
ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์
ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว(2567) ลุงหมีได้เขียนบทความแนะนำเพลงคลาสสิกไว้ 7 ตอน คือ ตอนที่43 ถึง49 เริ่มจากเพลงคลาสสิกแบบเบาๆ( ตอนที่43) ตามด้วยเพลงเปียโน เพลงไวโอลิน และแนะนำผลงานเพลงของสุดยอดคีตกวี( composer) สามคน คือ beethoven mozart และtchaikovsky ( ตอนที่49)
เมื่อเดือนที่แล้ว ( มิถุนายน2568) ลุงหมีได้เขียนบทความนำเสนอการบรรยายแนวคิดในการแต่งเพลงและสร้างอารมณ์เพลงคลาสสิกไว้ในบทความตอนที่69 โดยได้รับการตอบรับจากผู้อ่านดีพอควร ลุงหมีจึงขอเขียนบทความแนะนำผลงานเพลง คลาสสิกที่มีชื่อเสียงต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง โดยจะจัดชุดเพลงตามแนวเพลงยุคต่างๆ หรือจัดตามกลุ่มคีตกวีที่มีชื่อเสียง โดยหวังว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจและความเพลิดเพลินในการฟังเพลงคลาสสิกที่มีความไพเราะ
เพลงมาร์ช( march music) คือเพลงคลาสสิกแนวหนึ่งบรรเลงด้วยวงออเคสตราเพื่อใช้ประกอบการเดินแถว เดินขบวนหรือเดินเป็นกลุ่มในโอกาสต่างๆ โดยทั่วไปเป็นเพลงจังหวะเร็ว ท่วงทำนองหนักแน่น เร้าใจ เริ่มต้นเป็นเพลงใช้กับการเดินทัพของทหาร การฉลองชัยชนะศึก ยุคต่อๆมามีการแต่งเพลงมาร์ช ในแนวที่อ่อนโยนลง เพื่อใช้ในโอกาสรวมกลุ่มรื่นเริงหรือเป็นบรรยากาศเศร้าก็ได้
เพลงมาร์ชนอกจากบรรเลงด้วยวงออเคสตราแล้ว ยังนิยมใช้กับวงโยธวาทิต ( marching band) หรือใช้เป็นเพลงเชียร์ในการแข่งขันกีฬาโดยเพิ่มเนื้อร้องปลุกขวัญกำลังใจเข้าไปหรือ ใช้ในโอกาสพิเศษที่ต้องการแสดงถึงความอลังการของพิธีการ
ลุงหมีได้เลือกเพลงมาร์ชมีชื่อเสียงมานำเสนอ 7เพลง เริ่มต้นด้วยเพลง triumphal march จากอุปรากรเรื่อง aida แต่งโดยคีตกวีverdi เมื่อปี 1871 ใช้ในฉากกองทัพอียิปต์มีชัยชนะกลับมาจากสงคราม คลิปที่เสนอนำมาจากการแสดงโอเปราเรื่องนี้ โดยมีฉากการเต้นรำของชาวเมืองเพื่อฉลองชัยชนะไว้ด้วย จัดเป็นฉากโอเปราที่อลังการมาก
เพลงที่สองชื่อ radetzky march แต่งในปี 1846 โดย johaness strauss นักแต่งเพลงชาวออสเตรีย ผู้มีชื่อเสียงทางแต่ง เพลงวอลท์ เพลงนี้เขียนขึ้นเพื่อฉลองการชนะสงครามนำทัพโดยจอมพลราเดซสกี้ คลิปที่นำมาเสนอเป็นการบรรเลงของวงvienna philharmonic orchestraเมื่อปี2017 จะเห็นว่าวาทยากร( conductor) เชิญชวนให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมปรบมือเข้ากับจังหวะเพลงเร้าใจด้วย
เพลงมาร์ชถัดไปแต่งโดยคีตกวีมีชื่อเสียงของประเทศออสเตรียอีกคนหนึ่ง คือ franz schubert เมื่อปี 1818 ตั้งชื่อโยงกับการสวนสนามของทหารโดยตรง คือ military march แต่เพลงนี้มีความอ่อนโยนพอเพียงให้ใช้ในโอกาสอื่นที่แสดงความหรูหราอลังการได้ ดังในคลิปที่เสนอ ใช้ในโอกาสมอบรางวัลโนเบลที่ประเทศสวีเดน เพลงนี้นิยมใช้เล่นโดยเสียงเปียโนด้วย
เพลงที่สี่เป็นเพลงแนวมาร์ชสั้นๆแต่งเพื่อใช้ในโอกาสเล็กๆคืองานแต่งงาน เพลงชื่อ wedding march นี้แต่งโดย felix mendelsshone เมื่อปี 1842 เพื่อใช้เป็นเพลงประกอบการแสดงบนเวทีผลงานของเช็คส์เปียร์เรื่องmidsummer night’s dream เพลงนี้นิยมเล่นในโบสถ์โดยใช้เครื่องดนตรีออร์แกน
เพลงที่ห้าเป็นเพลงมาร์ชที่แต่งในทำนองเพลงช้า เพื่อใช้ในโอกาสแห่ศพของผู้มีความสำคัญ เช่นราชวงศ์หรือผู้นำของประเทศ ชื่อ funeral march เป็นเพลงจากsymphony number 3 ท่อนที่สาม ( third movement) ของสุดยอดคีตกวีชาวเยอรมัน ludwig van beethoven คลิปที่นำมาเสนอเป็นของวงออเคสตราซึ่งconductโดยleonard bernstein ศิลปินอเมริกันผู้มีชื่อเสียงในยุค 60 และ70 ในฐานะนักแต่งเพลง นักเปียโนและผู้กำกับวงออเคสตรา ผลงานที่คนรู้จักกันดี คือเพลงที่ใช้ในหนังเพลงเรื่อง west side story
เพลงที่หกเป็นเพลงมาร์ชแต่งโดยคีตกวีชาวอังกฤษ sir edward elgar เมื่อปี 1991 ชื่อเพลง pomp and circumstance march เป็นเพลงจังหวะเร้าใจ มีท่อนท่วงทำนองอ่อนหวาน ผสมกับท่อน chorus ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ มักใช้เฉลิมฉลองโอกาสน่าประทับใจ งานแต่งงาน หรือพิธีรับปริญญาบัตร เพลงนี้เป็นเพลงแห่งความภูมิใจของคนอังกฤษ ดังแสดงออกในคลิปที่นำเสนอ ซึ่งจัดโดยสถานีโทรทัศน์bbcของอังกฤษเพื่อถ่ายทอดให้คนได้ชมทั้งประเทศ บรรยากาศของการฟังเพลงในเวทีแสดงคึกคักมาก คนฟังแสดงอารมณ์ร่วมด้วยการร่วมร้องเนื้อเพลงท่อนคอรัส โยกตัวตามจังหวะเพลง และโบกธงชาติอังกฤษ ( คลิปนี้ยาวถึง 8 นาที แต่เชื่อว่าสนุกคุ้มค่าที่จะฟังจนจบ)
ขอปิดบทความนี้ด้วยเพลงพระราชนิพนธ์เมื่อปี 1948 ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ชื่อเพลงมาร์ชราชวัลลภ หรือ royal guard march เป็นเพลงที่คุ้นหูของคนไทย คลิปเสนอการบรรเลงเพลงโดยวง thailand philharmonic orchestra
อ้างอิงที่มา…คลิปเพลงจากyou tube