ThaiPublica > เกาะกระแส > ดีอี เปิดรายงาน-ข้อเสนอ พบปิดเว็บ ‘พนันออนไลน์’ 62,215 โดเมน พบเงินตกค้างบัญชีม้ากว่า 1.5 พันล้าน

ดีอี เปิดรายงาน-ข้อเสนอ พบปิดเว็บ ‘พนันออนไลน์’ 62,215 โดเมน พบเงินตกค้างบัญชีม้ากว่า 1.5 พันล้าน

25 มกราคม 2025


เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอผลการดำเนินงาน พร้อมข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)

สืบเนื่องจากมติ ครม. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีการมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นเจ้าภาพในเรื่องการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ (1) กระทรวงยุติธรรม (กรมสอบสวนคดีพิเศษ: DSI) (2) สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) (3) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) (4) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) (5) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) (6) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) (7) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) (8) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ (9) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.)

โดยมติ ครม. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 กำหนดให้ ดศ. สรุปผลแล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ รายงานสรุปผลโดย ดศ. ได้เข้าที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568

อย่างไรก็ตาม ภายใน 30 วันที่กำหนดไม่ได้มีความคืบหน้าเพิ่มเติมจาก ดศ. จนกระทั่ง ดศ. มีหนังสือลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เรื่องข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์และมีข้อเสนอแนะ ในการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ และเห็นชอบแนวทางอื่น โดยนำระบบการอนุญาตให้ผู้จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าควบคุม กำกับ ติดตาม ตามข้อเสนอของ ป.ป.ช. และมีหนังสือลงวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ใจความว่า รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ขอถอนเรื่องนี้ไปก่อน

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า เปิดเอกสารผลการดำเนินงานและข้อเสนอแนะการป้องกันพนันออนไลน์ ดังนี้

ยกระดับ คกก. ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดึง อส.-อธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการ

ประเด็นแรกคือ ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดย ป.ป.ช. เห็นว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ ซึ่งมีองค์ประกอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ ป.ป.ช. เสนอ รวมทั้งเห็นว่า สมควรมีแนวทางอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ที่เกิดขึ้น และสมควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น

ขณะที่ ดศ. เรียนว่า ปัจจุบันมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานกรรมการ, ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธาน, ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธาน, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย เป็นกรรมการ, และมีผู้แทนสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เข้าร่วมการประชุมด้วย เพื่อดำเนินการแก้ไขบัญชีม้า และปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีลักษณะเป็นการหลอกลวง

ดังนั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงสามารถยกระดับเป็นคณะกรรมการระดับชาติ ตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช. โดยกำหนดหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการฯ ให้รวมถึงการแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ด้วย และเพิ่มองค์ประกอบของกรรมการ ได้แก่ อัยการสูงสุด อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อให้มีความเหมาะสม ครอบคลุมถึงการแก้ไขปัญหาพนันออนไลน์ การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในทุกมิติ

จากข้อมูลการพิจารณาของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการจัดระเบียบสังคม ในคณะกรรมาธิการปกครอง มีประเด็นสำคัญที่กำหนดเพิ่มเติมให้มีการจัดให้มีการเล่นหรือพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถเข้าไปควบคุมผู้จัดให้มีการเล่นหรือพนันผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ระบบการอนุญาต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการจัดระเบียบสังคม ยังเป็นการป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนเข้ามาเล่นหรือพนันออนไลน์หากอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด นับเป็นการสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการควบคุม กำกับ ติดตาม 

อีกทั้งยังมีความสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสามารถเก็บภาษีหรือค่าธรรมเนียมจากผู้ได้รับใบอนุญาตสำหรับการพนันหรือพนันออนไลน์ได้

ปิดเว็บพนัน 62,215 โดเมน

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ปฏิบัติการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่ตั้งฐานบริเวณชายแดนโดยกำชับให้ ตร. เร่งบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกับ ดศ. เพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ อีกทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการด้านการสื่อสารควบคุมการให้บริการให้อยู่เฉพาะภายในพื้นที่อาณาเขตประเทศไทย 

นอกจากนี้ ยังกำชับ ตร. โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ให้เร่งบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปราบปรามทางเทคโนโลยี 3 ด้าน ประกอบด้วย (1) ด้านการปราบปรามและการจับกุม (2) ด้านการปิดเว็บ และ (3) ด้านการตรวจสอบบัญชีม้า

ดศ. อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในการปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม วันที่ 30 กันยายน 2567 ดังนี้ 

  • ปิดกั้นเว็บไซต์หลวงทุกประเภท จำนวน 150,314 URLS/โดเมน และเว็บไซต์พนัน จำนวน 62,215 URLs/โดเมน ตามคำสั่งศาล เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกัน ในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 ปิดกั้นทั้งหมด จำนวน 17,670 URLs/โดแมน ตามคำสั่งศาล เป็นเว็บไซต์พนัน จำนวน 2,058 URLs/โดเมน ตามคำสั่งศาล
  • ปิดกั้น โดยอาศัยความร่วมมือกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เช่น บริษัท LINE Thailand ควบคุมและป้องกันการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ ในช่วงวันที่ 6 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ตรวจพบบัญชีมีความเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ จำนวน 4,927 บัญชี ปิดกั้นไปแล้ว 2,898 บัญชี

ดศ. พบว่า ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไม่ปฏิบัติตามการปิดกั้นเว็บไซต์การพนันออนไลน์ หรือระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์จากระบบคอมพิวเตอร์ไม่ครบถ้วนตามคำสั่ง (กรณีเกี่ยวกับการพนันออนไลน์) มีจำนวนทั้งสิ้น 178 URL/โดเมน คิดเป็นค่าปรับโดยประมาณ 21 ล้านบาท จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 4 ราย

ทั้งนี้ การพัฒนาเครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อสืบค้นเว็บไชต์ โดยได้มีโครงการตรวจจับและวิเคราะห์การกระทำความผิดทางเทคโนโลยีบนเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ที่เผยแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ต โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น AI, Machine Learning (ML), Natural Language Processing (NLP) และ Social Listening มาใช้ในการตรวจสอบ วิเคราะห์การกระทำความผิด/ข้อมูลที่ผิดกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวของดำเนินการปิดกั้นและดำเนินการทางกฎหมายต่อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

จ้างเปิดบัญชีม้า 34,765 ราย เอี่ยวพนันออนไลน์ 15,375 ราย

ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เน้นไปที่การจับกุมและสืบสวนสอบสวนคดีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านและการใช้คริปโทเคอร์เรนซีในธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ 

นอกจากนี้ ตร. ยังได้จัดตั้งศูนย์เพื่อทำหน้าที่ปิดกั้นเว็บไซต์และหน้าเพจที่ส่งเสริมการพนันออนไลน์ตามนโยบายที่กำหนดให้มีการปิดกั้นรายวัน โดยการปราบปรามจับกุมอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและคดีสำคัญ รวมทั้งเร่งรัดจับกุมผู้กระทำความผิดทุกประเภทคดีจำแนกได้ 14 ประเภท ได้แก่ (1) หลอกลวงชื่อสินค้าหรือบริการ (ที่ไม่เป็นกระบวนการ) (2) หลอกให้โอนเงิน (3) เพื่อทำงานหารายได้พิเศษ (4) หลอกให้กู้เงิน (5) หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัลหรือวัตถุประสงค์อื่น (6) คอลเซ็นเตอร์ (7) หลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (8) หลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน (9) หลอกให้ติดตั้งโปรแกรมเพื่อควบคุมระบบ (10) หลอกลวงให้รักและโอนเงิน (11) หลอกเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล (12) หลอกให้ลงทุนฐานความผิดตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (13) หลอกลวงซื้อสินค้าและบริการ (ขบวนการ) และ (14) แฮ็กระบบคอมฯ Ransomware

โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนกันยายน 2567 มีทั้งหมด 34,765 ราย ในจำนวนนี้เป็นผลการจับกุมบัญชีม้าซิมม้า จำนวน 2,897 ราย เฉพาะผลการจับกุมคดีพนันออนไลน์จำนวน 15,375 ราย

พบบัญชีม้าฟอกเงินรวม 1.5 พันล้าน – 5.5 แสนบัญชี

ปปง. ได้มีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีกับบัญชีม้า เพื่อเป็นการป้องปรามการกระทำความผิด และกระบวนการปิดบัญชีหรือถอนชื่อบัญชีออกจากการเป็นผู้ที่สามารถมีบัญชีเป็นการทั่วไป (ขึ้น Blacklist) ในกลุ่มผู้ที่เป็นบัญชีม้าหรือยอมให้ใช้ชื่อตนเองเป็นบัญชีม้าในการขึ้นบัญชีรายชื่อบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากธนาคารที่ถูกใช้ในการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน กรณีพนักงานสอบสวนรับเป็นเลขคดีอาญาหรืออยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนดำเนินการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ถึงเดือนกันยายน 2567 รวมทั้งสิ้น 59,366 ราย โดยมีจำนวนบัญชีที่ธนาคารตรวจสอบพบ 559,843 บัญชี มีมูลค่าเงินคงเหลือในบัญชีจำนวน 1,589 ล้านบาท

สำนักงาน กสทช. พิจารณาดำเนินการร่วมกับ ปปง. สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า และซิมที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง ได้กำหนดมาตรการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์มือถือถือที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้ง จากจำนวน 120.3 ล้านบัญชี พบว่า ผลการตรวจสอบตรงกัน 70 ล้านบัญชี ตรวจสอบไม่ตรงกัน 28.6 ล้านบัญชี และไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากไม่พบข้อมูล 21.7 ล้านบัญชี คิดเป็นอัตราร้อยละ 58 ร้อยละ 24 และร้อยละ 21 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามแผนงานและแนวทางการดำเนินการที่ ปปง. และสำนักงาน กสทช. พิจารณาดำเนินการร่วมกัน

ส่วนการกวาดล้างซิมม้า และซิมต้องสงสัยโดยสำนักงาน กสทช. และผู้ให้บริการโทรคมนาคมได้ระงับซิมม้าแล้ว จำนวน 2.7 ล้านเลขหมาย การระงับเลขหมายโทรออกเกิน 100 ครั้งวัน 101,117 เลขหมาย มีผู้มายืนยันตัวตน 418 เลขหมาย

รื้อ Cell Site ชายแดน 7 จังหวัด 393 สถานี

การดำเนินการเรื่องเสาโทรคมนาคม สายสัญญาณอินเทอร์เน็ต และสายโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ได้ดำเนินการรื้อถอนเสาสัญญาณ (สถานี) ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนติดต่อกับเพื่อนบ้าน รวม 393 สถานี และการกำหนดมาตรการความปลอดภัยสำหรับแนบลิงก์ โดยใช้แนวทางการ Cleaning Sender Name โดย Sender Name ที่ประสงค์ SMS แนบลิงก์จะต้องลงทะเบียนกับผู้ให้บริการทุกครั้ง โดยต้องระบุรายละเอียดของข้อความและลิงก์ก่อนส่ง และผู้ให้บริการตรวจสอบข้อความและลิงก์ทุกครั้งก่อนส่ง SMS ให้กับผู้รับ

DSI หาตัวการใหญ่ เงินในบัญชีหลักพันล้าน

DSI จะทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ที่เป็นเครือข่ายใหญ่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเป็นตัวการใหญ่ จากการดำเนินคดีพบผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่มีเงินในบัญชีเป็นจำนวนมากในหลักหลายพันล้านบาท แต่ไม่มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเป็นจำนวนเงินที่น้อยมาก ไม่สอดคล้องกับการหมุนเวียนของเงินในบัญชีธนาคาร ซึ่งอาจมีความผิดตามประมวลรัษฎากร และพบการกระทำความผิดที่เชื่อมโยงกับบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลากหลายหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานป้องกันและปราบปราม และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น ในการช่วยเหลือ หรือเรียกรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งอาจเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการอันเป็นความผิดมูลฐานของฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

สำนักงานอัยการสูงสุด ได้สร้างระบบบริหารจัดการภายในเพื่อให้สามารถสอบสวนและดำเนินคดีนอกราชอาณาจักรได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกำหนดแนวทางการสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพิ่มการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปราม โดยใช้คณะกรรมการที่มีอยู่ในการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเพื่อกำหนหนดนโยบายและมาตรการจัดการคดีการพนันออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบและครอบคลุมโดยคำนึงถึงทรัพยากรบุคคลที่สามารถรองรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ล็อกวงเงินห้ามทำธุรกรรมออนไลน์ – ลดวงเงินต่อครั้งในการสแกนใบหน้า

ธปท. ได้ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สถาบันการเงินการธนาคาร สมาคมการเงินการธบาคารที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณากำหนดมาตรการของสถาบันการเงินหรือธนาคาร เกี่ยวกับช่องทางการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ การยกระดับความเข้มข้นรัดกุมเกี่ยวกับหลักการตรวจสอบความมีอยู่จริงของลูกค้าอย่างเข้มงวด รวมถึงการพิจารณาเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่และการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ ตลอดจนมีการยกระดับในการปราบปรามเกี่ยวกับบัญชีม้า การดำเนินการตรวจสอบย้อนหลังบัญชีธนาคารที่ต้องสงสัยที่มีการเปิดกับธนาคารแต่ละแห่งเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง การจัดทำฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบบัญชีม้าร่วมกันระหว่างธนาคาร

โดยสถาบันการเงินได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้กำหนดเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการเปิดบัญชีว่าบัญชีใดที่เข้าข่ายต้องสงสัย เพื่อใช้เป็นแนวทางให้ธนาคารตรวจสอบบัญชีที่อาจเป็นบัญชีม้า โดยมุ่งเน้งเน้นธุรกรรมและการเคลื่อนไหวของบัญชีที่มีลักษณะต้องสงสัย เพื่อป้องกันการใช้บัญชีดังกล่าวในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย เพื่อความเข้มข้นของการตรวจสอบโดยใช้ประกอบกับมาตรการเดิมของแต่ละธนาคารที่ถือปฏิบัติอยู่เดิมแล้ว

นอกจากนี้ ธปท. และสมาคมธนาคารไทยได้ร่วมมือกันยกระดับมาตรการเพื่อจัดการบัญชีม้าและป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน โดยเริ่มใช้ระบบ Central Fraud Registry (CFR) แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างธนาคารเพื่อระบุและจัดการบัญชีต้องสงสัยอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ธนาคารจัดการจากระดับ “บัญชี” เป็นระดับ “บุคคล” โดยอ้างอิงข้อมูลจาก ปปง. เพื่อป้องกันการเปิดบัญชีใหม่สำหรับบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ด้วยการตรวจสอบความเสี่ยงจากฐานข้อมูลต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรทำธุรกรรม เช่น การล็อกวงเงินที่ห้ามทำธุรกรรมออนไลน์ และการปรับลดวงเงินต่อครั้งในการสแกนใบหน้า มาตรการเหล่านี้ช่วยป้องกันการใช้บัญชีธนาคารในการกระทำผิดและเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ

นอกจากกนี้ ธปท. ได้ร่วมกับสมาคมธนาคารไทยเพื่อกำชับพนักงานให้เพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชี โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังและมีความรอบคอบอย่างสูงสุด รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่พนักงานและประชาชนทั่วไป เพื่อให้เข้าใจถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อาจเกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชีม้าและการกระทำผิดที่ใช้ช่องทางทางการเงิน

ดีอี เร่งหน่วยงานรัฐ อัพข้อมูลขึ้นคลาวน์

ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2566 ได้กำหนดให้หน่วยงานรัฐดำเนินการย้ายฐานข้อมูลการทำงานของระบบราชการเข้าไปอยู่ใน Cloud Computing เพื่อให้เกิดการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

โดย ดศ. เรียนว่า การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ในการจัดการและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระบบราชการ ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ของข้อมูลในหน่วยงานต่างๆ โดยการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคลาวด์จะช่วยลคคความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไชเบอร์และเพิ่มประสิพธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลที่มีความปลอดภัย เช่น ในกรณีของเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีการแฮ๊กนำเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐไปใช้เป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ เมื่อเว็บไซต์ภาครัฐอยู่ในระบบคลาวต์จะทำให้มีความมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบคลาวด์

ทั้งนี้ ยังเป็นการพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับนโยบายการจัดการข้อมูลภาครัฐที่มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงความปลอดภัยในกระบวนการทำงาน โดยสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เตรียมทั้งงบประมาณและบริการต่างๆ โดยจัดโครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Govemment Data Center and Cloud Service : GDCC) สำหรับระบบงานทั่วไปหรือบริการข้อมูลเปิด (Open Data) เพื่อให้บริการระบบเว็บไซต์กลางสำหรับหน่วยงานภาครัฐที่ต้องการมีเว็บไซด์ วงเงินงบประมาณ 216 ล้านบาท