ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “ปล่อยชั่วคราว ‘พุทธะอิสระ’ ฟ้องคดีซ้อมตำรวจ รอดคดีปลอมพระปรมาภิไธย” และ “อิสราเอลยอมส่ง จดหมาย-พัสดุ ให้ปาเลสไตน์ หลังกักไว้ 8 ปี หนักกว่า 10 ตัน”

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ : “ปล่อยชั่วคราว ‘พุทธะอิสระ’ ฟ้องคดีซ้อมตำรวจ รอดคดีปลอมพระปรมาภิไธย” และ “อิสราเอลยอมส่ง จดหมาย-พัสดุ ให้ปาเลสไตน์ หลังกักไว้ 8 ปี หนักกว่า 10 ตัน”

18 สิงหาคม 2018


ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 11-17 ส.ค. 2561

  • ปล่อยชั่วคราว “พุทธะอิสระ” ฟ้องคดีซ้อมตำรวจ รอดคดีปลอมพระปรมาภิไธย
  • สั่งฟ้องแล้ว อดีตพระผู้ใหญ่-ฆราวาส คดีเงินทอนวัด
  • เตรียมยื่นขอสัญชาติ “หม่อง ทองดี” ได้รับหนังสือรับรองคุณความดีสามฉบับแล้ว
  • ม.เอกชนแห่ปิดคณะเศรษฐศาสตร์ ชี้ เด็กเมิน-หางานยาก
  • อิสราเอลยอมส่ง จดหมาย-พัสดุ ให้ปาเลสไตน์ หลังกักไว้ 8 ปี หนักกว่า 10 ตัน
  • ปล่อยชั่วคราว “พุทธะอิสระ” ฟ้องคดีซ้อมตำรวจ รอดคดีปลอมพระปรมาภิไธย

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์ข่าวสด (https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1448982)

    เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2561 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์นำสำนวนส่งยื่นฟ้องนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย แกนนำ กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ อายุ 59 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310

    คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 เวลากลางวัน ขณะนั้นมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส. ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีจำเลยเป็นหัวหน้าผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณเวทีดังกล่าวทั้งหมด

    โดยจำเลยกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต. สมคิด เชยกมล และ ด.ต. วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1-2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปทำหน้าที่สืบสวนหาข่าว

    จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหักและตับฉีกขาด บาดแผลใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้เสียหายที่ 2 ได้รับอันตรายแก่กาย มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองถูกประทุษร้ายสูญหายมูลค่ารวม 60,900 บาท

    นอกจากนี้ จำเลยกับพวกยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสอง บอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย ให้บอกว่าตนเป็นผู้ใด เข้ามาบริเวณที่ชุมนุมเพื่ออะไร เมื่อไม่ยอมบอกพวกของจำเลยจึงใช้กำลังประทุษร้ายและข่มขู่ว่าจะเอาผู้เสียหายทั้งสองไปลอยน้ำ จนผู้เสียหายทั้งสองต่างจำยอมตามที่พวกของจำเลยข่มขู่

    โดยจำเลยนี้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการชุมนุมมีอำนาจสั่งการให้พวกของจำเลยปฏิบัติตามคำสั่งของตนได้ จำเลยทราบว่าพวกของจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้ แต่กลับเพิกเฉยไม่สั่งให้ปล่อยตัวไป และสั่งการพวกของจำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง

    เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้อัยการได้ขอให้ศาลนับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำ อ.247/2561 (คดีกบฏ กปปส.) ด้วย

    ต่อมาศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.2498/2561 และให้เบิกตัวจำเลยมาสอบคำให้การในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เวลา 9.00 น.

    ภายหลังการยื่นฟ้องทนายความนายสุวิทย์ยื่นหลักทรัพย์พร้อมคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมหลักทรัพย์ 2 เเสนบาท ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้วในชั้นนี้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีที่นายสุวิทย์ถูกแจ้งข้อหาปลอมพระปรมาภิไธย จากการนำอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. มาประดิษฐานหลังองค์พระเครื่องนาคปรก อุดปรอท รุ่นหนึ่งในปฐพี โดยไม่ได้รับพระราชทาน นั้นวันนี้พนักงานอัยการยังไม่ได้ยื่นฟ้องเข้ามาภายในระยะเวลาฝากขัง ศาลจึงหมดอำนาจควบคุมตัวในคดีดังกล่าว

    ต่อมา เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 21.20 น. ขณะที่เหล่าศิษยานุศิษย์กว่า 50 คนมารอรับนายสุวิทย์หรือ อดีตพระพุทธอิสระ ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีรถตู้สีขาวขับออกจากเรือนจำอย่างรวดเร็ว โดยมีนายสุวิทย์สวมชุดสีขาวนั่งอยู่ในรถตู้คันดังกล่าว และไม่ทราบที่หมาย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 ส.ค. 2561 เวลา 09.00 น. นายสุวิทย์จะต้องเดินทางมาสอบคำให้การจำเลยที่ศาลอาญา คดีทำร้ายร่างกายและหน่วงเหนี่ยวกักขังเจ้าหน้าทีตำรวจสันติบาล  ที่อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพิ่งยื่นฟ้องคดีเข้ามา

    สั่งฟ้องแล้ว อดีตพระผู้ใหญ่-ฆราวาส คดีเงินทอนวัด

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/810394)

    เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2561 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 1 ได้นำสำนวนเอกสาร ยื่นฟ้องนายเอื้อน กลิ่นสาลี หรืออดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และนายสมทรง อรรถกฤษณ์ หรืออดีตพระอรรถกิจโสภณ อดีตเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสระสามพระยา เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ฟ้องอดีตเจ้าอาวาส) และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีร่วมกันฟอกเงินจากการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

    ขณะที่วันเดียวกัน พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ก็ได้ยื่นฟ้องอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ร่วมกับฆราวาส รวม 8 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 กรณีร่วมกันฟอกเงินการทุจริตเงินทอนวัดในส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    โดยปัจจุบันจำเลยทั้งสิบถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขัง ไม่ได้รับการประกันตัว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้เหตุที่ระหว่างการฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตฯ และศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากเห็นว่า การกระทำความผิดมีผลกระทบต่อพุทธศาสนาและมีลักษณะเป็นขบวนการ โดยมีการแบ่งหน้าที่ยักย้ายเงินที่ได้มาผ่านทางธนาคาร จึงต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอยู่ในความครอบครองของพวกกระทำผิด หากให้ปล่อยชั่วคราวแล้วเชื่อว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านด้วย

    ขณะที่ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินการทุจริตนั้น ที่ผ่านมามีการฟ้องคดีเข้าสู่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง แล้วเพียง 1 สำนวน คือ พระครูกิตติ พัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ ขันทอง เจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค ที่อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2561 เป็นคดีหมายเลขดำ อท.38/2561 กรณีที่ร่วมกันกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อายุ 59 ปี ซึ่งยังหลบหนีคดี สมคบฟอกเงินทอนวัดต่างๆ ในเขต จ.เพชรบูรณ์, นครสวรรค์, ตากและชุมพร ราว 28 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

    โดยชั้นฝากขังพระครูกิตติ พัชรคุณ ไม่ได้รับการประกันตัว แต่ก็เพิ่งจะได้ประกันตัวชั้นพิจารณาคดีด้วยหลักทรัพย์ที่ศาลตีราคาประกัน 1.5 ล้านบาท โดยมีการกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้เก็บรักษาหนังสือเดินทางของจำเลยไว้ด้วย ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการรอไต่สวนพยานในชั้นศาล

    เตรียมยื่นขอสัญชาติ “หม่อง ทองดี” ได้รับหนังสือรับรองคุณความดีสามฉบับแล้ว

    จากกรณีของนายหม่อง ทองดี เด็กนักเรียนไร้สัญชาติที่ไปคว้าแชมป์การแข่งขันร่อนเครื่องบินกระดาษถึงประเทศญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. 2552 ซึ่งจนบัดนี้ เวลาผ่านมา 9 ปี จนน้องหม่องกลายเป็นนายหม่องที่อายุล่วงเข้า 21 ปีแล้วก็ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นบุตรของคนต่างด้าวอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชนกลุ่มน้อย ต้องเรียนจบปริญญาตรีในประเทศไทย หรือต้องยื่นคำร้องว่าทำคุณประโยชน์ ซึ่งต้องมีหลักฐานการทำคุณประโยชน์โดยมีหนังสือรับรองจากส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้อธิบดีกรมการปกครองพิจารณาออกหนังสือรับรองให้ไปยื่นขอสัญชาติได้

    ล่าสุด นายหม่อง ทองดี ได้รับหนังสือรับรองการทำคุณความดีแล้ว 3 ฉบับ ซึ่งออกให้โดยสถานีโทรทัศน์Thai PBS, พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลงนามโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และจาก ดร. คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

    หนังสือรับรองจากสถานีโทรทัศน์Thai PBS
    หนังสือรับรองจาก พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลงนามโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
    หนังสือรับรองจากดร. คุณหญิง กัลยา โสภณพนิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

    ทำให้ต่อจากนี้ นายหม่องสามารถนำหนังสือรับรองคุณความดีดังกล่าวไปยื่นให้อธิบดีกรมการปกครองตามขั้นตอนการยื่นขอสัญชาติได้ต่อไป

    ม.เอกชนแห่ปิดคณะเศรษฐศาสตร์ ชี้ เด็กเมิน-หางานยาก

    ที่มาภาพ: เว็บไซต์เดลินิวส์ (https://www.dailynews.co.th/economic/660279)

    วันที่ 13 ส.ค. 2561 เว็บไซต์เดลินิวส์รายงานว่า นางเสาวณีย์  ไทยรุ่งโรจน์  อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  เปิดเผยว่า ขณะนี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งเริ่มมีการปิดคณะเศรษฐศาสตร์ หลังจากนักศึกษาเข้ามาสมัครเรียนน้อยลงต่อเนื่อง  โดยมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ยังเปิดสอนก็มีเด็กนักศึกษาสมัครเข้าเรียนลดลงปีละ 20-40%   เนื่องจากเด็กที่จบการศึกษาในคณะดังกล่าวประเมินว่าสมัครงานยาก เพราะนายจ้างต้องการความรู้ความสามารถเฉพาะด้านมากกว่า  เช่น ธนาคารก็จะเน้นสาขาบัญชี หรือการเงิน การธนาคาร เป็นต้น  ดังนั้น หลายมหาวิทยาลัยได้ปรับหลักสูตรสาขาเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาพื้นฐานสำหรับผู้ที่เรียนสาขาต่างๆ
     
    ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเอกชนหลายแห่งได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนมากขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขัน เช่น การลดค่าเทอมลง 20-30%  และการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กให้มากที่สุด เช่น สาขาด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์, หลักสูตรการสร้างผู้ประกอบการยุคใหม่หรือสตาร์ทอัป  รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล, ธุรกิจเกม และสาขาอื่นๆ เป็นต้น  เนื่องจากเด็กนักเรียนได้เปลี่ยนแนวคิดที่จะไปเป็นผู้ประกอบการมากกว่าการเป็นลูกจ้างของบริษัท
     
    “ตอนนี้เด็กไม่ค่อยอยากเรียนสาขาที่เป็นศาสตร์แม้ว่าหลายๆ สาขาได้รับความนิยมมากในอดีต  โดยเฉพาะ นิเทศศาสตร์ แต่ปัจจุบันสื่อต่างๆ ค่อนข้างซบเซามากแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการเปิดกิจการจำนวนมากก็ตาม ส่วนเรื่องของอีคอมเมิร์ซนั้นถือว่าค่อนข้างมาแรงมากสอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจออนไลน์ หรือด้านดิจิทัลและสตาร์ทอัพก็จะมีความต้องการตามที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ยังพบว่าเรื่องของภาษาต่างๆ ก็ยังได้รับความสนใจเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น สาขาภาษาเกาหลี, อาหรับ, ญี่ปุ่น เป็นต้น”

    นางเสาวณีย์กล่าวว่า ตอนนี้วิชาเศรษฐศาสตร์ถือเป็นความรู้พื้นฐานแล้ว สำหรับการเรียนการสอน เนื่องจากยังมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันและใช้ในงานเพื่อการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหาภาค เป็นต้น อย่างไรก็ตามในส่วนของมหาวิทยาลัยเอกชนคงมีการเปิดสาขาเศรษฐศาสตร์ไม่กี่แห่งแล้ว หนึ่งในนี้ก็คือมหาวิทยาลัยหอการค้า ขณะที่มหาวิทยาลัยภาครัฐก็จะมีธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นต้น”
     
    อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลายๆ มหาวิทยาลัยจะปิดการเรียนการสอนสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์แล้วแต่ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าผู้ที่จบด้านเศรษฐศาสตร์โดยตรงจะมีมูลค่าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้านต่างๆ ทั้งการเมือง บริษัท และเป็นอาจารย์ โดยเฉพาะผู้ที่จบการศึกษาจากองค์กรที่มีชื่อเสียง เพราะปัจจุบันเริ่มมีผู้จบการด้านนี้ค่อนข้างน้อยมาก
     
    นางเสาวณีย์กล่าวว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยมีแผนที่จะขยายสาขาไปประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นหลังจากแนวโน้มจำนวนเด็กใหม่เริ่มลดลง เนื่องจากแต่ละครอบครัวมีบุตรไม่มากและหลายคนก็ยังครองตัวเป็นโสดโดยไม่มีการแต่งงาน ซึ่งต่างจากประชากรในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีปริมาณมากขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการลงนามความร่วมมือในการขยายหลักสูตรเอ็มบีเอไปยังเมืองย่างกุ้ง และได้ขยายหลักสูตรเพิ่มไปยังเมืองมัณฑะเลย์  และยังมีแผนขยายเพิ่มไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนอื่นๆ ทั้ง สปป.ลาว เวียดนามและกัมพูชา เป็นต้น
     
    ด้านนายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวว่า ค่อนข้างเสียใจอย่างมากที่หลายๆ มหาวิทลัยมีการปิดการเรียนการสอนสาขาเศรษฐศาสตร์หลังจากที่มีเด็กเข้ามาเรียนน้อย แต่ยืนยันว่าสาขาเศรษฐศาสตร์ยังมีความสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของแต่ละประเทศอยู่ และเชื่อว่าผู้ที่จบด้านนี้และมีศักยภาพยังคงเป็นที่ต้องการของหลายๆ องค์กร

    อิสราเอลยอมส่ง จดหมาย-พัสดุ ให้ปาเลสไตน์ หลังกักไว้ 8 ปี หนักกว่า 10 ตัน

    วันที่ 16 ส.ค. 2561 เว็บไซต์บีบีซีไทยรายงานว่า อิสราเอลยอมอนุญาตให้มีการนำส่งจดหมายและพัสดุที่ถูกกักไว้โดยทางการอิสราเอลตั้งแต่ปี 2010 ไปให้ชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์แล้ว โดยเป็นการอนุญาตให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

    จดหมายและพัสดุ รวมถึงสิ่งของที่ชาวปาเลสไตน์สั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต มีน้ำหนักรวมกว่า 10 ตัน โดยเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ต้องใช้เวลาอีกสองสัปดาห์กว่าจะคัดแยกและเริ่มส่งพัสดุสิ่งของไปตามที่อยู่ได้

    รามาดาน เกอซาวี ซึ่งทำงานที่ไปรษรณีเมืองเจริโค บอกว่าดูเหมือนสิ่งของจะถูกยึดไว้ด้วยเหตุผลเรื่องการบริหารจัดการ หรือด้านความมั่นคง

    ทั้งนี้ ในปัจจุบันอิสราเอลยังคงควบคุมเส้นทางเข้าไปยังเขตเวสต์แบงก์ ในส่วนที่ผ่านชายแดนประเทศจอร์แดน

    แถลงการณ์ของกระทรวงสารสนเทศปาเลสไตน์ กล่าวหาอิสราเอลว่าไม่ปฏิบัติตามทําข้อตกลงและความร่วมมือที่ลงนามกันเมื่อปี 2016 ที่อนุญาตให้ต่างชาติส่งจดหมายและพัสดุเข้าไปยังปาเลสไตน์ได้โดยไม่ต้องผ่านไปรษณีย์ของอิสราเอล

    ผู้ประสานงานเกี่ยวการดำเนินกิจกรรมของทางการในเขตยึดครองของกองทัพอิสราเอล บอกกับเอเอฟพีว่า มีการดำเนินการเรื่องข้อตกลงนั้นอยู่ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม