
ประธานประเทศสปป.ลาวนายทองลุน สีสุลิด และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ร่วมกันทำ พิธีเปิดการใช้ทางรถไฟลาว-จีนในบ่ายวันนี้ผ่านวิดีโอลิงก์
นายทองลุนทำพิธีเปิดผ่านการถ่ายทอดสดจากศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ ขณะที่แขกที่ได้รับเชิญมารอที่สถานีเวียงจันทน์ ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ทำพิธีเปิดผ่านการถ่ายสดจากกรุงปักกิ่ง ขณะที่ รถไฟจอดเทียบชานชาลาอยู่ที่สถานีสิบสองปันนา เมืองคุนหมิงพร้อมที่จะเคลื่อนขบวน
ประธานประเทศลาว กล่าวว่า…
“พิธีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยสำหรับลาว นับเป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจของชาวลาวฝันกลายเป็นจริง”
นายทองลุนกล่าวอีกว่า รถไฟลาว-จีนเป็นของขวัญที่สุดยอดสำหรับชาวลาวเนื่องในโอกาสวันชาติ และเส้นทางรถไฟจะสร้างเงื่อนไขใหม่ในการพัฒนาประเทศลาวอย่างครอบคลุม
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์จากปักกิ่ง

“เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างลาวและจีน ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติร่วมกับประธานประเทศทองลุน สีสุลิด ในการเปิดทางรถไฟสายนี้อย่างเป็นทางการ ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างเต็มที่ในนามของประชาชนและพรรคคอมมิวนิสต์จีน”
ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า หลังจากการเปิดทางรถไฟลาว-จีน ซึ่งเชื่อมจีนจากคุนหมิงไปยังลาวในเมืองหลวงเวียงจันทน์ “ภูเขาก็ไม่สูงอีกต่อไป และถนนก็ไม่ยาวอีกต่อไป”
ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า…
จากนี้ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกันสร้างทางรถไฟสู่เส้นทางแห่งความร่ำรวยและนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ทั้งสองประเทศ
หลังจากผู้นำของทั้งสองประเทศกล่าวสุนทรพจน์เสร็จสิ้น รถไฟได้เคลื่อนตัวออกจากสถานีเวียงจันทน์และสถานีคุนหมิงไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเป็นการเปิดตัวการรถไฟลาว-จีนอย่างเป็นทางการ
พิธีเปิดในนครเวียงจันทน์มีนายกรัฐมนตรีนายพันคำ วิพาวัน รองประธานประเทศนางปานี ยาท่อตู้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของลาวและจีน คณะทูต และตัวแทนขององค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วมด้วย

เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี นายพันคำ วิพาวัน พร้อมด้วยบรรดาแกนนำพรรคประชาปฏิวัติลาวและรัฐบาล ชาวเวียงจันทน์ได้ร่วมทำพิธีเบิกโชคชัยมงคล เพื่อความราบรื่นและความสำเร็จ ของรถไฟที่สร้างขึ้นด้วยมูลค่า 5.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การพัฒนาที่ประสบความสำเร็จของโครงการมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เป็นผลมาจากการผนึกกำลังของโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง(Belt and Road Initiative )ที่จีนเสนอ และยุทธศาสตร์ของลาวในการเปลี่ยนจากประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเป็นประเทศที่เป็นจุดเชื่อมโยงทางบกภายในภูมิภาค
ในช่วงแรก จะมีการเดินรถ 18 เที่ยวต่อวัน โดยเป็นการขนส่งผู้โดยสาร 4 เที่ยว และขนส่งสินค้า 14 เที่ยว
ระยะทางจากเวียงจันทน์ถึงชายแดนจีนมีความยาวกว่า 426 กิโลเมตร และคาดว่าเส้นทางรถไฟจะลดต้นทุนการขนส่งได้ 30-40% เมื่อเทียบกับการเดินทางทางถนน จึงทำให้เกิดเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
รถไฟลาว-จีนขบวนแรกที่เคลื่อนตัวออกจากเวียงจันทน์ในบ่ายวันศุกร์ จึงมีการขนส่งสินค้าหลายประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์โปแตชที่ผลิตโดยกิจการร่วมค้าจีน-ลาวชื่อ Sino-Agri International Potash Company
ตง หย่งเหิง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ของเราผ่านรถไฟขบวนแรกที่มุ่งหน้าสู่จีน การเดินรถไฟจะช่วยเพิ่มการผลิตโพแทสเซียมในลาวและการส่งออก”
ตงกล่าวว่าสายการผลิตโพแทสเซียมด้วยกำลังการผลิต 1 ล้านตันต่อปีของบริษัทได้เริ่มเข้าสู่ระยะนำร่องในจังหวัดคำม่วน ทางตอนกลางของลาวเมื่อเร็วๆ นี้
“บริษัทของเรากำลังพิจารณาเพิ่มสายการผลิตที่ 2 และที่ 3 ด้วยกำลังการผลิต 1 ล้านตัน เราจะผลิตผลิตภัณฑ์ไฮเทคมากขึ้นและจ้างคนในท้องถิ่นมากขึ้น” นายตงกล่าว

ไซ มานีทอง นักเทคนิคในห้องปฏิบัติการของบริษัทในลาวกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า “การเดินรถไฟลาว-จีนเป็นสิ่งที่ชาวลาวคาดหวังมานานหลายทศวรรษ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ”
“จากการดำเนินงานของทางรถไฟ บริษัทของเรายังเปิดรับโอกาสในการพัฒนาที่ดีขึ้น พนักงานของเราและชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นก็จะดีขึ้นเช่นกัน” ไซ กล่าว
รถไฟโดยสารและขนส่งสินค้าใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเชื่อมต่อคุนหมิงในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับเวียงจันทน์เมืองหลวงของลาว ในระยะทาง 1,035 กิโลเมตร ใช้มาตรฐานทางเทคนิคของจีนทั้งหมด
การก่อสร้างในลาวจากต้นทาง สถานีนครหลวงเวียงจันทน์ ที่บ้านไซ เมืองไซทานี ยาวไปถึงปลายทาง สถานีบ่อเต็น เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทาเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2559 และการก่อสร้างในจีนจากเมืองยวี่ซีมาที่เมืองบ่อหาน สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ไป เริ่มในเดือนธันวาคม 2558
ด้วยความเร็วสูงสุดในการทำงาน 160 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง การเดินทางจากคุนหมิงไปเวียงจันทน์จะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง รวมทั้งเวลาผ่านพิธีการทางศุลกากร