพี่อยู่นี่มีเปอร์เซ็นต์เสียมากกว่าได้ เข้าใจความหมายไหม นั่นแปลว่า พี่หากินกับคณิตศาสตร์ คนที่เล่นกับพี่ในเปอร์เซ็นที่เสียให้พี่ง่ายมากกว่าได้ นั่งเต็มบ่อนเลย ต่อให้น้องกินพี่ไปเท่าไร แต่อีก 99 คนเติมเงินให้พี่ไม่หยุดอะ เงินจึงไม่ได้ออกจากกระเป๋าพี่เลย เงินที่พวกน้องใส่กันนี่แหละ แล้วสุดท้ายเมื่อบ่อนปิด พี่ก็ได้กำไรเสมอ”

สิ่งที่น้าเน็กต้องการจะสื่อถึงบรรดาคนรุ่นใหม่ที่รับฟังเขาอยู่ คืออยากจะบอกเพียงว่า

“การพนันเป็นสิ่งที่ไม่แฟร์ เพราะเจ้ามือกุมความได้เปรียบอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การกำหนดกฎกติกาและรูปแบบของเกมพนัน ที่ทำให้เขามีโอกาสชนะมากกว่า แต่คนเล่นพนันมักจะหลงในเสน่ห์ ในเวทมนตร์ ในอาถรรพ์ของการพนัน หลงเชื่อไปเองว่าตนจะชนะพนันได้ง่ายๆ และจะสามารถร่ำรวยได้จากการพนัน จึงทำให้เหลงเข้าไปเล่นแล้วยากที่ถอนตัว”

นี่คือสิ่งที่ทั่วโลกพยายามจะส่งสารสื่อเดียวกันให้ประชาชนของตนได้เข้าใจ บางประเทศถึงขนาดพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในชั้นเรียน ทำเป็นเกมเรียนรู้ให้เข้าถึงเด็กได้ง่ายๆ รวมถึงการจัดสรรงบประมาณจำนวนไม่น้อยเพื่อสื่อสารรณรงค์ให้คนในสังคมตื่นตัวและรู้เท่าทันการพนัน

รัฐบาลรวมถึงทุกภาคส่วนในสังคมที่ตระหนักต่อปัญหาการพนัน ควรสนับสนุนให้มีกระบวนการ “จุดไฟสว่าง” อย่างที่น้าเน็กทำให้มีมากขึ้นๆ ไม่จำเป็นต้องอาศัยบุคคลที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์เท่านั้น ขอเพียงแต่ให้มีการส่งสารสื่อเหล่านี้เข้าไปถึงกลุ่มเป้าหมายทุกๆ ช่องทาง ด้วยเสียงที่น่าฟัง และมีความถี่ที่มากพอ

ทุกสายที่โทรมาขอให้น้าเน็กสอน ยืนยันให้เราเห็นว่า “การพนันไม่ใช่เรื่องสวยงาม ที่จะปล่อยให้มีอย่างเกลื่อนกลาดดาษดื่นในสังคม และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการให้ความรู้ที่เพียงพอแก่ประชาชน”

ขอชื่นชม “น้าเน็ก” เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และทีมงาน “อย่าหาว่าน้าสอน” และขอเป็นกำลังใจให้แก่เจ้าของเรื่องราวทุกคนผู้โทรมาแบ่งปัน โชคดีที่พวกท่านโทรติด และได้คุยกับน้าเน็ก